- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 29 January 2019 15:49
- Hits: 3404
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
Laggard stocks คืนชีพ
เมื่อวานหุ้น ขนาดกลาง-เล็ก (Mid-small Cap) ที่ Laggard สุดๆ กลับมา บวกแรง เช่น DDD COM7 THAI JMART TKN ASAP WORK TACC ACAP ฯลฯ สวนทางหุ้นใหญ่อย่าง PTTEP IVL KTC SCB LH ที่ราคาหุ้นลงกดดัชนีฯ
วันนี้คาด ดัชนีฯย่อสลับรีบาวด์ (Sideways up) กรอบ 1,617-1,635 จุด คาดหุ้นใหญ่-พักร้อน แต่แรงซื้อเก็งกำไรในหุ้น Laggard กลาง-เล็ก จะยังคงคึกคัก ส่วนปัจจัยในต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นการ เจรจาการค้า 31 มค. ที่จะจบลงด้วยดีหรือไม่ และ แม้ว่าระหว่างทางจะมีแต่กระข่าวลบ เช่น สหรัฐฯฟอง ผบห.หัวเว่ย เรียกร้องให้มาดำเนินคดีในสหรัฐฯ, กำไร บจ.สหรัฐฯ ร่วงเพราะเศรษฐกิจชะลอ... รวมถึง แผน Brexit จะผ่านหรือไม่ผ่านมติ...
เรายังคงเชื่อว่าหุ้นไทยจะ กระทบจำกัด พิจารณาจาก หุ้นไทยยังไม่(ทัน)ได้ขึ้นเหมือนหุ้นโลก MSCI World +5.6% YTD MSCI EM ASEAN +5.8% MSCI EM +6.45% ส่วนไทยบวกแค่ 3.7% YTD ดังนั้นถ้าจะมีแรงขาย เชื่อว่าจะมีน้อยกว่าตลาดอื่นที่แรลรี่ไปก่อนหน้า บวกกับหุ้นไทย ยังคงเป็น Save haven ในแง่ของผลตอบแทนเงินปันผลที่สูง เป็นรอง เพียง ตลาดสิงคโปร์
สัปดาห์นี้คงคาด หุ้นไทยอยู่ในโหมดของการรีบาวด์ ต่อ แนวต้าน 1,650 แนวรับ 1,615 จุด...ให้น้ำหนักปัจจัยที่มีผลต่อตลาดเชิงบวกจากการที่ นลท. เริ่มโฟกัส การเปิดตัว ว่าที่ตัวแทนนายกฯ ของแต่ละพรรค และนโยบายของพรรคการเมือง ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจ และ อุตสาหกรรม ที่เชื่อมโยง ส่วนปัจจัยในต่างประเทศ เราคงคาดว่าจะมีผลต่อหุ้นไทยน้อยลง ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง การเปิดโต๊ะเจรจาการค้ารอบ 2 จีนสหรัฐฯ, การลงมติแผน BREXIT รอบ 2
What to watch:
(-) ผลการประชุม ธนาคารกลางสหรัฐฯ วันที่ 30 มค.นี้ MS คาดถ้อยแถลงจะยังคงเข้มงวด (QTQuantitative tightening) และไม่ได้ผ่อนคลายมากขึ้น อย่างที่ตลาดคิด อย่างไรก็ตาม เมื่อถึงเวลาที่ ธนาคารกลางสหรัฐฯ เริ่มผ่อนคลาย MS เชื่อว่าจะเป็นจุดเปลี่ยนของตลาดหุ้นให้กลับมาขึ้นได้อีกครั้ง (น่าจะเป็นหลังการประชุม เดือน มีค.) และ คาดธนาคารกลางสหรัฐฯมีแนวโน้มกลับมาเพิ่มงบดุลอีกครั้งช่วง 2Q19
(+/-) คาดการณ์ งบ 4Q18: 30 มค. PTTEP SCC GLOW/ 31 มค.THCOM (Figure 1)
(0) BREXIT รัฐสภาจะมีการลงมติแผนสำรองอีกครั้งในวันที่ 29 มค.นี้ / การเจรจาการค้า จีน-สหรัฐฯ รอบสอง 30-31 มค.นี้
หุ้นแนะนำ
UTP Laggard plays
DDD (ราคาย่อลงมา แนะสะสม บริเวณ แนวรับ 21.5) ยอด นทท.จีน เดือน ธค.พลิกบวก +2.8% หลังจากติดลบ นานกว่า 4 เดือน คาดหยุดยาว ตรุษจีน บวกกับสงกรานต์ จะดึง นทท.จีน ผ่านมาตรการ ฟรีวีซ่า ของรัฐบาล หนุนให้ยอดขายสินค้าที่เชื่อมโยงกับ นทท.จีน กลับมาขยายตัวอีกครั้ง ใน Q1/19
รายงานวันนี้
DTAC: On track for robust 4Q18 core earnings; market share comeback
รายงานขาดทุนสุทธิ 4.94 พันล้านบาท (ขาดทุนน้อยกว่าคาด 30%) (เพราะมีค่าใช้จ่ายยอมความกรณี กสท. 6.48 พันล้านบาท สุทธิภาษี บันทึกเข้ามา) กำไรหลักอยู่ที่ 2.03 พันล้านบาท (กำไรสูงกว่าคาด 96%) เพิ่มขึ้น 296%YoY และเพิ่มขึ้นจากกำไร 1 ล้านบาท ใน 3Q18 จากผลประกอบการที่ดีกว่าคาด เราปรับกำไรขึ้น 12% และปรับราคาเปาหมายขึ้นเป็น 55 แนะนำ ซื้อ
Tourism: นักท่องเที่ยวจีนกลับมาแล้ว
ททท.ประกาศตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยล่าสุดเดือนธ.ค. 2018 ที่ 3.85 ล้านคน ขยายตัว 7.7% YoY สูงขึ้นเทียบกับเดือน พ.ย. 2018 และนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าไทย เดือน ธ.ค. 2018 พลิกฟื้นจากติดลบเป็นบวกที่ 2.8% YoY ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเริ่ม rebound ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา แต่เรายังมองว่าไปต่อได้อีก หนุนโดยตัวเลขในเดือนธ.ค 2018 และวง High season ใน 1Q19 ดังนั้นเราแนะนำ Let profit run โดยมองว่าบริษัทที่จะได้ประโยชน์ได้แก่ AOT (BUY, TP Bt80) , CENTEL (BUY, TP Bt54) และ ERW (T.BUY, TP Bt8.20) ทั้งนี้บริษัทที่ขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวจีน น่าจะได้รับประโยชน์ด้วยอย่างน้อยคือข่าวบวกระยะสั้นเช่นกัน ได้แก่ BEAUTY และ DDD
ORI: Key takeaways from press meeting
เราเข้าร่วมงานแถลงแผนธุรกิจประจำปี 2019 ของ ORI เรามีมุมมองเชิงบวกมากขึ้น หลังจากที่ผู้บริหารให้มุมมองที่ระมัดระวังต่อภาพอุตสาหกรรมอสังหาฯ เราคงคำแนะนำ "ซื้อเก็งกำไร" ตามกลุ่มบ้านที่จะจ่ายเงินปันผลปลายปีให้ yield สูง
- บริษัทปรับลดแผนเปิดตัวโครงการใหม่ลงเหลือ 2.6 หมื่นล้านบาท (flat YoY) (เปาเดิม โต 15%+/-) แบ่งเป็นโครงการคอนโด 77% และโครงการแนวราบ 23%
- ตั้งเปายอดจองซื้อ 2.8 หมื่นล้านบาท (มากกว่าแผนเปิดตัว = บริษัทตั้งใจระบายสต๊อก)
- ตั้งเปายอดโอน 1.7 หมื่นล้านบาท (มี backlog รองรับแล้ว 66% สูงเป็นอันดับต้นๆของ อุตสาหกรรม)
- ผู้บริหารมีมุมมองระมัดระวังมากขึ้น ต่อยอดจองซื้อ (take up rate) เพราะภาพอุตสาหกรรมที่มีเกณฑ์ LTV ของแบงค์ชาติมาคุม
M: The most favorite meal
เรามองว่า M จะเป็นคนที่ได้ประโยชน์จากเม็ดเงินที่สะพัดก่อนการเลือกตั้ง เนื่องจากมีรายได้จากต่างจังหวัดค่อนข้างมาก สำหรับปี 2019 คาดยอดขายจะเติบโตได้ดีทั้งจาก SSSG และการขยายสาขาใหม่ รวมถึงปีที่แล้วฐานต่ำและมีการปรับราคาขึ้นในช่วงปลายปี ในด้านของอัตรากำไรคาดจะยังคงรักษาระดับสูงได้จากการปรับราคาขึ้น และการรับรู้การดำเนินงานของ M-Senko เต็มปี ซึ่งเข้ามาช่วยลดต้นทุนด้าน Logistic ระยะสั้นเรามองว่ากำไรใน 4Q18 จะเติบโต 27% YoY และ 3% QoQ มาที่ 695 ล้านบาท และโตต่อเนื่องใน 1Q19 จากการฟื้นตัวของตลาดต่างจังหวัด แต่คาดจะมีการบันทึกค่าใช้จ่ายพิเศษ (ครั้งเดียว) ราว 100 ล้านบาทเกี่ยวเนื่องกับกฏหมายแรงงานใหม่ ใน 2Q19 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเปาหมาย 86 บาท
KKP: Good FY19 dividend payout outlook
ธนาคารตั้งเปาการเติบโของสินเชื่อที่ 8% ในปี 2019 อย่างไรก็ตามคาด NIM ปรับตัวลดลงจาก 5% ในปี 2018 เป็น 4.5-4.7% จาก Funding cost ที่ปรับตัวขึ้น ในด้านของการขาย NPA เราคาดจะมีการขาย 1.3 พันล้านบาท (ทรงตัว YoY) และกำไรที่ 500 ล้านบาท (700 ล้านบาทในปี 2018) ณ ตอนนี้ พอร์ต NPA โดยรวมของบริษัทอยู่ที่ 8.7 พันล้านบาท (ต้นทุน 3.7 พันล้านบาท) ฝั่งของการตั้งสำรองบริษัทคาดอยู่ที่ 1-1.2% ของพอร์ตทั้งหมด และตั้งเปา NPLs/loans ratio ต่ำกว่า 4% ณ สิ้นปี 2019 (4.1% ณ สิ้นปี 2018) เราคาดเงินปันผลที่ 5 บาทต่อหุ้น (อัตราผลตอบแทนเงินปันผลที่ 7.3% สูงสุดในกลุ่มธนาคาร) สำหรับปี 2019 เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเปาหมาย 77 บาท
Tourism: นักท่องเที่ยวจีนกลับมาแล้ว
ททท.ประกาศตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยล่าสุดเดือนธ.ค. 2018 ที่ 3.85 ล้านคน ขยายตัว 7.7% YoY สูงขึ้นเทียบกับเดือน พ.ย. 2018 และนักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าไทย เดือน ธ.ค. 2018 พลิกฟื้นจากติดลบเป็นบวกที่ 2.8% YoY ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเริ่ม rebound ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา แต่เรายังมองว่าไปต่อได้อีก หนุนโดยตัวเลขในเดือนธ.ค 2018 และวง High season ใน 1Q19 ดังนั้นเราแนะนำ Let profit run โดยมองว่าบริษัทที่จะได้ประโยชน์ได้แก่ AOT (BUY, TP Bt80) , CENTEL (BUY, TP Bt54) และ ERW (T.BUY, TP Bt8.20) ทั้งนี้บริษัทที่ขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวจีน น่าจะได้รับประโยชน์ด้วยอย่างน้อยคือข่าวบวกระยะสั้นเช่นกัน ได้แก่ BEAUTY และ DDD
Flow Tracker: ต่างชาติซื้อหุ้นไทยเล็กน้อยในสัปดาห์ที่ผ่านมา
นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทย 39 ล้านเหรียญสหรัฐฯในสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งต่อเนื่องจากการซื้อสุทธิ 285 ล้านเหรียญสหรัฐในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับกระแสเงินลงทุนในภูมิภาค 5 ประเทศที่เราดู พบว่ากระแสเงินจากต่างชาติรวมเป็นยอดซื้อสุทธิ 2,591 ล้านเหรียญ ซึ่งต่อเนื่องจากยอดซื้อสุทธิ 1,618 ล้านเหรียญในสัปดาห์ก่อนหน้า สำหรับตลาดหุ้นไทย ในสัปดาห์ที่ผ่านมาดัชนี Volume Flow ของตลาดหุ้นไทยส่งสัญญาณถึงแรงซื้อในหุ้นเกือบทุกกลุ่ม ยกเว้นกลุ่มปิโตรเคมีและเคมีและ ICT โดยดัชนี Volume Flow ของหุ้นกลุ่มธนาคารและอสังหาฯส่งสัญญาณถึงแรงซื้อต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่สี่ ขณะที่ดัชนี Volume Flow ของหุ้นกลุ่มขนส่งและโลจิสติกส์เข้าใกล้เขต Overbought แล้ว
หุ้นมีข่าว
(+) AOT CENTEL ERW BEAUTY DDD ททท. ประกาศตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าไทยล่าสุดเดือน ธ.ค. 2018 ที่ 3.85 ล้านคน ขยายตัว 7.7% YoY กระเตื้องขึ้นเทียบกับเดือน พ.ย. 2018 ที่เติบโต 4.5% YoY
ที่สำคัญสุดคือ ตัวเลขที่ทุกคนรอคอย ได้แก่ นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าไทย เดือน ธ.ค. 2018 พลิกฟื้นจากติดลบทุกเดือนมาตั้งแต่เหตุการณ์เรือล่มที่ภูเก็ตในต้นเดือน ก.ค. 2018 เป็นบวกที่ 2.8% YoY ในเดือน ธ.ค. 2018 เทียบกับติดลบถึง 15% YoY ในเดือน พ.ย. 2018
"Deja vu" นี่คือความรู้สึกแรกหลังได้เห็นตัวเลขนักท่องเที่ยวล่าสุด โดยสถานการณ์การฟื้นตัวของท่องเที่ยวจีนเป็นไปตาม pattern การฟื้นตัวในอดีตคือไม่เกิน 6 เดือนหลังวิกฤตการณ์ทุกเหตุการณ์ที่ผ่านมาในอดีต
ตัวเลขอุปสงค์นักท่องเที่ยวต่างชาติในเดือน สุดท้ายของปี 2018 นั้นขยายตัว YoY ในทุกภูมิภาคหลัก ได้แก่ เอเชียตะวันออก เอเชียใต้ ยุโรป และอเมริกา
ตัวเลขนักท่องเที่ยวต่างชาติทั้งปี 2018 รวม 38.3 ล้านคน เติบโต 7.5% เป็นไปตามเปาหมายททท. แม้ชาวจีนชะลอตัวในช่วงครึ่งปีหลัง เนื่องจากนักท่องเที่ยวชาติอื่นเข้ามาหนุนที่สำคัญได้แก่ รัสเซีย และอินเดีย
สัญญานนักท่องเที่ยวชาวจีนที่ฟื้นตัวในเดือน ธ.ค. 2018 นับเป็นสัญญาณบวกเริ่มต้น หนุนจากทั้งภาครัฐและเอกชนที่พยายามกระตุ้นนักท่องเที่ยวจีนให้กลับมาไทย โดยเฉพาะมาตรการฟรีวีซ่า นั้นถือว่าช่วยได้มาก
จากนี้เราคาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนเข้าไทย กลับสู่ภาวะปกติได้ใน 1Q19 เริ่มตั้งแต่เดือน ม.ค. 2019 และเติบโตดีในช่วงตรุษจีน ต้น เดือน ก.พ. 2019 อย่างต่อเนื่อง
ราคาหุ้นกลุ่มท่องเที่ยวเริ่ม rebound ตั้งแต่ต้นเดือนที่ผ่านมา แต่เรายังมองว่าไปต่อได้อีก หนุนโดยตัวเลขการฟื้นตัวจริงและยิ่งกว่าในเดือนธ.ค 2018 ของนักท่องเที่ยวชาวจีนและภาพรวมการท่องเที่ยวไทยช่วง High season ใน 1Q19 ที่ทุกคนรอคอย
ดังนั้นเราแนะนำให้ Let profit run โดยมองว่าบริษัทที่จะได้ประโยชน์เต็มเม็ดเต็มหน่วยจากฟื้นตัวของอุปสงค์ท่องเที่ยวในไทย โดยเฉพาะชาวจีนที่ฟื้นตัว ได้แก่ AOT (BUY, TP Bt80) , CENTEL (BUY, TP Bt54) และ ERW (T.BUY, TP Bt8.20)
ทั้งนี้บริษัทที่ขายสินค้าให้นักท่องเที่ยวจีน น่าจะได้รับประโยชน์ด้วยอย่างน้อยคือข่าวบวกระยะสั้นเช่นกัน ได้แก่ BEAUTY และ DDD
(*) IRPC ทุ่ม 8 พันล้านบาท เปลี่ยนโรงกลั่น ยูโร 5 คาดเสร็จภายใน 2Q/65 (ที่มา ไทยโพสต์)
(-) THAI เอกนิติ ให้ THAI เร่งพิจารณา แผนซื้อหุ้นเพิ่มทุน NOK ให้บอร์ดพิจารณาภายใน กพ.19 (ที่มา ไทยโพสต์)
(0) WORK ผนึก Viu ผลิตซีรี่ย์ ท้องถิ่นลงจอ "โฮะ แฟมิลี่" พร้อมขยายฐานผู้ชมวัยรุ่นมากขึ้น (ที่มา ไทยโพสต์)
(+) WHA ผนึกทุนจีน ลุยอีคอมเมิร์ช ตั้งบริษัทฯ ร่วมทุน รองรับการขยายตัว ธุรกิจ E-Commerce ในภูมิภาคอาเชียน (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์
Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1625.03 (+0.09%) มูลค่าการซื้อขาย 4.8 หมื่นล้านบาท
แนวโน้มระยะสั้นมองSET Index แนวรับ 1,615 แนวต้าน 1,635 / SET100 รับ 2,380 ต้าน 2,400
BSET100 รับ 10.32 ต้าน 10.40 / BMSCITH รับ 12.30 ต้าน 12.40
Topic: "Laggard play"
มุมมองตลาด: หุ้นเกือบทั้งหมดที่อยู่ใน SET100 และ MAI ส่งสัญญาณฟื้นตัวได้ดีจากมูลค่าการซื้อขายที่น่าสนใจหลังราคาปรับตัวลงแรงซึ่งเป็นผลมาจากความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นจากการเลือกตั้ง หนุนกระแสเงินลงทุนต่างชาตืไหลกลับ
สรุป: ทิศทางตลาดลุ้นทำสถิติสูงสุดใหม่เดือนมกราคมมองแนวต้าน 1655 จุด (Fibonacci ratio 50%) แนวรับ 1615 จุด
Trick: โครงสร้างตลาดเปลี่ยนเป็นขาขึ้น หุ้นขนาดเล็ก-กลางหรือราคาหุ้นขึ้นช้าจะกลับมาโดดเด่น!
กลยุทธ์: แนะจับตาหุ้นขนาดเล็ก-กลางหรือหุ้นที่เริ่มฟื้นตัว (Laggard) มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามหุ้นผู้นำกลุ่ม
วิธีการเลือกหุ้น: ภาวะตลาดพักตัวแนะนำวิธีการเลือกหุ้น 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟื้นตัวจากแนวรับหรือการเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟื้นตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic ,MACD ,Moving average
Technical screen Bull Signal: OSP, TKN, AH
Technical screen Bear Signal: PTTEP, IVL, KCE
Port หุ้นคงเหลือ: AU, TU, CPF, BEC, BGC, SCC, GLOBAL,TISCO , OSP, CPN, WHA, TFG (แนะนำถือต่อ)
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
OSP
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 25.00
แนวต้าน 30.00
เหตุผล OSP ทะลุแนวต้านสำคัญ 25 หนุนด้วยวอลุ่มเพิ่มขึ้น พร้อมกับ MACD ส่งสัญญาณกลับตัวเป็นทิศทางขาขึ้น
TKN
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 8.30
แนวต้าน 10.50
เหตุผล ราคาปิดทะลุเส้นค่าเฉลี่ย หนุนด้วย MACD > 0 ส่งสัญญาณการเปลี่ยนเป็นขาขึ้นรอบใหม่
AH
แนะนำ ซื้อ
แนวรับ 20.80
แนวต้าน 23.00/24.00
เหตุผล ทะลุเส้นกลาง Bollinger band ขณะที่ RSI ยืนยันโครงสร้างความแข็งแกร่งด้านราคา