- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 01 February 2019 00:22
- Hits: 4356
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ผลประชุมเฟดออกมาในทางบวก น้ำมันยังปรับขึ้น”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +8.55 จุด ปิดที่ 1632.60 จุด มูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 48.7 พันล้านบาท ถือว่าดีกว่าตลาดหุ้นเพื่อนบ้านที่บางตลาดปรับลง มีการรีบาว์ท้ายตลาด ดัชนีผันผวนเพราะยังรอดูผลการประชุม Fed และจีนมาเจรจาการค้าที่สหรัฐในขณะนี้ เงินบาทแข็งค่ามาก มีเงินไหลเข้ามาตลาดหุ้น ด้านกำไร SCC ดีกว่าคาดเล็กน้อย แต่ PTTEP ต่ำกว่าคาด ผู้ซื้อสุทธิเป็น พอร์ตโบรกเกอร์ 125 ลบ. สถาบัน 36 ลบ. และต่างชาติ 14 ลบ. ด้านผู้ขายสุทธิรายเดียวคือ รายย่อย 175 ลบ. ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาด SET จะ Sideways ทางบวก ดาวโจนส์พุ่ง หลังผลประชุมเฟดคงอัตราดอกเบี้ย ใช้แนวทางระมัดระวัง และการลดขนาดงบดุล หรือลดการถือครองพันธบัตร ยังคาดหวังวงเงินจะยังสูง มีการใช้ทั้งขนาดและองค์ประกอบงบดุล ราคาน้ำมันปรับขึ้น เพื่อนบ้านเพิ่มขึ้น
# เงินบาทแข็งค่าหลังดอลลาร์อ่อน ส่งผลดีกับตลาดฯ ตัวเลขจ้างงานเอกชนออกมาดี ปัจจัยการเมืองไทย อยู่ในช่วงสรรหารายชื่อนายกเพื่อนำเสนอปัจจัยสำคัญที่ต้องติดตาม คือ การเจรจาการค้าวันนี้จะเป็นวันสุดท้าย และรอดูตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรประกาศคืนนี้
# กลยุทธ์ คือ ระยะสั้น หากมีการรีบาวด์ต่อ เก็งกำไรรอบสั้นได้แนวต้านเป็น 1640-1660 จุด ด้านการซื้อลงทุนระยะกลาง รออ่อนตัว ด้านแนวตัดขาดทุนเป็น 1610 จุด ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1780 จุด (+0.5 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 61-62 ที่ +8%/+6%ตามลำดับ แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
# หุ้นเด่น HUMAN : ปี 62 จะออกผลิตภัณฑ์ใหม่ คือ 1) HR Outsourcing สำหรับกลุ่ม SME ซึ่งมีมาร์จิ้นดี, 2) เปิดตลาดบริการบน Platform ซึ่งรวมถึงการให้ลูกจ้างสถานประกอบการเลือกนโยบายประกันภัยด้วย และ 3) เป็นพันธมิตรกับธ.พ.และไฟแนนซ์เพื่อเสนอบริการสินเชื่อส่วนบุคคลผ่านPlatform ของ HUMAN อีกทั้งมีแผนออกแอปพลิเคชั่นบนมือถือในต้นปี 62 กำหนดราคาพื้นฐานไว้ที่ 11.30 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เปลี่ยนกลับเป็นบวก(เล็กๆ)อีกครั้ง {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”ต่อ (แต่ถูกกดดันด้วย “โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบมีรีบาวด์ฯสั้นๆต่อก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน1640 (หรือ 1650 – 1660) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1610” จุด}
หุ้นทีมีโอกาสทำ New High ทางเทคนิค ที่เข้ามาใหม่คือ ECL,WHA,BGRIM,VNT,HMPRO,GFPT หุ้นที่อยู่ใน List คือ JWD,TISCO,CK,GLOW,ERW,JMT,TRUE,BH หุ้นที่หลุด List ไม่มี และหุ้นทีอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ GULF,SAT,AOT,MEGA
Thailand Research Team : reseach-th.dbs.com
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : WHA (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 4.72)
Flash Note : PTTEP (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 135)
SCC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 504)
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Turnover List Watch : MALEE, PHOL ติด Trading Alert ให้ติดตาม ACAP-W2
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ผลเฟดไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ย และจะใช้มาตรการแบบระมัดระวัง
# คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติเป็นเอกฉันท์ในการคงอัตราดอกเบี้ยระยะสั้นที่ระดับ 2.25-2.50% ในการประชุมเมื่อวานนี้ตามคาด พร้อมระบุในแถลงการณ์ว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป โดยจะจับตาภาวะเศรษฐกิจ
# ขณะเดียวกัน แถลงการณ์ของเฟดได้ตัดข้อความ "เฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอย่างค่อยเป็นค่อยไป" ซึ่งเป็นถ้อยคำที่บ่งชี้ถึงการส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด และเฟดได้ทดแทนด้วยข้อความที่ว่า "เฟดกำลังดำเนินแนวทางที่มีความระมัดระวังมากขึ้น" ซึ่งบ่งชี้ถึงการเปลี่ยนแปลงจากนโยบายเดิมที่เฟดใช้ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา
+/- สหรัฐ: เฟดคาดหวังว่าวงเงินในงบดุลจะยังคงอยู่ในระดับสูง หลังจากที่เฟดเสร็จสิ้นการปรับลดงบดุล
# ในส่วนของการปรับลดงบดุลนั้น แถลงการณ์ระบุว่า เฟดพร้อมที่จะทำการพิจารณาใหม่เกี่ยวกับการปรับลดการถือครองพันธบัตรในงบดุลของเฟด หากสภาวะเศรษฐกิจบ่งชี้ถึงความจำเป็นดังกล่าว โดยเฟดคาดหวังว่าวงเงินในงบดุลจะยังคงอยู่ในระดับสูง หลังจากที่เฟดเสร็จสิ้นการปรับลดงบดุล
# ทั้งนี้ แถลงการณ์ระบุว่า "เฟดเตรียมที่จะใช้เครื่องมือทั้งหมด ซึ่งรวมถึงการปรับขนาดและองค์ประกอบในงบดุล ถ้าหากภาวะเศรษฐกิจในอนาคตทำให้เฟดมีความจำเป็นที่จะต้องใช้นโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้นกว่าการใช้เพียงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น"
+/- สหรัฐ: ติดตามบทสรุปเจรจาการค้าจีน-สหรัฐปิดฉากวันนี้
# นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนซึ่งเริ่มเปิดฉากขึ้นที่กรุงวอชิงตันเมื่อวานนี้และจะเสร็จสิ้นในวันนี้ตามเวลาสหรัฐ โดยทั้งสองฝ่ายหารือกันเพื่อแก้ไขความขัดแย้งทางการค้า ก่อนถึงกำหนดเส้นตายในเดือนมี.ค.
+/- สหรัฐ: ตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนออกมาดี แต่ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขายลดลง
# สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจสหรัฐที่มีการเปิดเผยเมื่อคืนนี้ ออโตเมติก ดาต้า โพรเซสซิ่ง อิงค์ (ADP) และมูดี้ส์ อนาลิติกส์เปิดเผยว่า การจ้างงานของภาคเอกชนสหรัฐเพิ่มขึ้น 213,000 ตำแหน่งในเดือนม.ค. ซึ่งสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 178,000 ตำแหน่ง ขณะที่สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ดัชนีการทำสัญญาขายบ้านที่รอปิดการขาย (pending home sales) ลดลง 2.2% ในเดือนธ.ค. เมื่อเทียบรายเดือน สวนทางนักวิเคราะห์ที่คาดว่าปรับตัวขึ้น 0.5%
+/- สหรัฐ: ติตตามตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตร
# นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนม.ค.ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันพรุ่งนี้ ขณะที่
นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานเดือนม.ค.จะเพิ่มขึ้น 168,000 ตำแหน่ง
+/- ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปรับขึ้นแรง ตอบรับเฟดส่งสัญญาณไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,014.86 จุด พุ่งขึ้น 434.90 จุด หรือ +1.77% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,681.05จุด เพิ่มขึ้น 41.05 จุด หรือ +1.55% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,183.08 จุด เพิ่มขึ้น 154.79 จุด หรือ +2.20%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 400 จุดเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังจากที่ประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติคงอัตราดอกเบี้ยตามคาด พร้อมกับย้ำว่า เฟดจะใช้ความอดทนต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป นอกจากนี้ตลาดยังได้แรงหนุนจากผลประกอบการที่แข็งแกร่งของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงโบอิ้ง และแอปเปิล อิงค์
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : WTI ปรับขึ้น หลังสต็อคน้ำมันดิบเพิ่มน้อยกว่าคาดและสหรัฐคว่ำบาตรเวเนฯ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 92 เซนต์ หรือ 1.7% ปิดที่ 54.23 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 33 เซนต์ หรือ 0.5% ปิดที่ 61.65 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) หลังจากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานว่า สต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นน้อยกว่าตัวเลขคาดการณ์ นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันยังได้แรงหนุนจากการที่สหรัฐประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซุเอลา ซึ่งจะส่งผลให้เวเนซุเอลาเผชิญอุปสรรคในการส่งออกน้ำมันไปต่างประเทศ
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : เพิ่มขึ้น ปิดตลาดฯก่อนรู้ผลประชุมเฟด
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 30 เซนต์ หรือ 0.02% ปิดที่1,315.50 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยเมื่อคืนนี้ (30 ม.ค.) ขณะที่นักลงทุนจับตาผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยตลาดทองคำนิวยอร์กปิดทำการซื้อขายก่อนที่คณะกรรมการเฟดจะแถลงมติการประชุม
• ติดตามรายงานตัวเลขเศรษฐกิจในสัปดาห์นี้
# ส่วนข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตเดือนม.ค.จากมาร์กิต และดัชนีภาคการผลิตเดือนม.ค. จากสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM)
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+ การเมืองไทย : พรรคพลังประชารัฐกำลังสรรหารายชื่อนายกรัฐมนตรี
# นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริหารพรรคได้มีมติเสนอชื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา, นายอุตตม สาวนายน และนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีของพรรค ซึ่งขั้นตอนต่อไป จะเร่งทาบทามบุคคลดังกล่าวให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 8 ก.พ.62
- รมว.คลังมองเงินบาทแข็งค่ากลับเป็นผลลบ
# รมว.คลัง กล่าวถึงค่าเงินบาทที่ปรับตัวแข็งค่าอย่างรวดเร็วในช่วงนี้ว่า เงินบาทไม่ควรแข็งค่านำโด่งประเทศคู่แข่ง เพราะการแข็งค่าที่นำโด่งแบบนี้ทำให้เสียเปรียบประเทศคู่แข่ง โดยเห็นว่าเป็นหน้าที่ของธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ที่ต้องเข้ามาดูแลไม่ให้ค่าเงินแกว่งหรือมีความผันผวนจนเกินไป
+KKP: เผยทิศทางธุรกิจปี 62 ตั้งเป้าสินเชื่อโต 8% ต่อยอดความแข็งแกร่ง Private Bank เตรียมเปิดบริการใหม่
# ชูธง Private Bank ท่ามกลางการแข่งขันของแบงก์ใหญ่ พร้อมเปิดตัวบริการและผลิตภัณฑ์การลงทุนในต่างประเทศล่าสุดมี AUA รวมเงินฝากและเงินลงทุนผ่านกองทุนรวมอยู่ที่ 650,000 ล้านบาท ปี 62 คาดสินเชื่อเติบโตแข็งแกร่งจากฐานปี 61 ที่ขยายตัวถึง 18.5% โดยมุ่งเน้นการจัดกลุ่มลูกค้าให้ชัดเจนยิ่งขึ้น NPLs ปรับลดลงต่อเนื่อง 6 ไตรมาส ล่าสุดอยู่ที่ 4.1% (Aspen)
# ผลกระทบ: ที่ผ่านมากำไรสุทธิ 4Q61 เท่ากับ 1.4 พันล้านบาท (+9%YoY, -8%QoQ) ส่วนทั้งปี 61 มีกำไรสุทธิ 6.0พันล้านบาท (+5%YoY) ต่ำกว่าคาดเนื่องจากค่าใช้จ่ายดำเนินงานสูงขึ้นมาก แม้ว่าจะตั้งสำรองฯลดลงก็ตาม แนวโน้มปี62 ไปได้ดี ธุรกิจตลาดทุนยังคงแข็งแกร่ง โดยมีดีล IPO ของ PTTOR (บริษัทย่อยของ PTT) ธนาคารจ่ายปันผลสูง คาดYield ปี 62 ประมาณ 7% ต่อปี (จ่ายปีละ 2 ครั้ง) ทาง DBS ให้ราคาพื้นฐาน 12 เดือนข้างหน้าไว้ที่ 97.00 บาท
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]