- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 February 2019 13:58
- Hits: 3597
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Daily Strategy
" ติดตามการเจรจาสหรัฐ-จีน "
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้น +9.13 จุด (+0.56%) ปิดที่ 1,641 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.7 หมื่นล้านบาท ตอบรับ FED ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวมถึงจะพิจารณาการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟดหากมีความจำเป็น นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนจากราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นหลังสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นน้อยกว่าคาด ทั้งนี้เป็นแรงซื้อในกลุ่ม ENERGY, PETRO และ BANK ส่วนนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,305 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,379 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX 13,077 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,645 - 1,650 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว จากภาวะ Risk on ในสินทรัพย์เสี่ยง หลัง FED ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลหากมีความจำเป็นซึ่งเป็นบวกต่อทิศทางการลงทุน ประกอบกับความคาดหวังผลการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนรอบใหม่เพื่อบรรลุข้อตกลงทางการค้าก่อนเส้นตาย 1 มี.ค. ซึ่งคาดว่าจะมีความคืบหน้าในเชิงบวกมากขึ้น อย่างไรก็ตามควรระวังแรงขายทำกำไรระยะสั้นหลังดัชนีดีดตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกมาระดับหนึงแล้วประกอบกับสัญญาณทางเทคนิคเข้าใกล้ระดับ Overbought ซึ่งจะกดดันให้ภาวะตลาดผันผวน
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
- กลุ่มพลังงาน (PTTEP, PTT, PTTGC, TOP) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้นใกล้ระดับ 54 US/Barrel
- กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
- STEC, AMATA, WHA, BEM ได้ประโยชน์ภาวะการเมืองปลดล็อคและวันเลือกตั้งที่ชัดเจน
- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และคาดจำนวน นทท.จีนขยายตัวขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
- กลุ่มที่คาดว่ากำไร 4Q18 และปี 2019 เติบโตต่อเนื่อง SAWAD, MTC, IHL, EA, GFPT และ TU
หุ้นแนะนำวันนี้: SCB (ปิด 133 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 140 บาท) ราคาหุ้นลดลงสะท้อนผลประกอบการที่อ่อนแอในช่วง 4Q18 ไปแล้ว ขณะที่ราคายัง Laggard หากเทียบกับกลุ่ม, EA (ปิด 47.5 ซื้อ/เป้า 63) รับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD ตั้งแต่ 25 ม.ค. หนุนกำไรสุทธิ 1Q19 พุ่ง All time high ต่อเนื่อง, IHL (ปิด 8.3 ซื้อ/เป้า 11.8) คาดกำไรปกติ 4Q18 ที่ 90 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 30%yoy จากรายได้ธุรกิจฟอกหนังที่เพิ่มขึ้น อีกทั้งให้ปันผลสูงคาดปันผลต่อหุ้น 0.5-0.6 บาทให้ Dividend yield 6-7%ต่อปี
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : BIG (ปิด 1.4 ถือ/เป้าใหม่ 1.45 จาก 1.6 ), KTB (ปิด 19.8 ซื้อ/เป้า 23)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+/-) จีน - สหรัฐ เจรจายุติข้อพิพาทการค้ารอบ 2 ภาพรวมเป็นกลาง โดย ทรัมป์ และ สี จิ้นผิง จะประชุมร่วมกันอีกครั้งในช่วงปลายเดือน ก.พ. เพื่อบรรลุข้อตกลง : ผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐเพื่อยุติข้อพิพาทการค้าในครั้งที่ 2 โดยรวมเป็นไปได้ด้วยดีแต่ทั้ง 2 ฝ่ายยังไม่มีการชี้แจงในรายละเอียด ซึ่งทั้งสองประเทศจะจัดให้มีการประชุมในระดับผู้นำประเทศ ระหว่างประธานาธิบดี โดนัลด์ ทรัมป์ และ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง เพื่อให้บรรลุข้อตกลงทางการค้าร่วมกันอีกครั้งในช่วงปลายเดือน ก.พ. ซึ่งจะเป็นการประชุมครั้งสุดท้าย หากไม่สามารถตกลงกันได้ก่อน 1 มี.ค.19 สหรัฐจะเรียกเก็บภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน มูลค่า 2 แสนล้านดอลลาร์ และเพิ่มอัตราภาษีจาก 10% เป็น 25%
(-) ราคาน้ำมันดิบพักตัวจากแรงขายทำกำไรและตลาดยังกังวลตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ยังอยู่ในระดับสูง: ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 44 เซนต์ (-0.8%) ปิดที่ 53.79 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนขายทำกำไร (YTD ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 18.5%) ประกอบกับตลาดไม่มีปัจจัยบวกใหม่ขณะที่นักลงทุนกลับไปกังวลกับตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ยังเพิ่มขึ้นสะท้อนถึงดีมานด์ที่อ่อนตัว และอีกด้านบ่งชี้ถึงการผลิตที่เพิ่มขึ้นของอเมริกา
(+/-) วันนี้ติดตามดัชนี PMI ภาคการผลิตของจีน หากยังต่ำกว่า 50 จะเป็นลบกดดันตลาด และคืนนี้ติดตามตัวเลข Nonfarm payrolls ของสหรัฐบ่งชี้ความแข็งแกร่งของตลาดแรงงาน : วันนี้จีนจะรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตเดือนม.ค.ซึ่งจัดทำโดย Caixin ตลาดคาดดัชนีจะลดลงสู่ระดับ 49.5 จาก 49.7 ในเดือน ธ.ค. ดังนั้นหากวันนี้ดัชนีฟื้นตัวขึ้นและกลับมายืนเหนือระดับ 50 จะเป็นบวกกับบรรยากาศการลงทุนกับตลาดหุ้นในภูมิภาค ตรงกันข้ามหากดัชนียังลดลงอีกจะทำให้นักลงทุนวิตกกังวลต่อภาพรวมเศรษฐกิจจีน ส่วนคืนนี้ ติดตามรายงานตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (Nonfarm payrolls) และอัตราการว่างงานเดือนม.ค. ซึ่งจะเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานสหรัฐและเป็นอีกหนึ่งปัจจัยในการพิจารณาการดำเนินนโยบายการเงินของเฟด
(+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตามสัปดาห์หน้า 1) 6 ก.พ.ประชุมแบงก์ชาติคาดคงดอกเบี้ยที่ 1.75%, 2) 7 ก.พ. BoE Meeting คาดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 0.75% และ 3) 11 ก.พ.สหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 4/18 คาดโต 2.6% ลดลงจาก 3.4% ในไตรมาส 3/18
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี