- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 February 2019 00:31
- Hits: 4592
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Heads up-earnings: hard commodity ปันผล+งบ...ดีกว่าคาด
เมื่อวานหุ้น ขนาดกลาง-เล็ก ที่ Laggard, ราคาหุ้นกองอยู่ข้างล่างเมื่อดูจากกราฟเทคนิค ปรับขึ้นดีกว่าดัชนีฯ เช่น WORK AAV ECF BWG PRM MALEE SAPPE YUASA FN โดยหุ้นที่ขุดมาขึ้นเมื่อวานเริ่มมีการเปลี่ยนโฉมหน้าไปจาก เมื่อวันจันทร์-อังคาร ส่วนหุ้นบูลชิพใหญ่ กลุ่มพลังงาน-Hard commodity ถูกซื้อกลับ หลังจาก งบ 4Q18 และปันผลระหว่างกาล PTTEP SCC (SCC เป็นตัวแทนปิโตรฯ) สูงกว่าคาด.
คาดวันนี้ ดัชนีฯ Sideways up ต่อโดยหุ้นไทยไม่สนตลาดหุ้นโลก... กลยุทธ์ลงทุน 1) แนะนำเลือกซื้อ หุ้นทรงเทคนิคคล้ายๆกับกับหุ้น กลาง-เล็ก ที่ขึ้นแรงในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมา แนะนำ THCOM CMAN MEGA TIPCO เก็งกำไรโดยควรวาง Stop loss เผื่อไว้ 3-5% 2) หุ้นบูลชิพใหญ่ แนะนำ โรงกลั่น สินค้าโภคภัณฑ์ (งบ 1Q19 กำไรสุทธิจะถูกหนุนด้วยค่าเงินบาทที่แข็งค่า ส่วนงบ 4Q18 เชื่อ ตลาดรับรู้ งบที่ไม่ดีไปมากแล้ว)
สัปดาห์นี้คงคาด หุ้นไทยอยู่ในโหมดของการรีบาวด์ ต่อ แนวต้าน 1,650 แนวรับ 1,615 จุด หนุนโดยงบและปันผลจากนี้ไปมีโอกาสจะดีกว่าคาด ส่วนปัจจัยในต่างประเทศ และบรรยากาศลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาค ไม่ระคายเคือง ต่อหุ้นไทย ตามคาด ยกเว้นฝุน PM 2.5 ที่หนาแน่นขึ้น อาจมีผลให้ระคายคอและจมูกอยู่บ้าง แต่เชื่อว่ายังไม่ถึงขั้นกระทบหุ้นที่เชื่อมโยง อย่างท่องเที่ยว โรงแรม ในระยะสั้น ยกเว้นปัญหานี้ ลากยาวไปกว่าที่คิด)
What to watch:
(+) สัปดาห์หน้า นายกฯสั่งให้ คกก.สิ่งแวดล้อม หาทางแก้ปัญหาฝุนพิษ PM 2.5 ทั้งในระยะสั้น และยาว เปนการเร่งด่วน หลังค่าฝุนพุ่งแรงเกินมาตรฐาน
โดยแนวทางที่ นายกกล่าวถึง เบื้องต้น คาดมีผลบวกต่อจิตวิทยาราคาหุ้น เช่น สร้างแรงจูงใจ หรือ อาจออกคำสั่ง ให้ ปชช.ลดใช้รถยนต์ส่วนตัว (+BTS VGI (แรบบิทไลน์เพย์) BEM), การบังคับให้รถเมล์ รถบรรทุก ใช้น้ำมันดีเซล B20 (BCP GGC OCEAN).
(+) ผลการประชุมเฟด คงดอกเบี้ยที่ 2.25-2.5% และ ส่งสัญญาณ จะไม่ขึ้นดอกเบี้ยในการประชุม เดือน มีค.นี้ (ดีกว่าที่ตลาดคาด)
(+) 4Q18 earnings: SCC PTTEP ประกาศกำไร "หลัก" ดีกว่าคาดทั้งคู่ พร้อมด้วยประกาศเงินปันผลระหว่างกาลสูงกว่าคาด โดย SCC จ่าย [email protected] บ. (สูงกว่าคาดที่ 7.5บ) และ PTTEP จ่าย [email protected] บ. (ดีกว่าที่ตลาดคาด)
หุ้นแนะนำ
GGC Laggard play แนวรับ 10.1 ต้าน 10.8 Stop loss 9.5
CMAN Laggard play ดูรายงาน Tactical วันนี้
รายงานวันนี้
SCC: Compelling growth amidst hazy horizon
บริษัทยังคงอยู่ในมุมมองเชิงระมัดระวังสำหรับปี 2019 โดยมีความท้าทายสำคัญ 4 ประการ 1) ความผันผวนของราคาพลังงาน (โดยเฉพาะ Naphtha และถ่านหิน) ซึ่งจะกระทบกับต้นทุน, 2) อุปสงค์ที่ไม่แน่นอน ตามเศรษฐกิจกิจโลกที่ชะลอตัวจากประเด็นความขัดแย้งทางการค้า, 3) ความผันผวนของ FX โดยทุกๆ 1 บาทที่แข็งค่าเมื่อเทียบกับ US$ จะกระทบต่อกำไร 1.2 พันล้านบาท และ 4) การฟนตัวในประเทศที่อาจจะไม่ต่อเนื่องไปใน 2H19 อีกทั้งเราคาดจะมีการตั้งสำรอง 2 พันล้านบาท ตามกฏหมายแรงงาน โดยรวมเรายังมองว่า SCC สามารถที่จะเติบโตได้ในภาวะที่ไม่แน่นอนหนุนโดยกลยุทธ์ที่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ในขณะที่อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 3.8% ยังน่าสนใจ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 500 บาท
STANLY: A bright shining light in the haze
เรามีการปรับประมาณการรายได้ปี 2019-20 ลง 2.6-4.3% สะท้อนความไม่แน่นอนของภาพตลาดโลกและคาดอุตสาหกรรมในประเทศจะชะลอตัวลง (เติบโตได้ดีถึงช่วงต้นปีนี้ แต่คาดประมาณการผลิตของประเทศจะลดลง 0.4% YoY สำหรับปี) อย่างไรก็ตามเรายังคาดรายได้จะยังคงเติบโตได้ดีแม้จะมีการปรับประมาณการลงหนุนโดยคำสั่งซื้อใหญ่ทีเข้ามาโดยเฉพาะรถ pick-up และ Global model, การขยายกำลังการผลิตและการลงทุน R&D ที่มีการทำอย่างต่อเนื่อง เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 256 บาท
Residential Property: Feedback from seminar "ชีวิตเปื้อนฝุ่น"
ประเด็นสำคัญจากงานสัมมนาประจำปีโดยสรุปภาพอสังหาฯมองว่าปี 2019 ถือเป็นปี "ปรับฐาน" ของกลุ่มนี้ แม้อุปสงค์คาดจะเติบโตไม่มาก แต่อุปทานใหม่คาดเพียงทรงตัวหรือลดลง ทำให้ไม่น่าจะเกิด "ฟองสบู่แตก" แต่ยอมรับว่ามีมรสุมรุมเร้าหลายประการที่ต้องฝาฟันในปี 2019 หากใจไม่ถึงเราแนะนำรอมาตรการ LTV ใหม่เดือน เม.ย นี้ เริ่มใช้จริงแล้วจึงกลับมาพิจารณากลุ่มนี้อีกครั้ง หากจะไปต่อเราแนะนำ 3 แนวทางได้แก่ 1) เน้นถือยาวๆ 6 เดือนขึ้นไป เราแนะนำให้ทยอยเก็บ SPALI 2) rebound ต่อในระยะสั้นๆ ก่อนงบและปันผลประกาศ 14 ก.พ. ของ LPN 3) เล่นรับปันผลสูงสุดตอนนี้ คำตอบคือ SC เราคาดปันผลของกำไรทั้งปี 2018 ที่ 0.19 บาท (yield สูงสุดในกลุ่มที่ 6.7%) ประกาศปลาย ก.พ และ XD ต้น พ.ค. นี้
Quantitative Strategy: ตลาดจะกลับมาผันผวนสูงในเดือนกุมภาพันธ์
ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้น 2.8% ในช่วงสองสัปดาห์ที่ผ่านมา เนื่องจากตลาดไม่มีข่าวร้ายใหญ่ๆมาโจมตีตลาด อย่างไรก็ตาม เราคาดว่าตลาดจะกลับมาผันผวนอีกในเดือนกุมภาพันธ์ เนื่องจาก 1) ค่าความผันผวนของตลาดหุ้นไทยคาดว่าจะสูงขึ้นเหนือเส้นค่าเฉลี่ยระยะยาวในช่วงสองสัปดาห์ข้างหน้า 2) ดัชนี Volume Flow คาดว่าจะยังไม่สามารถทะลุเหนือเส้น Neutral line ได้เนื่องจากความผันผวนตลาดมีแนวโน้มสูงขึ้น 3) ดัชนี Short-term Bull2Bear ปรับตัวขึ้นใกล้ถึงระดับกรอบบน และดัชนีชี้วัดโมเมนตัมระยะสั้น (Shortterm Momentum) เข้าใกล้ระดับ Overbought เล็กน้อย 4) ดัชนีชี้วัดความต้องการรับความเสี่ยง (Risk Demand Index) แตะระดับมองตลาดในแง่ดีเกินไป (Over-optimistic) แล้ว แบบจำลองของเราคาดว่าโอกาสที่ตลาดจะเข้าสู่ช่วงผันผวนสูงมีความเป็นไปได้สูงในเดือนกุมภาพันธ์ ดังนั้นเรายังคงแนะนำให้อยู่ในโหมด Defensive หุ้นที่เพิ่มเข้าพอร์ต: CENTEL, TVO, หุ้นที่ถอดออกจากพอร์ต: ROBINS
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1632.60 (+0.53%) มูลค่าการซื้อขาย 4.8 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มระยะสั้นมอง
SET Index แนวรับ 1,628 แนวต้าน 1,642 / SET100 รับ 2,390 ต้าน 2,410 BSET100 รับ 10.36 ต้าน 10.48 / BMSCITH รับ 12.32 ต้าน 12.45
Topic: "กระแสเงินลงทุนไหลเข้าหนุนบาทแข็งหุ้นขึ้น"
มุมมองตลาด:
ดัชนี SET Index ปรับตัวขึ้นมาแล้วทั้งสิ้น 5% จากจุดต่ำสุดขณะที่ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น คำถาม:แนวโน้มตลาดจะเป็นอย่างไร? จากสถิติบ่งชี้ว่าการปรับตัวขึ้นของตลาดโดยส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นพร้อมกับกระแสเงินลงทุนไหลเข้าเนื่องจากมีความต้องการสกุลเงินบาทเพิ่มขึ้นส่งผลให้ค่าเงินบาทจะมีทิศทางแข็งค่า ยกตัวอย่างเหตุการณ์ล่าสุด ดัชนีฟนตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดที่ 1550 จุดช่วงเวลาใกล้เคียงกับค่าเงินบาทกลับมาแข็งค่าขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้นหากดัชนีจะปรับขึ้นไปสู่จุดต้านที่ 1655 หรือ 1680 จุด (Fibonacci ratio 38.2%,50%) คาดว่าค่าเงินบาทจะมีทิศทางแข็งค่าขึ้นอีก
กลยุทธ์:
ปัจจัยบวกจากกระแสเงินลงทุนไหลเข้าส่งผลให้ดัชนีเดินหน้าปรับตัวขึ้น
วิธีการเลือกหุ้น:
ภาวะตลาดพักตัวแนะนำวิธีการเลือกหุ้น 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับหรือการเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟนตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic ,MACD ,Moving average
Technical screen Bull Signal:
AAV,WORK,TU (Laggard play)
Technical screen Bear Signal: ---
Port หุ้นคงเหลือ:
TU, CPF, SCC, OSP, CPN, WHA, TFG, TKN, AH, SAMART, ASAP (แนะนำถือต่อ)
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
AAV
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 4.20
แนวต้าน 4.50/4.90
เหตุผล ปรับตัวขึ้นจากฐาน หนุนด้วย RSI บ่งชี้ความแข็งแกร่งด้านราคา แนวต้านแรก 4.50 และต้านถัดไป 4.90
WORK
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 24.70
แนวต้าน 30.00 /33.00
เหตุผล ราคาปิดทะลุเส้นค่าเฉลี่ย 25-days EMA ยืนยันสัญญาณกลับตัวจากค่า MACD > 0
TU
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 18.60
แนวต้าน 20.50/21.00
เหตุผล ปิดเหนือแนวต้านสำคัญ 18.5 พร้อมกับวอลุ่มเพิ่มสูงขึ้น บ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นรอบใหม่