WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

BLSบล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
ภาพตลาดและแนวโน้ม 
 
แนวต้านมีไว้ให้ฝ่า       
          เมื่อวาน ดัชนีหุ้นไทย เริ่มลดช่วงบวกลงหลังทดสอบแนวต้านบริเวณ 1660 จุด ซึ่งในกราฟทางเทคนิค รายวัน ถือว่าเป็นกำแพงที่หนา (แนวต้านที่มีนัยยะ) ขณะที่ indicators หลายตัว เช่น Modified stochastic, RSI บ่งชี้อาการ Overbought หมดแรงส่ง...      
          คาดดัชนีฯวันนี้ จะ ย่อสลับเด้ง กรอบ 1,645-1,662 จุด...เรามองว่า การเบรกผ่านแนวต้านระยะสั้น (กราฟรายวัน) ยังมีโอกาสจะเกิดขึ้นได้ อิงจากกราฟ ระยะสัปดาห์ และ เดือน ที่บ่งชี้ ภาวะการขึ้นรอบนี้ที่ยังไม่สุด บวกกับ ปัจจัยแวดล้อม ทั้งในและต่างประเทศ ช่วงนี้ไม่ได้มีอะไรใหม่ๆ ที่จะกระทบกระเทือนบรรยากาศในการลงทุนมากนัก และที่สำคัญเมื่อ ไล่เช็คราคาหุ้นบูลชิพใหญ่ หลายตัว เช่น PTTGC TOP SCB ADVANC พบว่าราคาหุ้นและ Indicators ยังพอไปต่อได้ไหว ทำให้เชื่อว่าดัชนีฯ ยังมีโอกาสเบรกผ่านแนวต้านสั้นนี้ได้ กลยุทธ์ แนะ เลือกลงทุนเป็นรายตัว ต่อไป        
          สัปดาห์นี้ คาดดัชนีฯ ย่อสลับรีบาวด์ แนวรับ 1,636 แนวต้าน 1,660/1,670 จุด กลยุทธ์ แนะนำ เลือกซื้อหุ้น รายตัว ที่เข้ากับกระแสการลงทุนช่วงนี้ (1) หุ้นรับมาตรการ แก้ปัญหาฝุน PM 2.5 (2) หุ้นดัก รับแนวโน้ม เงินบาทกลับมา อ่อนค่า
 
What to watch:     
          (+) Shareholder rewards หนุนหุ้นไทย ตามคาด: อิงรายงาน กลยุทธ์ประจำสัปดาห์ เมื่อ 24 ธค. 2018 ที่เราระบุ ว่าหุ้นไทยมีโอกาสจะ ปรับขึ้น เพราะ เมื่อ บจ.ส่วนใหญ่ ส่งสัญญาณ "เพิ่มผลตอบแทนกลับคืนให้ผู้ถือหุ้น" ผ่านการซื้อหุ้นคืน และเป็นการสะท้อน แนวโน้มที่จะจ่ายเงินปันผลให้สูงกว่า นโยบายการจ่ายปกติ... 
          ซึ่งหลังจากประกาศงบ ปี 2018 ของ PTTEP SCC ในสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า ทั้ง 2 บจ.รายงานกำไรหลักดีกว่าคาด และที่สำคัญ ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สูงกว่าคาดทั้งคู่ PTTEP @3.25 บ./หุ้น และ SCC @9.5 บ./หุ้น (VS.ตลาดคาด 2.25 และ 7.5 บ. ตามลำดับ) 
          (+) Head up.earnings positive surprise: นอกจากนี้กำไรหลักที่ดีกว่าคาด ของ PTTEP SCC กลายเป็นการ Head up หรือ บอกล่วงหน้าถึง คาดการณ์กำไรสำหรับหุ้นกลุ่ม พลังงาน ปิโตรฯ ว่าจะมีแนวโน้มที่ดีกว่าตลาดคาดด้วย 
          (+) ค่าเงินบาท (1) การแข็งค่าของเงินบาท ในช่วงที่ผ่านมา จะเป็นบวกต่อ "งบ1Q19" สำหรับหุ้นที่มีหนี้สกุลเงินต่างประเทศในสัดส่วนที่สูง จากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เช่น PTTEP GULF BGRIM THCOM AAV (2) หาก เงินบาท กลับมาอ่อนค่าระยะสั้น ในเชิงกลยุทธ์ คาดอาจจะมีผลลบ ต่อหุ้นที่ต่างชาติ มีสัดส่วนในการถือครองฯ เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เช่น KTB GFPT LPN BANPU EGCO GLOW CPALL HMPRO MAJOR HANA SAWAD อาจถูกขายเพื่อล็อกกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนหุ้นส่งออก เช่น CPF HANA SVI KCE TU มีแนวโน้มจะกลับมา Outperform ตลาด    
          (+) ฝุ่น PM 2.5: คกก.สิ่งแวดล้อม โดยมีรองนายก เป็นประธาน จะหารือมาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหาฝุนพิษ PM2.5 ตามคำสั่งนายกในสัปดาห์นี้ เราคาด มาตรการหลัก เช่น เร่งให้เกิดการใช้ ปาล์ม ในการผลิต B20 สำหรับ รถเมล์ รถบรรทุก จะเป็น ข่าวบวกต่อราคาหุ้น GGC BCP 
 
หุ้นแนะนำ 
          ADVANC กสทช. อาจนำเงิน USO มาให้กู้ลงทุน 5G คิดดอกเบี้ย 1.5%
          BEC หากโอเปอเรเตอร์ ได้เงินกู้ดอกเบี้ยถูกมาลงทุน 5G BEC ก็มีโอกาสได้เงินเยียวยา  
 
รายงานวันนี้       
 
Retail: Sneak peek at 4Q18 soft sales 
          เรามองว่า 4Q18 จะเป็น High season ที่อ่อนแอที่สุดของกลุ่มตั้งแต่ 4Q13 โดยคาดกำไรจะเติบโตเพียง 2.7% YoY จากการฟนตัวของภาคการบริโภคที่ยังคงเป็นไปได้ช้า ในขณะที่การเปิดสาขาเป็นไปอย่างระมัดระวัง เราคาดว่ากลุ่มร้านสินค้าวัสดุและตกแต่งบ้านจะรายงานกำไรเติบโตดีที่สุด ในขณะที่กลุ่มเครื่องสำอางค์คาดอ่อนแอที่สุด (แม้ว่านักท่องเที่ยวจีนฟนตัว แต่มีปัญหาด้านการกระจายสินค้า) เรายังชอบ GLOBAL ที่สุดในกลุ่ม 
 
PYLON: Better off sitting aside  
          แม้ราคาหุ้นจะลงมาตามที่เราแนะนำขายแล้ว เรามองว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะกลับเข้าไปซื้อสำหรับนักลงทุนระยะสั้น เพราะ 1) เราคาดกำไรในช่วง 1-2 ไตรมาสข้างหน้า เริ่ม Flatten out 2) Backlog กำลังลดลง งานใหม่เข้ามาไม่ทัน 3) ตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่องานโครงการเอกชนขนาดใหญ่มากไป โดยอาจจะยังไม่ได้คำนึงถึงการชะลอการสร้างคอนโดใหม่ ดังนั้นเรามองว่าราคาหุ้นจะไม่สามารถขึ้นไปเทรดบน PE ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยได้ และราคาหุ้นปัจจุบันนับว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้ว 
 
Flow Tracker: ต่างชาติซื้อหุ้นไทยเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา 
          นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 88 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งต่อเนื่องจากการซื้อสุทธิ 39 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดซื้อสุทธิ 2,468 ล้านเหรียญ ซึ่งต่อเนื่องจากยอดซื้อสุทธิ 2,591 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับตลาดหุ้นไทย ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี Volume Flow ของตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณถึงแรงซื้อในหุ้นทุกกลุ่มที่เราดู โดยดัชนี Volume Flow ของหุ้นกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์แตะระดับ Overbought แล้ว ขณะที่ดัชนี Volume Flow ของหุ้นกลุ่มธนาคารและอสังหาฯปรับขึ้นจนถึงระดับเส้นกลาง  
 
หุ้นมีข่าว  
          (+) ทีวีดิจิตอล ค่ายมือถือ "กสทช." เดินหน้าช่วยผู้ประกอบการมือถือ-ทีวีดิจิทัล เตรียมประชุมร่วมรัฐบาล ขยายงวดค่าคลื่น 900 MHz จ่อชงหลักเกณฑ์เรียกคืนคลื่น 2600 MHz เข้าบอร์ด 12 ก.พ.นี้ เพื่อนำมาประมูลปี 62 ผุดไอเดียนำเงินกองทุน USO ที่มีกว่า 40,000 ล้านบาท ให้โอเปอเรเตอร์กู้ไปประมูลลงทุน 5G คิดดอกเบี้ย 1.5% (ที่มา ข่าวหุ้น) 
          (+) TMB  "อภิศักดิ์" เร่งธนชาตปิดดีลคลังเสนอราคาแลกหุ้นแบบพรีเมียมสูงกว่าราคากระดานไม่ต่ำกว่า 2.50 บาท แลกสิทธิทางภาษีกับอนาคตแบงก์ใหม่ ไอเอ็นจีจ่อเพิ่มทุนทหารไทย 4.3 หมื่นล้านบาทรักษาสัดส่วน 25% แซงกรุงศรีฯ ไล่บี้กสิกรไทย ด้าน "อภิศักดิ์" สั่ง 3 หน่วยงาน สศค. สคร. และทหารไทยเร่งสรุปดีล ก่อนเสนอครม.พิจารณา (ที่มา ข่าวหุ้น) 
          (+) จีนเริ่มฟนฟูการบริโภคด้วยการอุดหนุนให้ครัวเรือนในปักกิ่งถึง 120 ดอลลาร์ทุกครั้งที่ซื้ออุปกรณ์และเครื่องใช้ที่ประหยัดพลังงาน โครงการนี้จะใช้เวลา 3 ปี และครอบคลุมการซื้อเครื่องใช้ 15 ประเภท โดยหวังว่าจะช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในภาคค้าปลีกได้ นอกจากนี้กำลังเตรียมอุดหนุนการซื้อรถยนต์ที่ใช้พลังงานใหม่ด้วย (ที่มา ข่าวหุ้น) 
 
          วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336 
          นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค 
          ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
          นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน 
 
Trend Forecasting 
 
SET Index ปิด 1653.62 (+0.13%)  มูลค่าการซื้อขาย 3.1 หมื่นล้านบาท 
 
แนวโน้มระยะสั้นมอง
          SET Index แนวรับ 1,645 แนวต้าน 1,660 / SET100 รับ 2,415 ต้าน 2,440 BSET100 รับ 10.48 ต้าน 10.58 / BMSCITH รับ 12.44 ต้าน 12.55
 
Topic: "Fund flow booster for bullish engulfing pattern"  
 
มุมมองตลาด: 
          ดัชนีตลาดหุ้นไทยฟนตัวจากจุดต่ำสุด 1550 มาสู่ 1655 จุด ปรับตัวขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 5 สัปดาห์อาจสร้างความกังวลว่าดัชนีจะมีความเสี่ยงปรับตัวลงในระยะสั้น อย่างไรก็ตามผลลัพธ์มาจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้งและความตึงเครียดของสงครามการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนที่ลดลงจะช่วยหนุนให้กระแสเงินทุนไหลกลับ ภายหลังจากเงินทุนต่างประเทศไหลออกไปในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา ขณะที่กราฟแท่งเทียนรายเดือนของดัชนีบ่งชี้รูปแบบการกลับตัว "Bullish Engulfing"  
 
กลยุทธ์: 
          เรามองว่าไม่มีประเด็นสำคัญใดๆที่จะส่งผลให้ตลาดหุ้นลงในช่วงนี้ นอกจากนี้ธนาคารกลางสหรัฐฯกลางสหรัฐฯมีนโยบายผ่อนคลายชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยไปอีกหลายเดือนหลังจากปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ไปเมื่อเดือนธ.ค. 2018 เป็นปัจจัยที่ทำให้กระแสเงินทุนไหลเข้าในเอเซียรวมถึงไทยจะหนุนดัชนีฯเพิ่มขึ้นจากระดับปัจจุบัน 
 
วิธีการเลือกหุ้น: 
          ภาวะตลาดพักตัวแนะนำวิธีการเลือกหุ้น 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับหรือการเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟนตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic ,MACD ,Moving average 
 
Technical screen Bull Signal: 
          SAMART,CENTEL,GLOBAL (Laggard play) 
 
Technical screen Bear Signal: --- 
 
Port หุ้นคงเหลือ: 
          TU, CPF, OSP, TKN, AH, SAMART, AAV, WORK, KKP, MBK, BLA (แนะนำถือต่อ) 
 
          ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค 
          [email protected] +662-618-1334 
 
Track with Technical 
 
          SAMART 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 7.10 
          แนวต้าน 8.00/8.30 
          เหตุผล เครื่องมือ Bollinger band และ MACD ยืนยันสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น คล้ายรูปแบบในอดีต 
 
          CENTEL 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 44.00 
          แนวต้าน 49.00-50.00 
          เหตุผล ทะลุแนวต้านสำคัญ 44 ยืนยันสัญญาณกลับตัว"Bull MACD" 
 
          GLOBAL 
          แนะนำ ซื้อ 
          แนวรับ 18.70 
          แนวต้าน 20.00/20.50 
          เหตุผล เส้นค่าเฉลี่ยบ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นระยะกลาง "EMA Cross" พร้อมกับค่า DI+ 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!