- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 28 January 2019 12:40
- Hits: 3807
บล.กรุงศรี: Money Wizard
ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ : SET Index เมื่อวันศุกร์ปรับตัวขึ้น 3.09 จุด (+0.19%) ปิดที่ 1,624 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.5 หมื่นล้านบาท จากความมั่นใจในภาวะการเมืองหลังกำหนดวันเลือกตั้งชัดเจนไว้ที่ 24 มี.ค. ประกอบกับแรงซื้อดักผลประกอบการ 4Q18 และแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ไหลเข้า ส่งผลให้ดัชนีปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 5 ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 414 ล้านบาท และ Net Long TFEX 1,600 สัญญา แต่ขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,004 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,615 – 1,630 จุด โดยแม้ว่าจะได้ประเด็นบวกจากปธน.ทรัมป์บรรลุข้อตกลงกับผู้นำสภาคองเกรส (โดยไม่รวมงบประมาณสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก) ในการยุติภาวะ Shutdown ที่ยาวนานถึง 35 วันเป็นการชั่วคราวจนถึง 15 ก.พ. นอกจากนี้ความคาดหวังผลการเจรจาการค้าสหรัฐ-จีนรอบใหม่ในช่วงปลายเดือนม.ค. รวมถึงความมั่นใจการเมืองในประเทศหลังกำหนดวันเลือกตั้งชัดเจนซึ่งเป็นแรงหนุนต่อทิศทางดัชนี อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีดีดตัวขึ้นตอบรับปัจจัยบวกมาระดับหนึ่งแล้ว ประกอบกับแรงขาย Sell on fact ในช่วงประกาศงบปี 2018 รวมถึงนลท.จะชะลอการลงทุนเพื่อติดตามการแถลงมติอัตราดอกเบี้ยของ FOMC ในวันที่ 30 ม.ค.จะกดดันให้ดัชนีดีดตัวแบบจำกัดและมีความผันผวนในระหว่างวันสูง
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
• STEC, AMATA, WHA ได้ประโยชน์ภาวะการเมืองปลดล็อคและวันเลือกตั้งที่ชัดเจน
• กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และคาดจำนวน นทท.จีนขยายตัวขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน
• กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง
• หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน (BEM, BGRIM, TPIPP และ TTW)
• กลุ่มอาหาร (TU, ASIAN) EU ปลดธงเหลืองต่อการนำเข้าสินค้าประมงของไทย (CPF, GFPT) อานิสงส์ราคาไก่และ By product ปรับตัวขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้ : EA (ปิด 47.5 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 63) รับข่าวดีโรงไฟฟ้าพลังงานลม โครงการหนุมาน 1 และ 8 กำลังการผลิตรวม 90MW เริ่ม COD ตั้งแต่ 25 ม.ค.คาดหนุนกำไรสุทธิ 1Q19 โตโดดเด่นต่อเนื่อง, ERW (ปิด 7.2 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 8.2) รับผลบวกภาครัฐขยายเวลาฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ไปถึงเดือน เม.ย. และเพิ่มความสะดวกให้กับนักท่องเที่ยวจีน ด้วยการให้ วีซ่า ออนไลน์ เป็นชาติแรกเริ่ม 15 ก.พ.เป็นต้นไป, SAWAD (ปิด 49 ซื้อ/เป้า 55) ไม่ได้รับผลกระทบจากเกณฑ์ใหม่ ล่าสุดธปท.ประกาศเกณฑ์คุมสินเชื่อที่มีทะเบียนรถยนต์เป็นหลักประกัน กำหนดเพดานดอกเบี้ยไม่เกิน 28% ไม่กำหนดวงเงินสินเชื่อ และผู้ประกอบการทุกรายต้องมีใบอนุญาติภายใน 60 วันโดยมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ล้านบาท
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : BTS (ปิด 9.9 ปรับลดเป็นถือ/เป้าใหม่ 10.4 จาก 10.5), RS (ปิด 16 ถือ/เป้าใหม่ 14.5 จาก 16)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
• (+) สหรัฐบรรลุข้อตกลงเพื่อยุติปัญหาปิดหน่วยงานรัฐบาลชั่วคราวโดยจะมีงบประมาณสำหรับบริหารงานไปถึงวันที่ 15 ก.พ. : เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ได้ลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณเพื่อให้หน่วยงานรัฐบาลบางส่วนกลับมาเปิดดำเนินการได้อีกครั้ง อย่างไรก็ตามร่างงบประมาณดังกล่าวเป็นเพียงร่างชั่วคราวซึ่งจะทำให้รัฐบาลมีงบประมาณในการบริหารงานจนถึงวันที่ 15 ก.พ.เท่านั้น ต่อจากนี้อีก 3 สัปดาห์แกนนำของพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันจะจัดตั้งคณะกรรมการร่วมเพื่อจัดทำแผนงบประมาณอีกครั้ง
• (+) ราคาน้ำมันดิบฟื้นตัว กังวลอุปทานตึงตัว หลังจากสหรัฐขู่คว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันดิบของเวเนซุเอลา : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 56 เซนต์ (+1.1%) ปิดที่ 53.69 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จากข่าวสหรัฐขู่คว่ำบาตรการส่งออกน้ำมันของเวเนซุเอลา หลังจากสหรัฐไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งในเวเนซุเอลา และเลือกให้ นายฮวน กุยโด ผู้นำพรรคฝ่ายค้าน เป็นประธานาธิบดีชั่วคราวของเวเนซุเอลา ส่งผลให้นายนิโคลัส มาดูโร ซึ่งชนะการเลือกตั้งและเป็นประธานาธิบดีเวเนซุเอลาปัจจุบันประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและการเมืองกับสหรัฐ พร้อมกับสั่งให้เจ้าหน้าที่ทูตและกงสุลของสหรัฐทุกคนออกจากประเทศภายใน 72 ชั่วโมง (เวเนซุเอลา มีกำลังการผลิตน้ำมันดิบประมาณ 2 ล้านบาร์เรล/วันคิดเป็น 5%ของกำลังการผลิตรวมของ OPEC)
• (+/-) กลุ่ม Real Sector เริ่มประกาศงบ 4Q18 นำโดย DTAC, SCC และ PTTEP : สัปดาห์นี้กลุ่ม Real Sector จะเริ่มประกาศผลการดำเนินงาน 4Q18 อย่างเป็นทางการนำโดย DTAC จะประกาศงบในวันที่ 28 ม.ค. คาดมีกำไร 1,383 ล้านบาท เทียบกับ 3Q18 ขาดทุนสุทธิ 921 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 155%yoy, SCC ประกาศงบ 30 ม.ค. คาดมีกำไรสุทธิ 8,864 ล้านบาท -6%qoq และ 29%yoy และ PTTEP ประกาศงบ 30 ม.ค. เช่นกันคาดมีกำไรสุทธิ 6,896 ล้านบาท +1%qoq แต่ -10%yoy
• (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตาม 1) Fed meeting (29-30 ม.ค.) คาดคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ตามเดิม และ 2) จีน-สหรัฐ เจรจาเพื่อยุติสงครามการค้ารอบ 2 (30-31 ม.ค.) : Fed meeting ในช่วงวันที่ 29-30 ม.ค. Bloomberg consensus คาดโอกาสที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยมีเพียง 1% เท่านั้น ประเด็นนี้จึงไม่น่ากังวล แต่ประเด็นที่ตลาดสนใจจะอยู่ที่ถ้อยแถลงหลังการประชุมว่าประธานเฟดจะส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีนี้อย่างไร ตลาดส่วนใหญ่คาดว่าเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในปีนี้เพียง 1 ครั้ง ส่วนวันที่ 30-31 ม.ค.จีนและสหรัฐจะจัดเจรจาเพื่อยุติข้อพิพาททางการค้าอย่างเป็นทางการเป็นครั้งที่ 2 คาดผลเจรจาน่าจะคล้ายกับครั้งแรก และน่าจะมีการจัดประชุมอีกครั้งในเดือน ก.พ.ก่อนถึงกำหนดเส้นตาย 1 มี.ค.19