ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้น 15.61 จุด (+0.97%) ปิดที่ 1,617 จุด มูลค่าการซื้อขาย 6.7 หมื่นล้านบาท ตอบรับพระราชกฤษฏีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรเป็นการทั่วไปพ.ศ. 2562 รวมถึงกกต.ประกาศวันเลือกตั้ง 24 มี.ค. ส่งผลให้มีแรงซื้อในกลุ่ม Big Cap ได้แก่ CONS, ICT รวมถึง BANK หนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้นสวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคได้ อย่างไรก็ตามนักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ 686 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 4,023 ล้านบาท และ Net Long TFEX 1,362 สัญญา 

          แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index ปรับตัวขึ้นทดสอบ 1,625 - 1,630 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว ตามปัจจัยบวกภายในประเทศพระราชกฤษฏีกาการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฏรรวมถึงกกต.ประกาศวันเลือกตั้ง 24 มี.ค.ส่งผลให้ภาวะการเมืองปลดล็อคซึ่งหนุนต่อความมั่นใจของนักลงทุน ประกอบกับสัญญาณเชิงบวกจากภาวะ Shutdown ของสหรัฐ หลังวุฒิสภาเตรียมโหวตร่างกฏหมายงบประมาณ 2 ฉบันในวันนี้ โดยฉบับแรกจะรวมงบประมาณการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก 5.7 พันล้านดอลลาร์ ส่วนอีกฉบับเพื่อให้หน่วยงานรัฐมีงบประมาณใช้จ่ายชั่วคราวได้ถึงวันที่ 8 ก.พ. (ทั้งนี้ร่างกฏหมายแต่ละฉบับจะต้องได้รับการโหวต 60 เสียงจึงจะผ่านการพิจารณา) อย่างไรก็ตามความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัว รวมถึงความไม่แน่นอนในการเจรจาการค้าหลังสหรัฐปฏิเสธการเจรจาการค้ากับจีนในสัปดาห์นี้จากความเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องกฏระเบียบทรัพย์สินทางปัญญาจะเป็นแรงกดดันให้ดัชนีสลับอ่อนตัวลง  

 

          - STEC, AMATA, WHA ได้ประโยชน์ภาวะการเมืองปลดล็อคและวันเลือกตั้งที่ชัดเจน   

          - กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19 และคาดจำนวนนทท.จีนขยายตัวขึ้นในช่วงเทศกาลตรุษจีน 

          - กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ได้ประโยชน์เม็ดเงินที่จะสะพัดมากขึ้นในช่วงก่อนการเลือกตั้ง 

          - หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน (BEM, BGRIM, TPIPP และ TTW) 

          - กลุ่มอาหาร (TU, ASIAN) EU ปลดธงเหลืองต่อการนำเข้าสินค้าประมงของไทย (CPF, GFPT) อานิสงส์ราคาไก่และ By product ปรับตัวขึ้น  

          หุ้นแนะนำวันนี้:AMATA (ปิด 22 ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 27.5) คาดกำไร 4Q18 ออกมาดี จากยอดขายและยอดโอนที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ขณะที่ กกต.ประกาศวันเลือกตั้งอย่างเป็นทางการเป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้อง อาทิ นิคมฯ และ ค้าปลีก, ERW (ปิด 7 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 8.2) รับผลบวกจากภาครัฐขยายเวลาฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ไปถึงเดือน เม.ย. หนุนนักท่องเที่ยวกลับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ด้านผลประกอบการคาดกำไร 4Q18 ฟื้นตัวเด่นจาก high season ,STA (ปิด 14.9 ซื้อ/เป้า 22) คาดกำไรสุทธิ 4Q18 เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากแรงหนุนของธุรกิจถุงมือยางที่มีกำไรมากขึ้น โดยราคานี้ยังไม่ได้สะท้อนภาพรวมธุรกิจที่มีอยู่ (ยางธรรมชาติ 4 บาท และ ถุงมือยาง 18 บาท)

          Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS 

          KSS report วันนี้ : BEM (ปิด 10.3 ซื้อ/เป้าใหม่ 11.8 จาก 11.5), ROBINS (ปิด 68.75 ซื้อ/เป้า 76)

 

          (+) กกต.ประกาศวันเลือกตั้งเป็นทางการ(24 มี.ค.19) สร้างความชัดเจนให้กับตลาด สถิติย้อนหลัง กลุ่มค้าปลีกให้ผลตอบแทนดีสุดทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง : วานนี้ กกต. ประกาศให้วันที่ 24 มี.ค.19 เป็นวันเลือกตั้ง ส.ส.เป็นการทั่วไปของไทย นับเป็นการสร้างความชัดเจนให้กับตลาด คลายประเด็นสงสัยและการคาดการณ์ต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา และเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญในการเรียกความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนโดยเฉพาะนักลงทุนต่างชาติ โดยสถิติเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุดของไทย พบว่ากลุ่มค้าปลีกเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีสุดทั้งก่อนและหลังเลือกตั้งมาจากเม็ดเงินหมุนเวียนที่สูงขึ้นจากกิจกรรมการหาเสียงก่อนการเลือกตั้งซึ่งจะมีเงินหมุนเวียนประมาณ 50,000 ล้านบาท ส่วนกลุ่มที่มักจะให้ผลตอบแทนดีเฉพาะในช่วงหลังเลือกตั้งคือกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็นเพราะเมื่อมีการจัดตั้งรัฐบาลมักจะมีการประกาศ Road Map หรือ Action Plan ซึ่งรัฐบาลมักจะมีนโยบายที่เน้นการลงทุนในโครงการขนาดใหญ่เป็นนโยบายหลัก เราเลือก CPALL, ROBINS เป็น Top pick กลุ่มค้าปลีก และ เลือก STEC เป็น Top pick กลุ่มรับเหมา 

          (+/-) วันนี้ติดตามวุฒิสภาสหรัฐโหวตร่างกฏหมายเพื่อยุติปัญหาชัตดาวน์ หากยืดเยื้อคาดกดดัน GDP 1Q19 ของสหรัฐเหลือ 0% : สถานการณ์ชัตดาวน์หน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐเข้าสู่วันที่ 34 นับเป็นการชัตดาวน์ยาวนานที่สุดในประวัติศาสตร์ โดยที่ปรึกษาเศรษฐกิจของทรัมป์เตือนว่าหากสถานการณ์ยังยืดเยื้ออาจจะทำให้ GDP ในช่วงไตรมาส 1/19 ของสหรัฐเหลือเพียง 0% โดยวันนี้วุฒิสภาสหรัฐจะจัดให้มีการลงมติโหวตร่างกฏหมายงบประมาณ 2 ฉบับเพื่อยุติปัญหาดังกล่าวโดยร่างกฎหมายฉบับหนึ่งจะรวมงบประมาณสำหรับสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโกวงเงิน 5.7 พันล้านดอลลาร์ ตามที่โดนัล ทรัมป์เรียกร้อง ส่วนอีกหนึ่งฉบับเป็นร่างกฎหมายที่มีวัตถุประสงค์เพื่อให้หน่วยงานของรัฐบาลมีงบประมาณใช้จ่ายไปจนถึงวันที่ 8 ก.พ. 

          (+/-) ปัจจัยที่ต้องติดตามราย Sector ได้แก่ กลุ่มโรงไฟฟ้า และกลุ่มไฟแนนซ์ : กลุ่มโรงไฟฟ้า SPP วันนี้ กพช. จะพิจารณาเห็นชอบแผน PDP ฉบับใหม่ ปี 2018- 2037 และพิจารณาต่อายุสัญญาโรงไฟฟ้าเอกชนรายเล็ก (SPP) ที่จะหมดอายุ คาดผลประชุมจะออกมาเป็นบวกหนุน Sentiment การลงทุนในกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP (BGRIM, GULF, GPSC) เราเลือก BGRIM เป็น Top pick และ กลุ่มไฟแนนซ์ วันพรุ่งนี้ 25 ม.ค. ธปท.จะชี้แจงเกณฑ์ควบคุมสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นหลักประกัน คาดเกณฑ์ใหม่เน้นแก้ปัญหาผู้ประกอบการนอกระบบที่คิดอัตราดอกเบี้ยสูงเกินจริงและไม่เป็นธรรมกับผู้บริโภคและคาดว่าเกณฑ์ใหม่จะไม่กระทบผู้ประกอบการในระบบทั้ง TISCO, MTC และ SAWAD 

          

          ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี