- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 February 2019 16:49
- Hits: 1857
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“新正如意 新年发财 ซินเจียยู่อี่ ซินนี้ฮวดไช้”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET สัปดาห์ก่อนปรับขึ้น 1.7%WoW และบวก 5.6%YTD ปิดตลาดที่ 1651.40 รับข่าวเฟดส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ย, การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนมีความคืบหน้า และมีแผนเจรจากันอีกรอบก่อน 1 มี.ค.61 ที่ถึงกำหนดเส้นตายที่สหรัฐจะเพิ่มอัตราภาษีนำเข้าเป็น 25% จากปัจจุบัน 10% รวมทั้งมีการเก็งกำไรงบฯปี 61 ที่ทยอยออกมา & ซื้อดักหุ้นปันผลสูง
ต้นสัปดาห์นี้ปัจจัยยังไปทางบวก ทั้งจากตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรสหรัฐที่ออกมาสูงถึง 3.04 แสนตำแหน่งในเดือนม.ค.62, ดัชนีPMI ภาคผลิตสหรัฐที่เพิ่มขึ้นเป็น 54.9 สูงสุดในรอบ 4 เดือน ทำให้ความกังวลเศรษฐกิจชะลอตัวผ่อนคลายลง, ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นราว3% ในวันศุกร์ กระตุ้นการคาดการณ์ว่าผลกำไรกลุ่มพลังงานและปิโตรฯจะพลิกฟื้นดีขึ้นใน 1Q62, การซื้อดักหุ้นปันผลสูง และการลงทุนโครงการใหญ่ภาครัฐของไทยที่เดินหน้าต่อ อย่างไรก็ดี การซื้อขายช่วงต้น Week อาจไม่คึกคักนักเพราะหลายตลาดปิดทำการเนื่องในเทศกาลตรุษจีน รวมทั้งดัชนีอาจผันผวนจากแรงขายทำกำไร Sell on fact บ้าง แต่ถ้า SET อ่อนลงไม่ต่ำกว่า 1630 ก็ยังไปต่อได้สำหรับการประชุมกนง.วันที่ 6 ก.พ.นี้คาดว่าจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.75% ก่อน เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อยังไม่เร่งตัว ขณะที่เศรษฐกิจอาจถูกกระทบจากภาคส่งออกที่ดูว่ามี Downside risk ซึ่งทางธปท.อาจปรับคาดการณ์ใหม่ในเดือนมี.ค.62
# หุ้นแนะนำวันนี้เป็น KKP : สินเชื่อปี 62 เติบโตต่อ ธนาคารตั้งเป้า +8% เน้นสินเชื่อ High yield ในกลุ่ม SME และอสังหาฯรายกลาง-เล็กส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์จะชะลอลงเพราะเห็น NPL ในกลุ่มนี้กลับมาเพิ่มขึ้น ด้าน NPL ratio คาดไว้ที่ 4% เงินปันผลยังคงสูง คาดของ2H61 ไว้ที่ 3 บาท/หุ้น และของปี 62 เท่ากับ 5 บาท/หุ้น (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) คิดเป็น Yield ของ 2H61 = 4.3% และปี 62 = 7.2%
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นภาพตลาดเป็นบวก ซื้อใหม่เน้นค่าบวกราคาหุ้นและดัชนี แนวต้านระยะสั้น 1660-1670, SET หลุด1630 จุดดูไม่ค่อยดี ให้ Stop loss เพื่อรอซื้อช่วงปรับฐาน
หุ้นที่มีสัญญาณเทคนิคดีมีโอกาสทำ New high ที่เข้ามาใหม่เป็น KKP, STEC, TOP, AOT, BLA, PTTGC, KTC หุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ JWD, GLOW, AMATA, WHA, MTC, UTP, GLOBAL หุ้นที่แนะนำไป&ให้หาจังหวะ Take profit ได้แก่ CK, ERW, ECL, VNT, GFPT, CKP
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : ASIAN (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 10.95)
CHG (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 2.30)
PF (Fully Valued -ราคาพื้นฐาน 0.73)
QH (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 3.34)
Stock in Focus : AEONTS : การเติบโตแข็งแกร่ง และ Valuation จูงใจ
In The News : TKS : แย้มว่าคว้างานพิมพ์บัตรเลือกตั้งมาแล้ว 50% ลุ้นส่วนที่เหลือ
ADVANC : ประกาศกำไรปี 61 และแผนลงทุน 7 ก.พ.
Turnover List Watch : ไม่มีหลักทรัพย์ติด Cash Balance ตามคาด
• อังกฤษ : นายกฯอังกฤษต้องนำร่างข้อตกลง Brexit ฉบับใหม่ไปเจรจากับผู้นำ EU 1-8 ก.พ.นี้ แล้วค่อยกลับมาให้รัฐสภาอังกฤษโหวตอีกครั้ง
+ เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าตลาดเกิดใหม่ หลังจากเฟดส่งสัญญาณอาจไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในช่วง 1H62 ... เป็นบวกต่อตลาดเงิน & หุ้น
+/• ตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนี DJIA วันศุกร์ปิดที่ 25,063.89 จุด +64.22 จุด หรือ +0.26% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,706.53 จุด +2.43 จุด หรือ +0.09% สะท้อนตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.62 ของสหรัฐที่แข็งแกร่งเกินคาดแต่ดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,263.87 จุด -17.87 จุด หรือ -0.25% เพราะหุ้นอเมซอนที่ปรับตัวลดลงถึง 5.38% แม้กำไร 4Q61ดีเกินคาดแต่บริษัทเตือนว่าปี 62 อาจมีค่าใช้จ่ายเพิ่มขึ้น
+ ราคาน้ำมันดิบ : วันศุกร์ปรับขึ้นราว 3% สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. +1.47 ดอลลาร์ หรือ +2.7% ปิดที่ 55.26 ดอลลาร์/บาร์เรล และสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนเม.ย. +1.91 ดอลลาร์ หรือ +3.1% ปิดที่ 62.75ดอลลาร์/บาร์เรล หนุนโดยตัวเลขภาคแรงงานสหรัฐที่ออกมาดีกว่าคาด และเบเกอร์ ฮิวจ์ รายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานลดลง 15 แท่นในสัปดาห์ก่อน สู่ระดับ 847 แท่น ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ค.61
- ราคาทองคำ : สัญญาทองคำตลาด COMEX ส่งมอบเม.ย. ลดลง 3.10 ดอลลาร์ หรือ -0.23% ปิดที่ 1,322.10ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ & ข่าวเด่น
• ไทย : ดัชนีความเชื่อมั่นธุรกิจม.ค.62 ทรงตัว ที่ 50.0 ใกล้กับเดือนธ.ค.61 ส่วนดัชนี 3 เดือนข้างหน้าทรงตัวที่ 55.1ดัชนีย่อยส่วนใหญ่ทรงตัว ยกเว้นดัชนีการลงทุนที่ปรับตัวดีขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มชิ้นส่วนอิเลคทรอนิกส์ และเครื่องใช้ไฟฟ้า
• กนง. : ประชุม 6 ก.พ.62...คาดคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.75% เพราะเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มเติบโตในอัตราลดลงในปี 62 แรงกดดันด้านเงินเฟ้อไม่มากเพราะราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นไม่แรง เนื่องจากอุปทานน้ำมันสูง และเฟดชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย
- ส่งออกไทย : ธปท.อาจปรับลดคาดการณ์การเติบโตส่งออกปี 62 ในเดือนมี.ค.62 ทั้งนี้มูลค่าส่งออกธ.ค.61 แย่กว่าคาด (-1.6%YoY) เนื่องจากถูกกระทบจากสงครามการค้า และมีโมเมนตัมลบต่อมาในต้นปี 62 ทางธปท.มองว่าส่งออกปี 62 อาจขยายตัวน้อยกว่าที่ประมาณการไว้ในเดือนธ.ค.ปีก่อนที่ +3.8% ซึ่งธปท.จะประเมินคาดการณ์อีกครั้งในเดือนมี.ค.62
+/- เงินบาท : ค่าเงินแข็งเป็นทั้งบวกและลบ โดยเป็นลบกับกลุ่มส่งออกสุทธิ แต่บวกกับกลุ่มนำเข้าสุทธิ & บริษัทที่มีหนี้ต่างประเทศ ส่วนท่องเที่ยวกระทบจำกัด
• เกี่ยวกับการเลือกตั้ง : บรรยากาศรับสมัครส.ส.คึกคัก ซึ่งมีกำหนดรับสมัครส.ส.แบบแบ่งเขตทั่วประเทศ 4-8 ก.พ.62และเลือกตั้ง 24 มี.ค.62
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]