เมื่อวานดัชนีฯหุ้นไทยขึ้น ทดสอบบริเวณ แนวต้านแรก 1,630 จุด เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 75 วัน แล้ว ย่อลงมา แต่ดัชนีฯรวม ยังอยู่ในรูปแบบ-พร้อมที่จะเล่นรีบาวด์ต่อ ตราบใดที่ไม่หลุด 1,600 จุด ส่วนหุ้นรายตัว ตลาดเลือกตัวบวกเน้นเป็นตัวๆ มากขึ้น เช่น BDMS BANPU CPALL BTS OSP GPSC ไม่ได้ขึ้นกระจายยกแผง (ส่วนมากเป็นตัว Laggard) ส่วนหุ้นสินค้าโภคภัณฑ์กลายเป็นกลุ่มที่กดดันดัชนีฯ         

          วันนี้ คงแนะกลยุทธ์ เลือกลงทุนหุ้นรายตัว เน้นตัว Laggard ส่วนประเด็นที่น่าติดตามวันนี้ คือ การให้ข้อมูล ต่อนโยบายเศรษฐกิจ และ ตลาดทุนไทย ภายใต้การนำเสนอของ พรรคการเมืองใหญ่ที่จะเข้าร่วมให้ข้อมูลต่อ ผจก.กองทุน นลท. และ นักวิเคราะห์...                

          สัปดาห์หน้ายังคงคาดว่า หุ้นไทย อยู่ในโหมดของการรีบาวด์ (มองกรอบบน 1,650 ส่วนการลง ไม่ควรต่ำกว่า 1,615 จุด รอดูปิดตลาดวันนี้)    

          โดยให้น้ำหนักปัจจัยที่มีผลต่อตลาดเชิงบวกจาก การนำเสนอข้อมูลที่จะสานต่อนโยบายด้านเศรษฐกิจ ของพรรคการเมืองใหญ่ในวันนี้ ซึ่งจะมีผลต่อการตัดสินใจลงทุนทั้งทางตรงและทางอ้อม บวกกับตลาดจะเริ่มโฟกัส การเปิดตัว ว่าที่ตัวแทนนายกฯ ของแต่ละพรรค และนโยบายของพรรคการเมือง ที่จะมีผลต่อเศรษฐกิจ และ อุตสาหกรรม ที่เชื่อมโยง...    

 

What to watch:       

          (+) วันนี้สภาธุรกิจตลาดทุนฯ จัดให้ข้อมูล "นโยบายเศรษฐกิจและตลาดทุนไทยภายใต้รัฐบาลหลังเลือกตั้ง" / คาด ผจก.กองทุน, นักวิเคราะห์ จะให้ความสนใจเข้าร่วมเป็นจำนวนมา และ จะมีมุมมอง เชิงบวก/ลบ ต่อการตัดสินใจลงทุน โดยเฉพาะ เรื่องนโยบายที่จะสานต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจ ภายใต้การนำของ พรรคการเมืองใหญ่ แต่ละพรรคที่มาร่วมให้ข้อมูล...

          (0/+) ECB เมื่อวานส่งสัญญาณคงดอกเบี้ยไปถึงฤดูร้อนปีนี้ และเดือนนี้สมาชิก ECB จะหารือการกลับมาใช้มาตรการ LTROs รอบใหม่ โดยผลการประชุมเมื่อวาน ประธาน ECB ยังเปิดช่องในการใช้มารตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ตราบใดที่ความเสี่ยงต่อการขยายตัวยังคงมีอยู่ และล่าสุด โบรกเกอร์ต่างชาติทยอยปรับลดเป้าหมายเงินเฟอ ยุโรป ลง 

          (+/-) งบ 4Q18 ที่จะทยอยประกาศ 22 มค. BFIT/ 28 มค. DTAC / 30 มค. PTTEP SCC GLOW/ 31 มค.THCOM   

          (*) BREXIT จะมีการลงประชามติแผนสำรองอีกครั้งในวันที่ 29 มค.นี้ 

          (0) วุฒิสภาสหรัฐฯ ไม่อนุมัติร่าง กม.งบประมาณทั้ง 2 ฉบับ ทั้งร่างที่รวมและไม่รวม งบสร้างกำแพงฯ ส่งผลให้สภาวะ ชัตดาวน์ (US Govt. shutdown) ยังคงดำเนินต่อไป 

 

          GPSC Laggard play 

          SF  ดูรายงานวันนี้   

          Weekly tactical port : เพิ่ม TU

 

 

SF: Focus on earnings quality   

          SF เป็นบริษัทที่มีคุณภาพของกำไรสูง เพราะกำไรนั้นมาจากการเก็บค่าเช่าซึ่งเป็นรายได้ต่อเนื่อง (Recurring income) และสินทรัพย์ที่มีนั้นมีศักยภาพ ไม่หวั่นต่อสภาพเศรษฐกิจเพราะอยู่ในย่านที่เป็นศูนย์กลางการใช้ชีวิต (Lifestyle center) นอกจากนี้การขยายส่วนใหญ่จะเน้นที่การขยายโครงการเดิม (Asset Enhancement and re-development) ซึ่งมีความเสี่ยงต่ำและผลตอบแทนสูง ปัจจุบันหุ้นเทรด PE 11.7 เท่า ให้ส่วนลดจากค่าเฉลี่ยในอดีตถึง 0.5SD เราแนะนำ "ซื้อ" ที่ราคาเปาหมายพื้นฐาน 10.30 บาท 

 

WHA: Clearer skies in 2019 

          เราคาดยอด Presales ใน 4Q18 ที่ 700 ไร่ (ดีที่สุดของปี เติบโต 269% YoY และ 1,111% QoQ) หนุนให้ Backlog สิ้นปีขึ้นมาอยู่ที่ 610 ไร่ (จาก 105 ไร่ปลาย 3Q18) ซึ่งจะทำให้ยอดโอนในปี 2019 นี้เติบโตอย่างก้าวกระโดดจากทั้งยอดขายใหม่และ Backlog ททที่ตุนไว้ตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ในด้านของธุรกิจให้เช่าคลังสินค้าและโรงงานยังมีดีลที่คาดจะปิดได้ในเร็วๆนี้อีกหลายดีล โดยเฉพาะลูกค้าในกลุ่ม E-commerce โดยรวมเรามองว่าการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นจะหนุนความเชื่อมั่นของนักลงทุน แต่คงต้องรอความคืบหน้าของโครงการ EEC ภายใต้รัฐบาลใหม่ แม้ว่าสุดท้ายใครจะเข้ามาเป็นรัฐบาลเรามองว่าโครงการ EEC จะถูกผลักดันต่อ เนื่องจากเป็นโครงการที่สร้างประโยขน์ให้กับประเทศ เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ  

 

TQM: Robust earnings anticipated for 4Q18 

          เราคาดกำไร 4Q18 ที่ 124 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 124% YoY และ 33% QoQ จากการเติบโตของ insurance premium sales และ brokerage fee (รวมถึง service fee) รวมทั้ง OPEX ที่คาดลดลง จาก cost reduction program จากการปรับโครงสร้างการดำเนินงานหลังบ้าน (เข้ามามีส่วนร่วมกับ front office โดยมีใบอนุญาตที่ถูกต้อง) ทำให้รายจ่ายรายคนจะอิงกับรายได้ค่านายหน้ามากกว่าเงินเดือนพื้นฐาน บริษัทยังเร่งขยายสินค้าประกันผ่านทางออนไลน์และแอพมือถือ (อัตราผลตอบแทนดี เนื่องจากไม่ต้องจ่ายค่านายหน้าให้กับตัวแทน) เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเปาหมาย 30 บาท 

 

KSL: No sugar rush on the horizon 

          เรามองว่าการปรับตัวขึ้นของราคาน้ำตาลในตลาดโลก ในช่วงเดือน ม.ค. มาจากประเด็นด้านปัจจัยบวกของภาพ Macro มากกว่าการเปลี่ยนแปลงด้านปัจจัยพื้นฐานของอุปสงค์/อุปทาน การปรับตัวเพิ่มขึ้นของราคาน้ำตาลเหนือระดับ13-14 cents/lb ต้องการระดับ Deficit ที่มากกว่า 1-2 ล้านตัน เรายังคงคำแนะนำ ถือ KSL รอสัญญานการเปลี่ยนทิศทางของราคาน้ำตาลเป็นขาขึ้นที่ชัดเจนกว่านี้ 

 

Global Growth Tracker - DMs Underperform More than Expected 

          MS มอง Growth ของตลาดพัฒนาแล้ว (DM) จะเป็นปัจจัยฉุด Global growth โดยเฉพาะสหรัฐคาด 4Q18 จะโตแค่ 1.7% (ตลาดคาด 2.2%) และคาด government shutdown จะเป็นปัจจัยฉุดต่อเนื่องไปถึง 1Q19 ในทางตรงข้าม MS คาดตลาดเกิดใหม่ (EM) (ไม่รวมจีน) น่าจะเป็นผู้นำการเติบโต และ EM จะ outperform US 

 

Can China Close its Trade Gap with the US? 

          จีนเสนอที่จะลด trade gap กับสหรัฐให้เหลือ 0 โดยเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ แม้ว่าการลดให้เหลือ 0 จะดูเป็นไปได้ยาก แต่อย่างน้อยน่าจะลดช่องว่างลดลงโดยการนำเข้าสินค้าเพิ่ม (ซึ่งจะเป็นลบต่อประเทศอื่นที่จีนเคยนำเข้าสินค้า เช่น เยรมัน ญี่ปุน ออสเตรเลีย เกาหลี ใต้หวัน เป็นต้น) อย่างไรก็ดี MS มองว่าหากสหรัฐยังไม่สามารถเพิ่มความสามารถในการแข่งขันได้ US$ ยังคงจะอ่อนค่าลง    

 

หุ้นมีข่าว   

          (*) TSI  ทุนสิงคโปร์ฮุบ "ไทยเศรษฐกิจประกันภัย" หลังผู้ถือหุ้น รายใหญ่เทขายเกลี้ยงพอร์ต ดันกลุ่ม "บุญวรุฒม์-จีที ดอลลาร์" กุมบังเหียน ธุรกิจประกันภัย เตรียมแจ้งตลาดหลักทรัพย์ เร็วๆ นี้ ด้านงบการเงินวิกฤติหนักขาดทุนต่อเนื่อง สภาพคล่องขาด หนี้สินพุ่ง (ที่มา กรุงเทพธุรกิจ)  

          (*) นายปวิณ ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางกอกกล๊าส หรือบีจี ในกลุ่มบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ เปิดเผยว่า ปีนี้บริษัทพร้อมจะรุกคืบในธุรกิจวัสดุก่อสร้าง โดยงบลงทุนรวมที่วางไว้ 5,000 ล้านบาทในปีนี้ สัดส่วน 50-60% จะใช้ลงทุนธุรกิจวัสดุก่อสร้าง ทั้งใน 2 โรงงานที่มีอยู่แล้วคือ โรงงานกระจกแผ่น และโรงงานอะลูมิเนียม รวมถึงการเข้าไปซื้อกิจการ ที่สนใจอยู่เป็นกลุ่มสินค้ายิปซัมบอร์ด เพราะต้องการขยายธุรกิจวัสดุก่อสร้างให้ครบตั้งแต่ พื้น ผนัง ฝา และเพดาน เพื่อรองรับงานโครงการได้ครบขึ้น (ที่มา ข่าวสด) 

          (0/-) PTTGC  โกลด์แมน แซคส์" หั่นราคาเปาหมาย PTTGC โหดเหลือแค่ 57 บาท สั่งลดน้ำหนักลงทุนหุ้น PTTGC เป็น "ขาย" หวั่นซัพพลายสินค้าปิโตรเคมีล้นตลาด ฉุดผลประกอบการชะลอตัว (ที่มา ข่าวหุ้น)  

 

 

 

SET Index ปิด 1620.53 (+0.19%) มูลค่าการซื้อขาย 6 หมื่นล้านบาท    

 

          SET Index แนวรับ 1,610 แนวต้าน 1,630 / SET100 รับ 2,365 ต้าน 2,400 BSET100 รับ 10.26 ต้าน 10.40 / BMSCITH รับ 12.25 ต้าน 12.40 

 

Topic: "จับกระแสหุ้นร้อนกลุ่มค้าปลีกและอาหาร" 

 

          กลุ่มค้าปลีกและอาหารเป็นกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากการเลือกตั้งกำลังมาแรง ปัจจัยหนุนคือการใช้จ่ายเพิ่มขึ้นในต่างจังหวัดและเม็ดเงินเดินสะพัดในช่วงหาเสียง สัญญาณทางเทคนิคบ่งชี้ถึงจุดกลับตัวเป็นขึ้นและมีโอกาสขึ้นทดสอบจุดต้านบริเวณเส้นประ เราแบ่งหุ้นเป็น 2 ประเภทคือ 1.หุ้นนำ Leading 2.หุ้นตาม laggard ปัจจุบันพบว่าหุ้น CPALL, MAKRO, CPF, FOOD ปรับตัวขึ้นโดดเด่นอยู่ในกลุ่มผู้นำ เราจึงกลับมามองหุ้นที่เป็นผู้ตาม Laggard ซึ่งราคากำลังเริ่มปรับตัวขึ้นตามหุ้นขนาดใหญ่ 

 

สรุป:

          แนะจับตาหุ้นขนาดเล็ก-กลางหรือหุ้นที่เริ่มฟนตัว (Laggard) มีโอกาสปรับตัวขึ้นตามหุ้นผู้นำกลุ่ม   

 

          ภาวะตลาดเปลี่ยนเป็นขาขึ้นแนะนำวิธีการเลือกหุ้น 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟนตัวจากแนวรับ 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟนตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic MACD และ เส้นค่าเฉลี่ย 5. ใช้จุด Stop loss หากไม่เป็นไปตามคาด

 

          OSP, BANPU, CPN 

 

Technical screen Bear Signal: --- 

 

Port หุ้นคงเหลือ: 

          AU, TU, CPF, BEC, BGC, CPALL, STA, SCC, GLOBAL,TISCO ,VGI (แนะนำถือต่อ) 

          

 

 

          OSP 

          แนะนำ ซื้อ 

          แนวรับ 25.00 

          แนวต้าน 29.00-30.00 

          เหตุผล OSP ทะลุแนวต้านสำคัญ 25 หนุนด้วยวอลุ่มเพิ่มขึ้น พร้อมกับ MACD บ่งชี้สัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น 

 

          BANPU 

          แนะนำ ซื้อ 

          แนวรับ 16.50 

          แนวต้าน 18.00/19.00 

          เหตุผล ราคาถ่านหินและ BANPU เคลื่อนไหวไปในทิศทางเดียวกัน ปัจจุบันถ่านหินส่งสัญญาณฟนตัว ส่งผลบวกต่อ BANPU  

 

          CPN 

          แนะนำ ซื้อ 

          แนวรับ 75.00 

          แนวต้าน 79.00 /83.00 

          เหตุผล ราคาเริ่มขยับขึ้น ขณะที่ RSI บ่งชี้ความแข็งแกร่ง กรณีทะลุแนวต้านแรก 79 จะทำให้โครงสร้างหุ้นเปลี่ยนเป็นขึ้น แนวต้านถัดไป 83