เมื่อวานที่ผ่านมา SET ปรับขึ้นเด่นในช่วงบ่าย โดยมีแรงซื้อเด่นใน AOT และ TOP ในขณะที่หุ้นเครื่องดื่มหลายตัวมีแรงเก็งกำไรเด่นเช่นกัน นำโดย MALEE, ICHI, SAPPE และ CBG ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,632.6 จุด (+8.55 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.8 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.1 หมื่นลบ.

          นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิเป็นวันที่ 5 ที่ 21 ลบ. (กองทุนซื้อสุทธิ 35 ลบ.) แต่กลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิที่ 7,000 สัญญา

 

          FED สัญญาณชะลอขึ้นดอกเบี้ย ระยะสั้นเป็นบวกต่อตลาดหุ้น : เมื่อคืนที่ผ่านมา FED คงดอกเบี้ยที่ 2.25%-2.50% ด้วยคะแนนเสียงสูงกว่า 10:0 โดย Powell แถลงกล่าวเป็นนัยถึงการชะลอการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงที่เหลือของปี นั่นแสดงถึงการอิงนโยบายการเงินตาม Market Dependent มากกว่า Data dependent (สำนักข่าวชื่อดังให้โอกาสสูงกว่า 70% ที่FED จะไม่ปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้) และในส่วนของแผนการลดขนาดงบดุล (FED Balance sheet) มีโอกาสที่จะชะลอการลดชั่วคราว ส่งผลให้ Dollar กลับมาอ่อนค่าที่ 95.4 และ Bond yield 10ปีสหรัฐ ลดลงที่ 2.68% โดยเราเห็นด้วยกับ FED และมีมุมมองสอดคล้องว่าปีนี้จะเป็นปี "Happy Problem" กล่าวคือ เนื่องด้วยเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวเร็วกว่าคาดจากผลของสงครามการค้า อาจจำเป็นที่ธนาคารกลางหลายๆแห่งทั่วโลก นำโดย FED จะต้องลดความเข้มงวด (Hawkish) เพื่อบรรเทาผลกระทบต่อเศรษฐกิจและตลาดทุน เป็นผลให้เราปรับปัจจัยการเงินโลกจากเป็นกลางขึ้นเป็นบวก พร้อมประเมินโอกาสที่ FED จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้เหลือ 0-1 ครั้ง จากเดิม 1-2 ครั้ง และอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญไม่แพ้กันในคืนนี้ แนะนักลงทุนจับตา การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังยืดยาวนานกว่า 5 เดือน เบื้องต้นเราคาดมีโอกาสสูงที่ทั้ง 2 จะยอมถอยคนละก้าว แต่ไม่ถึงกับยกเลิกวงเงิน 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐออกทั้งหมด ซึ่งหากออกมาดี เบื้องต้นเราคาด SET มีโอกาสกลับขึ้นไปเทรดในกรอบ 1,645-1,690 จุด 

          Investment Theme: คงคำแนะนำถือหุ้น BEM, EGCO, VGI, CPALL, BJC และทยอยสะสม  AOT พร้อมถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% 

 

          เมื่อคืนที่ผ่านมา : SCC จ่ายปันผลสูงกว่าคาดที่ 9.50  บาท ขึ้น XD วันที่ 3 เม.ย. (เราคาด 8.50 บาท/หุ้น / จับตาธปท.เข้าดูแลค่าเงินบาทหลังอ่อนค่าสุดในรอบ 9 เดือนที่ 31.2บาท/ดอลลาร์สหรัฐ

 

          แบ่งผลเจรจาการค้าเป็น 3 Cases : ภายหลังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจบลง เราคาดเร็วๆนี้ จะมีการแถลงผลการเจรจาอย่างเป็นทางการ โดยเราแบ่งผลลัพธ์เป็น 3 Cases นำโดย  1) Best case กล่าวคือยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25% , ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67แสนล้านเหรียญ, ยกเลิกวงเงิน  2.5 แสนล้าน ที่มีอยู่ในปัจจุบันออก คาด SET ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,645 จุด แนะซื้อ PTTEP, PSL, WICE และ 2) Base case กล่าวคือ ยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25%, ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67 แสนล้านเหรียญ, แต่ยังคงภาษีวงเงินเดิม 2.5 แสนล้านเหรียญ คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,585-1,620 จุด แนะซื้อ AOT, TU และ 3) Worst case กล่าวคือขึ้นอัตราภาษี 25%, ขึ้นวงเงินภาษีอีก 2.67 แสนล้าน รวมเป็น 5.1 แสนล้านเหรียญ คาด SET เปิด Downside 1,540- จุด ซึ่งถือเป็นภาพจะส่งผลเสียต่อทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลก, การเมืองโลก 

          Trading idea -  ทยอยสะสม SPA ราคาเป้าหมาย 15.80 บาท คาดราคาหุ้นตอบรับงบ Q4 ที่คาดอ่อนตัว 9%QoQ ที่ 47 ล้านบาทไปแล้ว ในขณะที่ภาพอุตสาหกรรมท่องเที่ยวกลับมาคึกคักอีกครั้งในรอบ 5 เดือน

 

          ปิดยืนเหนือ 1630 Upside เปิด คาดแกว่งขึ้นต่อตามกรอบ Uptrend : ดัชนีซื้อหลักจากกลุ่มพลังงานและขนส่ง ทำให้ดัชนีแกว่ง Sideway Up ตลอดทั้งวัน และสามารถปิดยืนเหนือ 1630 พร้อมสัญญาณบวกใน MACD ทำให้ระยะสั้น Upside เปิดมากขึ้น คาดดัชนีแกว่งขึ้นต่อตามกรอบ Uptrend ย่อย มองแนวต้านถัดไปที่ 1640 และ 1665 (EMA200Day)  จังหวะอ่อนตัวยังมองเป็นโอกาสสะสมตามแนวรับ 1625 และ 1615 ตามลำดับ โดยการพักตัวในระยะสั้นไม่ควรหลุดแนวรับที่ 1615 มิฉะนั้นโมเมนตัมการส่งต่อจะเสียไป

          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: ถือหุ้นต่อ และพิจารณาแรงขายตามแนวต้าน 1640 และ 1665 ตามลำดับ แต่หากดัชนีหลุด 1625 แนะนำ Lock Profit ทั้งหมด และพิจารณาแนวรับถัดไปที่ 1615  2) ไม่มีหุ้น: หากอ่อนตัวทดสอบแนวรับ 1625 แล้วไม่หลุด มองเป็นโอกาสสะสมหุ้น เพื่อ Trading

          แนวรับ : 1615, 1625 แนวต้าน : 1640, 1665

 

          ปัจจัยต่างประเทศ :  31 ม.ค. ประชุม Trade war , FOMC  

          ปัจจัยในประเทศ :  ความคืบหน้าโครงการประมูล EEC 

 

          PTTEP (B 118.00-120.00, Tp 124.00/128.00, Cut 117.00)

          TU (18.40-18.70, Tp 20.00//21.00, Cut 18.00)

 

 

SCC ปักธงรายได้ปี 62 โต 5% ทุ่มงบลงทุน 6 หมื่นล้าน ปันผลอีก 9.50 บาท (ข่าวหุ้น)

          SCC เปิดแผนธุรกิจปี 62 คาดรายได้โต 5% ขานรับดีมานด์ใช้ปูนซีเมนต์พุ่ง 3-5% จากการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานของภาครัฐ พร้อมทุ่มงบลงทุน 60,000 ล้านบาทเดินหน้าขยายธุรกิจ ส่วนงบปี 61 มีกำไรสุทธิ 44,748 ล้านบาท ลดลง 19% ฟากบอร์ดอนุมัติจ่ายปันผลครึ่งปีหลังอีกหุ้นละ 9.50 บาท ขึ้น XD วันที่ 3 เม.ย.นี้

          ความเห็น : 4Q61 มีกำไร 10,468 ล้านบาท (+11%QoQ, -17%YoY) ดีกว่าคาด  ปีนี้จะมีการตั้งสำรองตามกฏหมายคุ้มครองแรงงานฉบับใหม่ 2 พันล้านบาท แต่เราคาดกำไรจะเติบโตได้เล็กน้อย แรงหนุนธุรกิจปูนซีเมนต์ที่ฟื้นตัว และ เพจเกจจิ้งที่โตต่อเนื่อง  เรามองกระแส Fund Flow ต่างชาติที่กลับทิศมาซื้อจะเป็นบวกต่อSCC  หุ้นมีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ดี 3.8-4% แนะนำ ซื้อ ในช่วงอ่อนตัว เป้าหมาย 490 บาท

 

TASCO ไร้ผลคว่ำบาตร PDVSA ธุรกิจพ้นจุดต่ำ-เป้า 16.75 บาท (ทันหุ้น)

          สหรัฐคว่ำบาตร PDVSA บริษัทน้ำมันของรัฐบาลเวเนซูเอลา กดราคาน้ำมันผันผวน ปัญหา Supply หักล้างปัญหาเจรจาสงครามการค้าโบรกส่อง TASCO ไร้ผลกระทบ แม้สั่งซื้อ Crude กลั่นยางมะตอยทั้งหมดจาก PDVSA เหตุมีผลบังคับใช้เฉพาะบริษัทที่อยู่ในสหรัฐอเมริกาและพลเมืองอเมริกัน พร้อมมองธุรกิจพ้นจุดต่ำ แนะซื้อ เคาะเป้า 16.75 บาท

          ความเห็น : TASCO ปัจจุบันยังไม่ได้รับผลกระทบการนำเข้าน้ำมันดิบจากเวเนซุเอลา แต่ความวุ่นวายทางการเมืองในเวเนซุเอลาทำให้อนาคตมีความเสี่ยง  ทั้งนี้ TASCO จะประกาศผลประกอบการประจำปี 2561 ในวันที่ 14 ก.พ.  เราประเมินกำไรสุทธิ 4Q61 จะลดลงเหลือเพียง 69 ล้านบาท (-87%YoY) จากขาดทุนในสต็อก  ช่วงนี้ชะลอการลงทุน รอหลังประกาศงบในวันที่ 14 ก.พ. 

 

SIRI ยอดขายทะลุ 1.4 หมื่นล. ต่างชาติเชื่อมั่นดันปีนี้โตต่อ (ทันหุ้น)

          SIRI โชว์ยอดขายต่างประเทศปี 61 แตะ 14,000 ล้านบาท พีคสุดรอบ 4 ปี ลุยเปิดตลาดเวียดนาม เพิ่มเซลส์แกลอรี่แดนมังกรพร้อมจับมือโตคิวพัฒนาโครงการมั่นใจปี 62 ต่างชาติเชื่อมั่นลงทุนตลาดอสังหาไทย ล่าสุดเปิดเซลส์แกลอรี่แห่งแรก SIRI HOUSE ที่เดมพ์ซี่ ฮิลล์ สิงคโปร์

          ความเห็น :  ปี 2561 SIRI ทำ Presales ได้ 48,328 ล้านบาท (+25% YoY) ใกล้เคียงเป้าที่ตั้งไว้ที่ 50,000 ล้านบาทและมียอดต่างขาติสูงสุดที่ 14,000 ล้านบาทหรือ 29% ของทั้งหมด ซึ่งเรามองว่าอยู่ในระดับที่สูงแล้วแม้มีเพดานที่ 49%  และมี Backlog ที่รอบันทึกรายได้ในปี 2562 ที่ 7,890 ล้านบาท และส่วนจาก JV ที่ 7,851 ล้านบาท เราคาดทิศทางผลประกอบการของ 4Q61 จะเด่นที่สุดของปี แต่ในปี 2561 คาดรายได้ 27,590 ล้านบาท (-10.8% YoY) และคาดกำไรสุทธิของปีนี้อ่อนตัว 4.2% เท่ากับ 2,666 ล้านบาท คงคำแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 1.62 บาท/หุ้น

 

TU ลูกค้ารายใหม่ทะลักเร่งผุดสินค้ามาร์จิ้นสูง (ทันหุ้น)

          TU เข้าสู่โหมดขาขึ้น ลูกค้าใหม่เข้าเจรจาพรึบ หลังทำตลาดได้ผล แถม IUU ปลดล็อกดันลูกค้าเพิ่มอีก ชี้ไตรมาส 1 ผลงานแจ่ม เร่งคลอดสินค้าใหม่มาร์จิ้นสูงต่อเนื่อง หนุนอัตรากำไรขั้นต้นและกำไรสุทธิยืนเหนือ 14% และ 4% ตามลำดับ

          ความเห็น :  ราคาวัตถุดิบปลาทูน่าที่ลดลงทำให้ลูกค้าซื้อสินค้ามากขึ้น ขณะที่สินค้ากุ้งซึ่งขยายไปยังตลาดใหม่ๆ มีอัตรากำไรสูงขึ้น คาดกำไรของ TU เติบโตดีใน 4Q61 ต่อเนื่องไปใน 1Q62 โดยได้ผลบวกจากต้นทุนปลาทูน่าที่ลดลง แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 21.70 บาท

 

PTTEP ตามนัดโต 89% โชว์กำไร 3.6 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)

          PTTEP ตามนัด! ประกาศงบปี 61 มีกำไรสุทธิ 36,206 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 89% จากปีก่อน แรงหนุนปริมาณขายปิโตรเลียม-ราคาเฉลี่ยพุ่ง พร้อมจ่ายปันผลครึ่งหลังอีกหุ้นละ 3.25 บาท แขวน  XD วันที่ 12 ก.พ.นี้ ลั่นเป้าปี 62 ปริมาณขายพุ่ง 3.18 แสนบาร์เรลต่อวัน รับผลบวกบุ๊กสัดส่วนถือหุ้นในบงกชเพิ่มเป็น 66% เต็มปี

          ความเห็น :  ผลประกอบการปกติเป็นไปตามคาด ประกาศปันผล 3.25 บาทต่อหุ้น คิดเป็นผลตอบแทน 2.7% สูงกว่าคาด แนวโน้มผลประกอบการปกติ 1Q62 ทรงตัว QoQ จากต้นทุนที่ลดลงช่วยชดเชยราคาขายที่อ่อนตัวตามน้ำมัน แนะนำ Trading Buy เป้าหมาย 150 บาท