- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 06 February 2019 16:45
- Hits: 3372
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
แนวต้านมีไว้ให้ฝ่า (2)
คาดดัชนีฯวันนี้ จะ ย่อสลับเด้ง กรอบ 1,645-1,662 จุด...เราคง มองว่า การเบรกผ่านแนวต้านระยะสั้น (กราฟรายวัน) ยังมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ อิงจากกราฟ ระยะสัปดาห์ และ เดือน ที่บ่งชี้ ภาวะการขึ้นรอบนี้ที่ยังไม่สุด บวกกับ ปัจจัยแวดล้อม ทั้งในและต่างประเทศ ช่วงนี้ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆ ที่จะกระทบกระเทือนบรรยากาศในการลงทุนมากนัก และที่สำคัญเมื่อ ไล่เช็คราคาหุ้นบูลชิพใหญ่ หลายตัว พบว่าราคาหุ้นและ Indicators ยังพอไปต่อได้ไหว ทำให้เชื่อว่าดัชนีฯ ยังมีโอกาสเบรกผ่านแนวต้านสั้นนี้ได้ กลยุทธ์ แนะ เลือกลงทุนเป็นรายตัว ต่อไป
สัปดาห์นี้ คาดดัชนีฯ ย่อสลับรีบาวด์ แนวรับ 1,636 แนวต้าน 1,660/1,670 จุด กลยุทธ์ แนะนำ เลือกซื้อหุ้น รายตัว ที่เข้ากับกระแสการลงทุนช่วงนี้ (1) หุ้นรับมาตรการ แก้ปัญหาฝุน PM 2.5 (2) หุ้นดัก รับแนวโน้ม เงินบาทกลับมาอ่อนค่าระยะสั้น
What to watch:
(+) วันนี้ กกร.นัด ถก มาตรการแก้ บาทแข็ง
(+) ประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ยที่ 1.75%
(*) วันนี้ คลัง นัดหารือ แนวทาง ควบรวม TMB และ ธนชาติแบงก์
(+/-) เช้านี้ (เวลาไทย) ปธน.ทรัมป แถลงผลงาน ประจำปี และ แผนดำเนินงานต่อจากนี้ ในช่วงที่เหลืออีก 2 ปี (ตลาดจะคอยจับประเด็น สงครามการค้า, และ การแก้ปัญหาหน้าผาทางการคลัง (Fiscal cliff) ที่กำลังจะมาถึงในปลายปีนี้)
หุ้นแนะนำ
KCE รับอานิสงส์ วันนี้ กกร.หารือมาตรการแก้ปัญหาบาทแข็ง / กลยุทธ์ มองค่าเงินบาทที่แข็งค่ามาตลอด 2-3 เดือน ที่ผ่านมา มีโอกาสจะหยุดแข็ง หรือ อ่อนค่าได้ บวกกับวันนี้ ตลาดเงินจะรอดูสัญญาณ กนง. ถ้าส่งสัญญาณ ไม่ได้เร่งขึ้นดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี มีโอกาสที่หุ้นซึ่งถูกกดดันจากบาทแข็ง จะถูกซื้อคืน (Cover short)
รายงานวันนี้
Thai Market Strategy: Baht hits too strong zone
Regression model ของความสัมพันธ์ระหว่าง THB/USD และ foreign-currency-reserves-to-GDP ratio บ่งชี้ว่าระดับสำรองในตอนนี้ที่ 208 พันล้านเหรียญ มูลค่าเหมาะสมของ THB/USD จะอยู่ที่ 32.8-32.9 บาท/USD โดยค่าเงินที่ระดับ 31.3 บาท/USD เป็นระดับที่ต่ำกว่าค่าเหมาะสมอยู่ 1SD เรายังไม่เห็นเม็ดเงินที่ไหลเข้าตลาดตราสารหนี้และตราสารทุนอย่างมีนัยยะสำคัญ ในขณะที่การขาย USD ของผู้ส่งออกหนุนให้เกิดการแข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงเดือน ม.ค. อย่างไรก็ตามเราคาดว่าระดับการแข็งค่าหลังจากนี้น่าจะชะลอตัวลง แต่คาดว่าไม่น่าจะมีการอ่อนค่าไปมาก เนื่องจาก USD ยังมีเทรนด์ของการอ่อนค่าอยู่
ผลกระทบเชิงลบจากการแข็งค่า: กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์, ปิโตรเคมี, เดินเรือ และพลังงาน
ผลกระทบเชิงบวก: กลุ่มสายการบินและกลุ่มผู้นำเข้า (เช่น TVO)
Transportation (Airlines): Flying higher through peak season
ตัวเลขนักท่องเที่ยวที่กลับมาเติบโตตั้งแต่เดือน พ.ย. บวกกับมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว หนุนให้ราคาหุ้นกลุ่มสายการบินปรับตัวขึ้นมาส่วนหนึ่ง เราคาดผลประกอบการ 4Q18 น่าจะลดลง YoY เพราะราคาน้ำมันที่ปรับตัวขึ้นมา แต่ใน 1Q19 คาดจะกลับมาดีได้เพราะราคาน้ำมันลงมาจาก 4Q18 แล้ว และนักท่องเที่ยวเริ่มกลับมา บวกกับมาตรการภาครัฐฯ เราชอบ AAV มากที่สุด ราคาเป้าหมาย 4.6 บาท
Retail Finance: New record profit expected for 4Q18!
เรามองว่า SAWAD จะรายงานกำไรที่โดดเด่นที่สุดใน 4Q18 ตามมาด้วย MTC, KTC และ JMT ในทางตรงกันข้าม เราคาด TK รายงานกำไรทรงตัว YoY จาก OPEX ที่เพิ่มขึ้น และการตั้งสำรอง LLP เพื่อรองรับ IFRS9
สำหรับมาตรการจากทางภาครัฐที่จะมีการกำหนดอัตราดอกเบี้ยให้ไม่เกิน 28% สำหรับ auto-refinancing loan และ 36% สำหรับ pico- และ nano-finance คาดจะไม่กระทบ SAWAD และ MTC โดยอัตราดอกเบี้ยพื้นฐานของ MTC และ SAWAD อยู่ที่ 23% และ 28% ตามลำดับ สำหรับ micro-finance ในขณะที่ TK มีอัตราดอกเบี้ยพื้นฐาน HP lending สำหรับ motorbike อยู่ที่ 36% ซึ่งอาจจะได้รับผลกระทบจากมาตรการดังกล่าว รวมถึง KTC และ JMT คาดไม่ได้รับผลจากมาตรการดังกล่าวเช่นเดียวกัน เรายังชอบ MTC และ KTC ที่สุดในกลุ่ม
BAY: Model trimmedextra provision for pension fund
ธนาคารตั้งเปาสินเชื่อโต 6-8% และ NIM 3.4-3.6% ซึ่งสูงกว่าประมาณการเดิมของเรา เราคาดธนาคารจะตั้งสำรองราว 2.6 หมื่นล้านบาท ใกล้เคียงกับปีที่แล้ว และสำหรับการตั้งสำรองผลประโยชน์พนักงานเราคาดจะตั้งราว 1.2 พันล้านบาท ใน 1Q19 ซึ่งเมื่อรวมผลกระทบนี้ บวกกับ NIM ที่น้อยกว่าคาดเราปรับกำไรลง 9% เป็น 2.25 หมื่นล้าบนาท ส่งผลให้กำไรปี 2019 หดตัวจากปี 2018 ตั้งนั้นเราปรับคำแนะนำลงเป็น ขาย
ANAN : ANAN acquired 5% in DTC
ANAN ประกาศซื้อหุ้น DTC จำนวน 42.5 ล้านหุ้น คิดเป็น 5% ของจำนวนหุ้น DTC ทั้งหมดที่ราคา 12 บาท รวมมูลค่าการลงทุน 510 ล้านบาท ANAN น่าจะมองผลตอบแทนในโครงการ Mix-use project แยกสีลม-พระราม 4 มีมูลค่ารวม 36.7 พันล้านบาทและเป็นโครงการรวมทุน CPN เบื้องต้นเราคาดการณ์ผลตอบแทนจากโครงการดังกล่าว 1.33 บาทต่อหุ้น หรือคิดเป็น PER 9 เท่า ANAN นับว่าอยู่ในระดับถูกและ laggard เมือเปรียบเทียบกับหุ้นชุดคอนโดหลายบริษัทที่ลงมาหนักในช่วงปลายปี 2018 โดยราคาหุ้น ANAN ยังซื้อขายต่ำกว่า BV YE18e ที่ 26% และ PER 2019 เพียง 4.8เท่า เราจึงคงคำแนะนำ ซื้อเก็งกำไร
PTTEP : ลงนามสัญญาซื้อขาย LNG โครงการโมซัมบิก
PTTEP ซึ่งถือ 8.5% ในโครงการโมซัมบิก รายงานว่าลงนามสัญญาซื้อขายก๊าซ เราคาดว่าโครงการดังกล่าวจะเพิ่มมูลค่าให้กับหุ้น ประมาณ 3 บาทต่อหุ้น ข่าวนี้น่าจะทำให้ตลาดคลายความกังวลต่อโครงการดังกล่าวที่ล่าช้าและยืนยันมุมมองเชิงบวกของเราต่อแนวโน้มการเติบโตในระยะยาวของ PTTEP แต่เนื่องจากยังต้องใช้ระยะเวลาอีกหลายปีกว่าโครงการนี้จะ COD เราจึงยังไม่ได้รวมผลกระทบจากโครงการดังกล่าวไว้ในประมาณการ ทั้งนี้ด้วยแนวโน้มการเติบโต YoY ของกำไร 1Q19 หนุนโดยราคาขายก๊าซที่แข็งแกร่งน่าจะเป็นปัจจัยหนุนราคาหุ้นในระยะสั้น เราจึงยังคงคำแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย ณ สิ้นปี 2019 ที่ 152 บาท
AU: เสิร์ฟเมนูใหม่ หนุนกำไร 4Q18 New High
เสิร์ฟเมนูใหม่ต้อนรับตรุษจีน ได้แก่ Hong Kong Milk Tea (ขายที่สาขา After You) และยังปล่อยขนมปังฮอตฮิตรสชาติใหม่ ดาร์คช็อกโกแลตเนยโสด ซึ่งเป็นการทำ co-branding กับ Starbucks (วางขายที่ร้าน Starbucks วันนี้ที่ราคากล่องละ 95 บาท มี 2 ก้อน) ความสำเร็จแบบไม่คาดฝันของขนมปังบ้านๆ แบบนี้ หนุนกำไรของ AU มาตั้งแต่ 4Q18 (เราคาดทำ New high ได้) และเราคงคาดกำไรโตถึง 30% ในปี 2019 Valuations บอกเลยเข้า concept ของดี ต้องมี premium อย่างไรก็ตาม PE ของ AU วันนี้นับว่ายังไม่ถึงกับแพงเกินไป โดย AU วันนี้หุ้น PER อยู่ที่ 35x ซึ่งเป็นระดับที่น่าสนใจ (ต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของบริษัทตั้งแต่ IPO ปี 2016 ที่ 50x), PEG 1.2x ยังวิ่งต่อไหว เราแนะนำ ซื้อ ที่ราคาเป้าหมาย 9.4 บาท
หุ้นมีข่าว
(*) TMB TCAP วันนี้คลังสรุป 'สวอปหุ้น' ทีเอ็มบี คลังนัดสรุปดีลควบรวม TMB-ธนชาตวันนี้ เผย 3 หน่วยงานระดมสมอง สศค. สคร. และทหารไทย (TMB) หาข้อยุติทุกประเด็น เพิ่มทุน ราคาหุ้น และสัดส่วนผู้ถือหุ้นใหม่ ก่อนเสนอ "อภิศักดิ์" / เร่งควบ'ทีเอ็มบี-ธนชาต'ภายในก.พ. คลังยันเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ไม่กระทบ (ที่มา ข่าวหุ้น / มติชน)
(*) นายเกรียงไกร เธียรนุกูล รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เปิดเผยว่า การประชุมคณะกรรมการร่วมภาคเอกชน 3 สถาบันได้แก่ ส.อ.ท. สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และสมาคมธนาคารไทย หรือ กกร. วันที่ 6 ก.พ. นี้ จะหารือภาพรวมเศรษฐกิจ โดยเฉพาะแนวโน้มอัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาทที่แข็งค่าต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมาเนื่องจากเป็นปัจจัยสำคัญที่ภาคเอกชนมีความกังวลว่า จะกระทบต่อขีดความสามารถทางการแข่งขันในการส่งออกของไทย จึงต้องการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดูแลเสถียรภาพค่าเงินบาทให้อยู่ในภาวะสมดุลที่สอดรับกับภูมิภาคเป็นสำคัญ (ที่มา เดลินิวส์)
(+) OCEAN โอเชี่ยน คอมเมิรช เผย กองทุน CAPITAL ASIA INVESTMENTS PTE LTD (CAI) จากประเทศสิงคโปร์ เข้าถือหุ้น สะท้อนถึงความมั่นใจในการดำเนินธุรกิจของบริษัท ขณะที่ออเดอร์แน่นรับนโยบาย B20 เพื่อลดปัญหาฝุนละอองขนาด 2.5 PM เกินมาตรฐานในระยะยาว พร้อมรับซื้อน้ำมันปาล์มในปริมาณที่มากขึ้นจากกลุ่มลูกค้า (ที่มา ผู้จัดการ)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1653.09 (-0.03%) มูลค่าการซื้อขาย 2.5 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มระยะสั้นมอง
SET Index แนวรับ 1,645 แนวต้าน 1,660 / SET100 รับ 2,415 ต้าน 2,440 BSET100 รับ 10.48 ต้าน 10.58 / BMSCITH รับ 12.45 ต้าน 12.55
Topic: Trend Following & Foreign Flow
Trend following หมายถึงราคาของหุ้นจะเคลื่อนที่ไปตามแนวโน้มหลัก จับตากระแสเงินทุนจากต่างประเทศไหลที่กำลังไหลเข้ามาในช่วงนี้
มุมมองตลาด:
การปรับตัวขึ้นร้อนแรงของดัชนีหุ้นไทยเริ่มสร้างความกังวลว่าอาจจะมีความเสี่ยงปรับตัวลดลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตามเนื่องจากกระแสเงินทุนจากต่างประเทศที่ไหลเข้ามาในประเทศไทยช่วงนี้จะช่วยลดผลกระทบจากการขายทำกำไร ตลอดระยะเวลา 1 เดือน นักลงทุนต่างชาติซื้อตลาดหุ้นไทย 6 พันล้านบาท ขณะที่นักลงทุนมีแนวโน้มเปลี่ยนมุมมองการลงทุนไปสู่สินทรัพย์เสี่ยงเพื่อผลตอบแทนที่สูงกว่า
กลยุทธ์:
แม้เริ่มเห็นความเสี่ยงที่ดัชนีตลาดหุ้นไทยจะฐานระยะสั้นเนื่องด้วยความร้อนแรงของดัชนี หากยืนบริเวณแนวรับ 1630-1640 จุดได้ (5&10 days EMA) เรายังคงคาดตลาดอยู่ในช่วงพักตัวบนรูปแบบขาขึ้น เนื่องด้วยปัจจัยกระแสเงินทุนไหลเข้าน่าจะหนุนดัชนีฯเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบันและยังคงเปาหมายบริเวณ 1680 จุด
วิธีการเลือกหุ้น:
ภาวะตลาดพักตัวแนะนำวิธีการเลือกหุ้น 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับหรือการเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟนตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic ,MACD ,Moving average
Technical screen Bull Signal:
PSL,ESSO,GLOBAL (Laggard play)
Technical screen Bear Signal: ---
Port หุ้นคงเหลือ:
TKN, AH, SAMART, AAV, WORK, KKP, MBK, BLA, CENTEL, GLOBAL (แนะนำถือต่อ)
ธนรัตน์ อิศรกุล
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
PSL
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 8.50
แนวต้าน 10.00/10.50
เหตุผล เครื่องมือ Bollinger band และ DI+ บ่งชี้สัญญาณกลับตัว
ESSO
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 11.20
แนวต้าน 13.00
เหตุผล โครงสร้างระยะกลางบ่งชี้รูปแบบขาขึ้น Higher low พร้อมกับสัญญาณบวก Bull MACD
GLOBAL
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 19.00
แนวต้าน 20.00/20.50
เหตุผล เส้นค่าเฉลี่ยบ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นระยะกลาง EMA Cross พร้อมกับค่า DI+