- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 25 January 2019 20:16
- Hits: 10243
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้เราคาดดัชนี SET มีโอกาสปรับขึ้นต่อ โดยมีแรงขับเคลื่อนหลักจาก Sentiment ในประเทศที่ดี การกำหนดวันเลือกตั้งชัดเจน (24 มี.ค.) บวกกับค่าเงินบาทที่มีเสถียรภาพ คาดเป็นปัจจัยช่วยดึงดูดให้เม็ดเงินต่างชาติไหลเข้าตลาดหุ้นไทยมากขึ้น โดย Year to Date นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นราว 4,212 ล้านบาท เราจึงขยับกรอบแนวรับรายวันมาที่ 1,615 จุด และแนวต้านที่ 1,630 จุด
Market Factors
• (+) ราคาน้ำมันดิบ WTI วานนี้ปรับขึ้น 1%DoD โดยแม้มีแรงกดดันจากรายงานสต๊อกน้ำมันดิบของ EIA ที่พบว่าสัปดาห์ที่มาเพิ่มขึ้น 8 ล้านบาร์เรลสวนทางกับที่ตลาดคาดปรับลง 0.6 ล้านบาร์เรล แต่ปัจจัยลบดังกล่าวถูกหักล้างจากกระแสข่าวที่สหรัฐฯ เตรียมคว่ำบาตรน้ำมันของเวเนซุเอลา ต่อเนื่องจากที่คว่ำบาตรอิหร่านในช่วงปลายปี 61
• (-) วานนี้วุฒิสภาสหรัฐฯ ไม่มีเสียงสนับสนุนเพียงพอที่จะยอมรับร่างกฏหมายงบประมาณชั่วคราว 2 ฉบับของนายโดนัลด์ ทรัมป์ ที่ยังรวมงบสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกไว้ในคำของบประมาณ ส่งผลให้ภาวะปิดหน่วยงานราชการในสหรัฐฯ มีแนวโน้มที่จะยืดเยื้อต่อไป
• (-) แม้วานนี้ ECB จะมีมติคงนโยบายการเงินของกลุ่ม EU ที่ระดับเดิม แต่ภายหลังการประชุมนายมาริโอ ดรากี้ออกมาเตือนเกี่ยวกับความเสี่ยงที่ ศก. EU จะเผชิญกับความเสี่ยงขาลง จากปัจจัยเสี่ยงด้าน Geopolitical, การกีดกันทางการค้า และความผันผวนในตลาดการเงิน
• (+) วานนี้เว๊บไซด์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศของ กกต.5 ฉบับ ครอบคลุม 5 เรื่องหลัก ได้แก่ วันเลือกตั้ง, การแบ่งเขต, การรับสมัคร, การเลือกตั้งล่วงหน้า และการลงทะเบียนเลือกตั้งล่วงหน้า หนุนภาพความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจจากการเลือกตั้งที่ชัดเจน โดยข้อมูลจาก ม.หอการค้าไทย ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 62 จะขยายตัวได้ราว 4.0-4.2% หากมีการเลือกตั้งระดับประเทศ และท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งจะส่งผลให้มีเม็ดเงินสะพัดในช่วงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นกว่า 30,000 ล้านบาท ผลักดันให้ GDP เพิ่มขึ้นจากเดิมได้อีก 0.3%
• (+) กพช.เห็นชอบแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้าของประเทศ ปี61-80 (PDP 2018) หลังคาดความต้องการใช้ไฟฟ้าระยะยาว 20 ปีทั้งในระดับประเทศและระดับภูมิภาค อยู่ที่ระดับ 77,211 MW. ทั้งนี้จำนวน 56,431 MW. ที่เป็นแผนกำลังผลิตไฟฟ้าใหม่จะช่วยให้ค่าไฟฟ้าของไทยอยู่ระหว่าง 3.50-3.63 บาทต่อหน่วย หรือเฉลี่ย 3.58 บาทต่อหน่วย รวมถึงการออกนโยบายส่งเสริม อาทิ เพิ่มสัดส่วนโรงไฟฟ้าขยะจาก 500 เป็น 900 MW. สนับสนุนโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน เช่น เชื้อเพลิงชีวมวล 3,376 MW. พลังงานลม 1,485 MW. พลังงานแสงอาทิตย์ทุ่นลอยน้ำร่วมกับโรงไฟฟ้าพลังน้ำ 2,725 MW. รวมทั้งการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์หรือโซลาร์ประชาชน 10,000 MW. โดยจะนำร่องปีละ 100 MW. ตั้งแต่ปีนี้เป็นต้นไป พร้อมกับเห็นชอบต่อสัญญากลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดเล็ก(SPP) ระบบโคเจนเนอเรชั่น จำนวน 25 ราย (ที่มา:ประชาชาติธุรกิจ)
• (+) กรมพัฒนาธุรกิจการค้า รายงานว่าปี 61 มีผู้ประกอบการจดทะเบียนธุรกิจในอีอีซี 7,078 ราย เพิ่มขึ้น 5.47%YoY ส่วนใหญ่เป็นธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ก่อสร้างและร้านอาหาร นายวุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้า ประเมินว่า การจัดตั้งธุรกิจในอีอีซีปี 2562 จะเติบโตได้ประมาณ 5% สอดคล้องกับแนวทางส่งเสริมการลงทุนในพื้นที่อีอีซีของรัฐบาล (ที่มา: กรุงเทพธุรกิจ)
Investment Strategy
• สัปดาห์หน้าเรายังมุมมองบวกต่อ SET Index หลังการเลือกตั้งมีความคืบหน้าชัดเจน คาดช่วยกระตุ้นให้มีซื้อกลับจากนักลงทุนต่างชาติเพิ่มขึ้นตาม เพราะดัชนีหุ้นไทย Laggard สุดในกลุ่ม TIP Market โดย Philippines เทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 17.1x, Indonesia เทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 14.9x และ ไทยเทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 13.8x ดังนั้นเรายังคงแนะนำ 3 กลุ่มหุ้นเด่น + 1 กลุ่มหุ้นขนาดเล็ก ดังนี้
1. (+) กลุ่มจำนำทะเบียนรถ: รับผลบวกจากกฎระเบียบมีความชัดเจนยิ่งขึ้น โดยวันนี้ ธปท. จะประชุมชี้แจงเกณฑ์การกำกับดูแลการประกอบธุรกิจสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน โดยจากข้อมูลสรุปเบื้องต้นของ ธปท. ระบุถึงการควบคุมผู้ให้บริการในระดับประเทศได้แก่ 1) ผู้ประกอบการต้องมีทุนจดทะเบียนไม่ต่ำกว่า 50 ลบ. 2) ไม่กำหนดวงเงินสินเชื่อขึ้นอยู่กับความสามารถในการชำระหนี้ และ 3) อัตราดอกเบี้ยไม่เกิน28% ซึ่งเรามองว่าไม่ได้ต่างไปจากที่ตลาดคาดก่อนหน้าแนะนำSAWAD (คาดปี62กำไรโต32.1%YoY จากแผนขยายสินเชื่อใหม่ 20-30%YoY สอดรับกับจำนวนสาขาที่จะเพิ่มขึ้นอีก 300-400 สาขาบวกกับรับรู้ผลของ Yield ที่ฟื้นตัวแบบเต็มปีและต้นทุนทางการเงินที่มีแนวโน้มลดลงหลังได้รับเงินเพิ่มทุนจากพันธมิตรราว 2,500-2,600 ลบ.), MTC (คาดกำไรปี 62 โต 31.9%YoY ทำ New High ต่อเนื่องหลังมีแผนเปิดสาขาใหม่อีก 600 สาขาเพื่อเพิ่มพื้นที่บริการให้ครอบคุมมากขึ้นขณะที่คุณภาพสินทรัพย์ยังอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งมี NPL ต่ำสุดในกลุ่ม) และ AMANAH (ปี 62 คาดกำไรยังโตต่อเนื่องหนุนด้วยการรับรู้รายได้ดอกเบี้ยของสินเชื่อ ATM (Yield สูงกว่าสินเชื่อเช่าซื้อรถแบบเดิม) มากขึ้นพร้อมทั้งเน้นขยายสินเชื่อใหม่ผ่านตัวแทนลดความจำเป็นของการเปิดสาขาใหม่ที่มีค่าใช้จ่ายสูงและคุมหนี้ NPL ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น)
2. กลุ่มนิคมและสาธารณูปโภค: อานิสงส์บวกทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำAMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว 8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 แสน ตร.ม.), EASTW ปี 62 คาดเห็นการฟื้นตัวของกำไรสอดคล้องไปกับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมในเขต EEC ซึ่งทำให้ความต้องการใช้น้ำดิบในบริเวณดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นนอกจากนี้ในระยะยาวบริษัทยังมุ่งเพิ่มสัดส่วนจำหน่ายน้ำควบคุมคุณภาพ (มาร์จิ้นสูง) มากขึ้นโดยเซ็นสัญญาให้บริการแก่GULF (รับรู้รายได้ปี 63) และ AMATA (รับรู้รายได้ปี 64)
3. กลุ่มโรงไฟฟ้า: ลักษณะธุรกิจที่มีความสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ และเราเลือกหุ้นโรงไฟฟ้าที่ยังคงมีการเติบโตต่อเนื่องได้อีก 4-5 ปีข้างหน้า ได้แก่ BGRIM ปี 62 มีแผน COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 682MW ทำให้มีกำลังผลิตรวม 2.77GW ณสิ้นปี 62 และมีเป้าหมายระยะยาวในปี 65 ที่ 3.13GW, BPP ปี 62 มีแผน COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 312MW ทำให้มีกำลังผลิตรวม 2.48GW ณสิ้นปี 62 และมีเป้าหมายระยะยาวในปี 68 ที่ 4.3GW, GUNKUL ปี 62 มีแผน COD โรงไฟฟ้าโซลาร์อีก 105MW ทำให้มีกำลังผลิตรวม 401MW ณ สิ้นปี 62 และมีเป้าหมายระยะยาวในปี 65 ที่ 543MW.
4. หุ้นขนาดเล็กที่คาดกำไรปี 62 โตเด่น บวกกับ Cheap Valuation ได้แก่ JMT (แนวโน้มกำไรโตต่อเนื่อง และบริษัทประกาศซื้อหนี้ไม่มีหลักประกันชุดใหม่มาบริหารมูลค่า 1 พัน ลบ. มีแผนเพิ่มสัดส่วนหนี้มีหลักประกัน หนุนยอดหนี้แตะ 1.4 แสน ลบ.และมีความสามารถในการจัดเก็บหนี้ที่อยู่ในเกณฑ์ดี), HARN (อานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หนุนธุรกิจสินค้านำเข้ามีมาร์จิ้นดีขึ้น บวกกับ เป้าการเติบโตปี 61 ที่ 10.7%YoY และ ปี 62 ที่ 8.2%YoY Backlog ณ สิ้น 3Q61 ที่ 414 ลบ.)
24-Jan-19 Change (pts.) 23-Jan-19
SET Index 1,620.53 3.15 1,617.38
SET50 Index 1,083.97 1.36 1,082.61
SET100 Index 2,380.28 2.57 2,377.71
High 1,628.21 Gainers 661
Low 1,614.56 Unchanged 506
Value (Bt m) 60,838.32 Losers 671
Volume (*000) 14,532,160
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 14.3 13.3 No Data
EPS Growth (%) 13.9 9.3 No Data
EV/EBITDA (x) 9.8 9.3 No Data
FWD PBV (x) 1.8 1.6 No Data
Dividend Yield (%) 3.3 3.5 No Data
ROE 11.7 11.8 No Data
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 24-Jan-19 WTD MTD YTD
Institution 1,406.60 11,943.87 7,934.29 7,934.29
Proprietary (617.94) (854.99) (1,745.15) (1,745.15)
Foreign 3,876.74 800.24 4,212.22 4,212.22
Individual (4,665.40) (11,889.13) (10,401.36) (10,401.36)
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary