WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Mayบล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
 
Market summary
          เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับตัวขึ้นตามภูมิภาค โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงซื้อเด่นกระจายในกลุ่มใหญ่ นำโดย กลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, SCB กลุ่ม ICT นำโดย DTAC, TRUE และกลุ่ม Global play อย่าง PTT, PTTEP, IVL และ PTTGC อย่างไรก็ตาม มีแรงขายทำกำไรใน BDMSณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,641.7 จุด (+9.13 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 5.7 หมื่นลบ. เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.8 หมื่นลบ.
          นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาขายวันแรกในรอบ 6 วันทำการที่ 1,305 ลบ. (กองทุนซื้อสุทธิ 6,839 ลบ.) แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 13,077 สัญญา
 
Investment theme
          Trump แทงกั๊ก ยังไม่ประกาศผลเจรจาการค้าอย่างเป็นทางการ :เมื่อคืนที่ผ่านมายังไม่ได้บทสรุปของการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างเป็นทางการ โดย Trump ระบุจะแถลงอย่างเป็นทางการหลังการพบปะ Xi Jinping ในช่วงปลายเดือนก.พ. เบื้องต้นผู้แทนการค้าจีนแถลงเตรียมนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐ 5 ล้านตัน/วัน เราประเมินเหตุผลหลักของการเกิดสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน นอกเหนือจากสหรัฐต้องการที่จะตั้งเป้าลดยอดขาดดุลที่สูงกว่า 3.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐแล้ว ประเด็นการบังคับให้ถ่ายโอนข้อมูล และสิทธิทางปัญญา (AI, Technology) ยังถือเป็นสิ่งที่สหรัฐไม่พอใจจีนในช่วงที่ผ่านมาอย่างมาก ฉะนั้นเรามองว่าสหรัฐเองอาจไม่ได้ต้องการเพียงลดยอดขาดดุลจากการที่จีนยอมสั่งสินค้าเพิ่ม แต่ต้องการให้จีนมีแผนที่ชัดเจนต่อประเด็นการละเมิดสิทธิทางปัญญาและประเด็นการถ่ายโอนข้อมูลจากบริษัทสหรัฐที่ไปลงทุนในจีน ซึ่งหากออกมาเข้าค่ายเกณฑ์ที่ดีเราคาด SET มีโอกาสกลับขึ้นไปเทรดในกรอบ 1,645-1,690 จุด 
          Investment Theme: วันนี้เราคาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,645 +/- คงคำแนะนำถือหุ้น BEM, EGCO, VGI, CPALL, BJC และทยอยสะสม  AOT พร้อมถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% 
 
Big issue
          เมื่อคืนที่ผ่านมา : ก.คลังระบุโครงการรถไฟความเร็วสูงไทย-จีน จะใช้แหล่งเงินกู้ในประเทศเป็นหลัก / Central group ทุ่ม 200 ล้านเหรียญลงทุนใน Grab ต่อยอด Online to offline / CIMBT เตรียมปรับขึ้น MRR รายแรกราว 0.125% มีผล 1 ก.พ.นี้ / จีนรายงาน PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.ที่ 49.5 ขยับขึ้นเล็กน้อยจาก 49.4 ในเดือนก่อน
 
แบ่งผลเจรจาการค้า 3 Cases
          แบ่งผลเจรจาการค้าเป็น 3 Cases : ภายหลังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจบลง เราคาดเร็วๆนี้ จะมีการแถลงผลการเจรจาอย่างเป็นทางการ โดยเราแบ่งผลลัพธ์เป็น 3 Cases นำโดย  1) Best case กล่าวคือยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25% , ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67แสนล้านเหรียญ, ยกเลิกวงเงิน  2.5 แสนล้าน ที่มีอยู่ในปัจจุบันออก คาด SET ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,645 จุด แนะซื้อ PTTEP, PSL, WICE และ 2) Base case กล่าวคือ ยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25%, ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67 แสนล้านเหรียญ, แต่ยังคงภาษีวงเงินเดิม 2.5 แสนล้านเหรียญ คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,585-1,620 จุด แนะซื้อ AOT, TU และ 3) Worst case กล่าวคือขึ้นอัตราภาษี 25%, ขึ้นวงเงินภาษีอีก 2.67 แสนล้าน รวมเป็น 5.1 แสนล้านเหรียญ คาด SET เปิด Downside 1,540- จุด ซึ่งถือเป็นภาพจะส่งผลเสียต่อทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลก, การเมืองโลก 
          Trading idea -  เก็งกำไร CPF ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท คาดงบ Q4 พลิกเป็นกำไรที่ 1,732 ล้านบาท สนับสนุนจากราคาหมูในไทยและเวียดนามที่เพิ่มขึ้นกว่า 30%และ 80% YoY ตามลำดับ ในขณะที่ราคาปัจจุบันสูงขึ้นแตะ 70 บาท คาดส่งผลให้งบ Q1 ดีต่อ QoQ
 
Technical View
          อ่อนตัวไม่หลุดแนวรับ 1630 ยังมองเป็นโอกาสสะสม:  ดัชนีปรับตัวขึ้นจากแรงซื้อหลักกลุ่มธนาคารและพลังงาน ทำให้ดัชนีปรับตัวขึ้นผ่านแนวต้าน 1640 ได้ แม้ภายในวันจะมีแรงขายกดดันหุ้นกลุ่มขนส่งและโรงพยาบาล จนลดช่วงบวกลงมา แต่ยังปิดเหนือ 1640 ระยะสั้นหากอ่อนตัวลงไม่หลุดแนวรับ Gap 1630 และเป็นบริเวณแนวรับของกรอบขาขึ้น มองว่ายังน่าสะสม เพื่อลุ้นการดีดตัวขึ้นต่อตามแนวโน้มหลัก มองแนวต้านถัดไปที่ 1650 และ 1665 (EMA200Day) กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ถือหุ้นต่อ และพิจารณาแรงขายตามแนวต้าน 1650 และ 1665 ตามลำดับ แต่หากดัชนีหลุด 1630 แนะนำ Lock Profit ทั้งหมด และพิจารณาแนวรับถัดไปที่ 1620  2) ไม่มีหุ้น: หากอ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1630 แล้วไม่หลุด มองเป็นโอกาสสะสมหุ้น เพื่อ Trading
          แนวรับ : 1620, 1630 แนวต้าน : 1650, 1665
 
Keep an eye on…
          ปัจจัยต่างประเทศ : -  
          ปัจจัยในประเทศ :  ความคืบหน้าโครงการประมูล EEC 
 
หุ้นเทคนิค:
          GLOBAL (B 18.30-18.50, Tp 19.50/20.00, Cut 17.80)
          TISCO (81.00-82.50, Tp 85.00//87.00, Cut 80.00)
 
ข่าวเด่นเช้านี้
 
LH ลั่นพรีเซลปีนี้ 3.3 หมื่นล้าน ครึ่งแรกเปิด 6 โครงการ มูลค่า 1.6 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)
          "แลนด์ฯ" ปักธงปี 62 กวาดยอดขาย 33,000 ล้านบาท เล็งเปิดครึ่งปีแรก 6 โครงการ มูลค่ารวม 16,135 ล้านบาท ลั่นมาตรการ LTV ใหม่ไม่กระทบยอดขาย เหตุโครงการที่พัฒนาเป็นโครงการแนวราบ-ลูกค้าซื้ออยู่จริงเป็นหลัก
          ความเห็น : เราแนะนำ Trading Buy LH โดยให้ราคาเป้าหมาย 11.40 บาท/หุ้น โดย  LH  สามารถปรับตัวและบริหารความเสี่ยงได้ดี โดยเน้นการเติบโตจากธุรกิจเช่า การขายสินทรัพย์เพื่อเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนและสร้างกำไรพิเศษ รวมทั้งการหยุดเปิดโครงการคอนโดมิเนียม LH เป็นหุ้นที่มี Payout เงินปันผลสูงที่สุดในกลุ่ม ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลประมาณ 7.5%+/- ต่อปี เราจึงแนะนำเป็น Dividend Stock สำหรับนักลงทุนระยะยาว เทคนิคสวย แกว่งขึ้นต้าน 11.2 รับ 10.5 บาท  
 
VGI ฟอร์มสวย! จับตาไตรมาส 3 โชว์กำไรพุ่ง 66% (ข่าวหุ้น)
          "วีจีไอ" จับตางบไตรมาส 3 กำไรแกร่ง 300 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 66% จากปีก่อน รับไฮซีซั่นธุรกิจดึงลูกค้าลงโฆษณาทะลัก พร้อมบุ๊กผลตอบแทน "KERRY" เต็มไตรมาสครั้งแรก โบรกฯการันตี "ซื้อ" ให้ราคาเป้าหมาย 8.80 บาท
          ความเห็น : แนวโน้มสดใสนี้ขับเคลื่อนจากกำไรที่เติบโตของ MACO และ การรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจาก Kerry Express เข้ามาเต็มไตรมาสประมาณ 70-80 ล้านบาท  เราคงคำแนะนำ ซื้อ 10.20 บาท/ หุ้น โดยยังคงมี upside จากโอกาสในการทำสื่อโฆษณารถไฟฟ้าสายสีชมพู และ เหลือง ที่อยู่ระหว่างก่อสร้างโดยกลุ่ม BSR (BTS เป็นแกนนำ) เทคนิคแนวโน้มขาขึ้น ต้าน 8.0/8.2 รับ 7.6 บาท
 
SCCC ไฮซีซันหนุนยอดขายปูนพุ่งแรงผลงาน Q4 โตเท่าตัว (ทันหุ้น)
          SCCC โบรกมองภาพรวมอุตสาหกรรมปี 2562 ปูนซีเมนต์-วัสดุก่อสร้างเติบโต 3-4% รับอานิสงส์รัฐเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐานในประเทศ ขณะที่ไฮซีซันหนุน บวกกับราคาน้ำมันดิ่งช่วยลดต้นทุนขนส่ง พร้อมประเมินผลงานไตรมาส 4/2561 โตกว่าเท่าตัว อัพราคาเป้าหมายเพิ่มเป็น 285 บาท
          ความเห็น :  เราคาดความต้องการปูนซีเมนต์ในปี 2562 จะเติบโตได้ 3-5% แรงหนุนการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของรัฐบาล  ในขณะที่แรงกดดันต้นทุนถ่านหินผ่อนคลายลง เราคาดผลประกอบการปี 2561-2562 จะเติบโตต่อเนื่อง ราคาหุ้นปัจจุบันมีอัตราเงินปันผลตอบแทนน่าสนใจ 4.5%-5% เราคงแนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 280 บาท เทคนิคสวย ต้านแรก 236 รับ 228 บาท 
 
ปตท.ชงบอร์ดฯประมูล3โครงการ EEC เร่งรัดปรับปรุงโรงกลั่นหากรัฐสั่ง (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)
          ปตท.เตรียมชงบอร์ดฯ ก.พ.นี้เพื่อพิจารณาเข้าประมูล 3 โครงการในพื้นที่ EEC ทั้งโครงการท่าเทียบเรือแหลมฉบัง เฟส3 - ท่าเรือมาบตาพุด เฟส 3  พร้อมปฏิบัติตามนโยบายรัฐหากสั่งเร่งรัดปรับปรุงโรงกลั่นผลิตน้ำมันยูโร 5 เพื่อช่วยลดปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 รวมทั้งส่งเสริมการใช้ดีเซล B20 ในรถโดยสารสาธารณะทั้ง ขสมก.-บขส. (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)
          ความเห็น :  เรามีมุมมองเป็นกลางต่อประเด็นข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการหาโอกาสลงทุนเพื่อการเติบโตในระยะยาวของกลุ่ม โดยฉเพาะการมองหา S-Curve ใหม่ในพื้นที่ EEC ที่เป็นฐานของกลุ่มอยู่แล้วในปัจจุบัน ส่วนการลงทุนปรับปรุงคุณภาพน้ำมันมาตรฐาน Euro 5 คาดได้รับผลตอบแทนในระดับหนึ่ง เนื่องจากเป็นการลงทุนตามนโยบายของรัฐบาล แนะนำ ทยอยสะสม PTT ราคาเป้าหมาย 58 บาท เทคนิคแกว่ง sideway ในกรอบ 46-50 บาท
 
'SPRC' ขานรับค่ากลั่นฟื้น กูรูลุ้นกำไร-ยิลด์พุ่ง 6.4% (ทันหุ้น)
          โบรกส่องค่าการกลั่นเริ่มฟื้นหลังสต๊อกน้ำมันลด เข้าเทศกาลท่องเที่ยว IMO คุมคุณภาพน้ำมันเตาหนุน เชียร์ซื้อ 'SPRC' ชี้ปีนี้พลิกมีกำไร ยิลด์พุ่ง 6.4% พีคสุดในกลุ่ม เคาะเป้า 13.00 บาท
          ความเห็น :  เรายังมีมุมมมองเป็นกลางต่อแนวโน้มค่าการกลั่น โดยเฉพาะในช่วง 1H62 เนื่องจากยังมีแรงกดดันจากกำลังการผลิตใหม่ที่เข้าสู่ตลาด อย่างไรก็ตามค่าการกลั่นปัจจุบันถือว่ายืนอยู่ที่จุดต่ำสุด หากลดต่ำไปกว่านี้ เราเชื่อว่าจะเริ่มเห็นการปรับลดกำลังการผลิตของโรงกลั่นที่มีต้นทุนสูง ในกลุ่มโรงกลั่น เรามองว่า TOP เป็นผู้ประกอบการต้นทุนการผลิตในระดับต่ำ แนะนำ Trading Buy TOP ราคาเป้าหมาย 85 บาท ขณะที่เราแนะนำ Switch ออกจาก SPRC เนื่องจากส่วนต่างน้ำมันเบนซินที่ยังตกต่ำ
 
          นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์ 
          Research Department Tel. 02-658-5000

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!