- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 04 February 2019 16:41
- Hits: 1531
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Sideways up
เมื่อวาน ศุกร์หุ้นไทย ไม่ย่อลง (ผิดคาด) คาดวันนี้ หุ้นไทย Sideways up ต่อ กรอบ 1,644-1,662 จุด
สัปดาห์นี้ คาดดัชนีฯ ย่อสลับรีบาวด์ แนวรับ 1,636 แนวต้าน 1,660/1,670 จุด กลยุทธ์ แนะนำ เลือกซื้อหุ้น รายตัว ที่เข้ากับกระแสการลงทุนช่วงนี้ (1) หุ้นรับมาตรการ แก้ปัญหาฝุน PM 2.5 (2) หุ้นดัก รับแนวโน้ม เงินบาทกลับมา อ่อนค่า
What to watch:
(+) Shareholder rewards หนุนหุ้นไทย ตามคาด: อิงรายงาน กลยุทธ์ประจำสัปดาห์ เมื่อ 24 ธค. 2018 ที่เราระบุ ว่าหุ้นไทยมีโอกาสจะ ปรับขึ้น เพราะ เมื่อ บจ.ส่วนใหญ่ ส่งสัญญาณ "เพิ่มผลตอบแทนกลับคืนให้ผู้ถือหุ้น" ผ่านการซื้อหุ้นคืน และเป็นการสะท้อน แนวโน้มที่จะจ่ายเงินปันผลให้สูงกว่า นโยบายการจ่ายปกติ...
ซึ่งหลังจากประกาศงบ ปี 2018 ของ PTTEP SCC ในสัปดาห์ที่แล้ว พบว่า ทั้ง 2 บจ.รายงานกำไรหลักดีกว่าคาด และที่สำคัญ ประกาศจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล สูงกว่าคาดทั้งคู่ PTTEP @3.25 บ./หุ้น และ SCC @9.5 บ./หุ้น (VS.ตลาดคาด 2.25 และ 7.5 บ. ตามลำดับ)
(+) Head up.earnings positive surprise: นอกจากนี้กำไรหลักที่ดีกว่าคาด ของ PTTEP SCC กลายเป็นการ Head up หรือ บอกล่วงหน้าถึง คาดการณ์กำไรสำหรับหุ้นกลุ่ม พลังงาน ปิโตรฯ ว่าจะมีแนวโน้มที่ดีกว่าตลาดคาดด้วย
(+) ค่าเงินบาท (1) การแข็งค่าของเงินบาท ในช่วงที่ผ่านมา จะเป็นบวกต่อ "งบ1Q19" สำหรับหุ้นที่มีหนี้สกุลเงินต่างประเทศในสัดส่วนที่สูง จากกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยน เช่น PTTEP GULF BGRIM THCOM AAV (ดู Figure 4) (2) หาก เงินบาท กลับมาอ่อนค่าระยะสั้น ในเชิงกลยุทธ์ คาดอาจจะมีผลลบ ต่อหุ้นที่ต่างชาติ มีสัดส่วนในการถือครองฯ เพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา เช่น KTB GFPT LPN BANPU EGCO GLOW CPALL HMPRO MAJOR HANA SAWAD อาจถูกขายเพื่อล็อกกำไรอัตราแลกเปลี่ยน ส่วนหุ้นส่งออก เช่น CPF HANA SVI KCE TU มีแนวโน้มจะกลับมา Outperform ตลาด
(+) ฝุ่น PM 2.5: คกก.สิ่งแวดล้อม โดยมีรองนายก เป็นประธาน จะหารือมาตรการเร่งด่วนแก้ปัญหาฝุนพิษ PM2.5 ตามคำสั่งนายกในสัปดาห์นี้ เราคาด มาตรการหลัก เช่น เร่งให้เกิดการใช้ ปาล์ม ในการผลิต B20 สำหรับ รถเมล์ รถบรรทุก จะเป็น ข่าวบวกต่อราคาหุ้น GGC BCP
หุ้นแนะนำ
CPF TU เก็งรับบาทอ่อนระยะสั้น
รายงานวันนี้
Tourism: Clear skies for tourism bounce back
เรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยวจาก 4 เหตุผล 1) 2019 ดูเหมือนจะเป็นปีของการฟนตัวหลังจากที่เกิดการชะลอตัวไปใน 2H18 โดยประเมินการเติบโตของนักท่องเที่ยวที่ 7.5% (และอัตราการใช้จ่ายต่อหัวเพิ่มขึ้น 2.5%), 2) เราประเมินกำไรเติบโตแข็งแกร่งใน 4Q18-1Q19, 3) ได้รับประโยชน์จากการเลือกตั้ง ซึ่งแต่ละพรรคล้วนให้การสนับสนุนการท่องเที่ยว (18% ของ GDP) และ 4) Valuations rerating เราชอบ AOT, CENTEL และ ERW
SEAFCO: Wait for a better timing
แม้ราคาหุ้นจะลงมาตามที่เราแนะนำขายแล้ว เรามองว่ายังไม่ใช่เวลาที่จะกลับเข้าไปซื้อ เพราะ 1) เราคาดกำไรในช่วง 1-2 ไตรมาสข้างหน้า เริ่ม Peaked out 2) Backlog กำลังลดลง งานใหม่เข้ามาไม่ทัน 3) ตลาดมีมุมมองเชิงบวกต่องานโครงการเอกชนขนาดใหญ่มากไป โดยอาจจะยังไม่ได้คำนึงถึงการชะลอการสร้างคอนโดใหม่ ดังนั้นเรามองว่าราคาหุ้นจะไม่สามารถขึ้นไปเทรดบน PE ที่สูงกว่าค่าเฉลี่ยได้ และราคาหุ้นปัจจุบันนับว่าอยู่ในระดับที่เหมาะสมแล้วจึงไม่มีอัพไซด์จูงใจพอที่จะเข้าไปซื้อ
หุ้นมีข่าว
(+) ADVANC "เอไอเอส" ประกาศวิสัยทัศน์ "ดิจิทัล แพลตฟอร์ม" รองรับการเติบโตของประเทศ ย้ำพร้อมเข้าประมูล 5 จี ตุนคลื่นความถี่ แต่ขอศึกษาเงื่อนไขก่อน ระบุปี 64 เหมาะสม (ที่มา เดลินิวส์ กรุงเทพธุรกิจ)
(-) ส.อ.ท.ประกาศหยุดผลิต-ลดกำลังการผลิต 1,500 โรงงาน ใน 15 จังหวัด หวังลดปัญหาฝุน 30% ด้านราชบุรีหยุดเผาโอ่ง หน้าพระลาน สระบุรี ที่เป็นเมืองในหมอก ให้โรงโม่หินติดระบบสเปรย์น้ำพ่นล้างฝุนพิษ (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ ไทยรัฐฯ)
(+) หนังสือพิมพ์เซาท์ ไชน่า มอร์นิ่ง โพสต์ รายงานโดยอ้างแหล่งข่าวว่า ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมปแห่งสหรัฐ และประธานาธิบดีสี จิ้งผิงของจีน กำลังพิจารณาเรื่องการจัดประชุมร่วมกันในวันที่ 27-28 ก.พ.นี้ ที่เมืองดานัง ประเทศเวียดนาม รายงานระบุว่า ปธน.ทรัมปได้ส่งสัญญาณถึงการประชุมดังกล่าวเมื่อคณะเจ้าหน้าที่ของจีนได้เดินทางเยือนกรุงวอชิงตันเพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่สหรัฐเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โดยปธน.ทรัมปกล่าวว่า เขารอคอยที่จะพบปะหารือกับปธน.สีอีกครั้ง หรืออีกสองครั้ง เพื่อสรุปประเด็นข้อตกลงการค้ากับจีน (ที่มา ASPEN)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1651.40 (+0.59%) มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มระยะสั้นมอง
SET Index แนวรับ 1,645 แนวต้าน 1,660 / SET100 รับ 2,415 ต้าน 2,435 BSET100 รับ 10.46 ต้าน 10.58 / BMSCITH รับ 12.44 ต้าน 12.60
Topic: "SET bullish when dollar bearish"
มุมมองตลาด:
ดัชนีตลาดหุ้นไทยปรับขึ้นทำจุดสูงสุดใหม่ในรอบ 6 สัปดาห์เนื่องจากกระแสเงินลงทุนไหลเข้า นอกจากนี้หุ้นขนาดกลาง-ถึงเล็กส่งสัญญาณฟนตัวจากภาวะขายมากเกินไป (Oversold) สอดคล้องกับเครื่องมือทางเทคนิค MACD และ RSI แสดงระดับต่ำสุดที่สูงขึ้นและมีสัญญาณตัดเส้น Signal line ซึ่งเป็นสัญญาณเชิงบวก นอกจากนี้เราแสดงตัวชี้วัดบางส่วนที่ใช้วัดเมื่อตลาดถึงจุดเปลี่ยนรอบเป็นขึ้น เช่น การทะลุเส้นค่าเฉลี่ยระยะสั้น-กลางพร้อมกับการปรับตัวขึ้นของหุ้นในแต่ละกลุ่มอุตสาหกรรมขึ้นตามภาวะตลาดได้อย่างแข็งแกร่ง จับตาสัญญาณอ่อนค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ อาจส่งผลให้กระแสเงินลงทุนไหลกลับ คำถาม:ดัชนีจะขึ้นไปได้อีกไกลแค่ไหน? ตัวเลข Fibonacci ratio 61.8% แสดงจุดต้านไว้ที่ 1680 จุด
กลยุทธ์:
กระแสเงินลงทุนไหลเข้าหนุนบาทแข็งหุ้นขึ้น
วิธีการเลือกหุ้น:
ภาวะตลาดพักตัวแนะนำวิธีการเลือกหุ้น 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับหรือการเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟนตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic ,MACD ,Moving average
Technical screen Bull Signal:
KKP,MBK,BLA (Laggard play)
Technical screen Bear Signal: ---
Port หุ้นคงเหลือ:
TU, CPF, OSP, CPN, WHA, TFG, TKN, AH, SAMART, ASAP,AAV,WORK (แนะนำถือต่อ)
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
KKP
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 68.00
แนวต้าน 73.00/76.00
เหตุผล ราคาปิดทะลุแนวต้านสำคัญ 68.5 บ.ยืนยันสัญญาณกลับตัว"Bull MACD"
MBK
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 20.30
แนวต้าน 22.00 /22.50
เหตุผล ส่งสัญญาณเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้นจากการปิดเหนือเส้นค่าเฉลี่ย EMA cross ขณะที่ DI+ บ่งชี้รูปแบบขาขึ้นระยะกลาง
BLA
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 27.50
แนวต้าน 32.00-33.00
เหตุผล โครงสร้างราคาบ่งชี้สัญยาณกลับตัวเป็นขาขึ้น "Double Bottom" และ RSI แสดงโมเมนตัมความแข็งแกร่ง