- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 23 January 2019 20:09
- Hits: 3986
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ต่างประเทศลบ-ไทยใกล้รู้วันเลือกตั้ง”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : TMB (จากซื้อเป็นถือ)
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +13.39 จุด ปิดที่ 1601.77 จุด มูลค่าการซื้อขายปานกลางที่ 49.3 พันล้านบาท สวนทางกับตลาดหุ้นเพื่อนบ้านที่ส่วนใหญ่ปรับลง แรงสนับสนุนมาจากหลักทรัพย์กลุ่มการแพทย์ แม้ ครม.ให้ยาและค่ารักษาอยู่ในสินค้าควบคุม แต่ก็ไม่กำหนดเพดานราคาสูงสุด อีกทั้งนายกฯเผยใกล้ออก พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง ก็จะกำหนดวันเลือกตั้งได้ ด้านผู้ขายสุทธิคือ ต่างชาติ 1.3 พันลบ. และรายย่อยขายเล็กน้อย ส่วนผู้ซื้อสุทธิเป็น สถาบัน 1.3 พันลบ. และพอร์ตโบรกเกอร์ซื้อเล็กน้อย ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาดว่า SET จะ Sideways ต่างประเทศเปิดมาจากวันหยุด ปรับลงทั้งดาวโจนส์และน้ำมัน จากข่าว GDP จีนต่ำกว่าคาด และ IMF ปรับลดการเติบโตเศรษฐกิจโลก ดัชนีความกลัว (VIX) เพิ่มเป็น 20.8 จุด ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านและน้ำมันล่วงหน้าเช้านี้ปรับลด
# แต่ปัจจัยบวกคือ จะทราบวันเลือกตั้งไทย หลังพรฏ.เลือกตั้งใกล้ออก ส่วนเรื่องยาและค่ารักษาเป็นสินค้าควบคุมแต่ยืดหยุ่นมากขึ้น เงินบาทแข็งค่า มีเงินไหลเข้า และดาวโจนส์ล่วงหน้าเช้านี้ปรับขึ้น
# กลยุทธ์ คือ ระยะสั้น หากมีการรีบาวด์ต่อ เก็งกำไรรอบสั้นแนวต้านเป็น 1610-1620 จุด ด้านการซื้อลงทุนระยะกลาง รออ่อนตัว ด้านแนวรับที่ 1560-1550จุด ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1780 จุด (+0.5 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 61-62 ที่ +8%/+6% ตามลำดับ แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี หุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
# หุ้นเด่น ORI : คาดว่า 4Q61 จะมีกำไรที่ออกมาแข็งแกร่งอีกไตรมาส เพราะจะมีคอนโดถึง 3 โครงการก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มโอนกรรมสิทธิ์ได้ ล่าสุดมีการปรับประมาณการปี 61 และ 62 ลง ในอัตรา 5%/17% ตามลำดับ เพื่อสะท้อนสมมุติฐานการโอนที่ระมัดระวังมากขึ้น คงคำแนะนำ ซื้อ แต่ราคาพื้นฐานใหม่ปรับลดเป็น 11.70 บาท ซึ่งประเมินด้วย P/E ที่ระดับ 8 เท่า ราคาหุ้นที่ปรับลงมามาก เพราะกังวล LTV ยังผลให้มีส่วนเพิ่มจากราคาปิดถึง 60%
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็น (แค่) บวกเล็กๆต่อ {“ปิดบวก”เหนือ“SMA10วัน”ต่อ (แต่ยังมี“โครงสร้างขาลง– ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบมีรีบาวด์ฯสั้นๆต่อก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1610 (หรือ 1620) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1590” จุด}
ส่วนหุ้นเข้ามาใหม่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคหรือมีโอกาสทำ New High ได้ คือ DCC,STEC,BCH,JWD,ERW ด้านหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือ BANPU,VNT,TUสำหรับหุ้นที่หลุด List ไม่มี และหุ้นอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit คือ MINT,KBANK,ORI,PTG,SPRC,GLOBAL
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Company Guide : SEAFCO (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 11.98)
TMB (ถือ -ราคาพื้นฐาน 2.30)
Flash Note : GFPT (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 16.50)
GPSC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 70.00)
SPALI (ถือ -ราคาพื้นฐาน 19.70)
In The News : ข่าวเด่นวันนี้
Turnover List Watch : ติดตาม SMM มีโอกาสสูงติด Cash Balance
New Listing : SPRIME
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
-/+ จีน: GDP ปี 61 ต่ำสุดในรอบ 28 ปี แต่คาดว่าจะมีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจตามมา
# สำนักงานสถิติแห่งชาติจีน (NBS) เปิดเผยในวันนี้ว่า ผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ในไตรมาส 4/2561ขยายตัว 6.4% ส่วน GDP ตลอดปี 2561 ขยายตัว 6.6% จากระดับของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นตัวเลขต่ำที่สุดในรอบ 28 ปีขณะที่จีนกำลังเผชิญกับผลกระทบที่เกิดจากสงครามการค้ากับสหรัฐ
- IMF: หั่นคาดการณ์เศรษฐกิจโลกขยายตัว 3.5% ปีนี้, 3.6% ปีหน้า
# กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในวันนี้ ขณะที่เตือนว่ายังคงเผชิญกับปัจจัยเสี่ยงหลายประการ ทั้งนี้ IMF คาดว่าเศรษฐกิจโลกจะมีการขยายตัว 3.5% ในปีนี้ และ 3.6%ในปีหน้า โดยต่ำกว่าระดับ 3.7% สำหรับทั้ง 2 ปีที่มีการคาดการณ์ในเดือนต.ค.ปีที่แล้ว
• สงครามการค้า: ข่าวสหรัฐปฎิเสธเจรจากับจีน แต่ไม่จริงและมีข่าวดำเนินคดีผู้บริหาร Huawei ที่สหรัฐ
# ทำเนียบขาวได้ปฏิเสธแผนการจัดการเจรจาการค้ากับจีนในสัปดาห์นี้ เนื่องจากทั้งสองฝ่ายมีความคิดเห็นที่แตกต่างกันในเรื่องการบังคับใช้กฎระเบียบเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา อย่างไรก็ตาม นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว ได้ออกมาปฏิเสธรายงานข่าวดังกล่าวในเวลาต่อมา
# ขณะเดียวกันนักลงทุนกังวลว่า การที่รัฐบาลสหรัฐจะยื่นคำร้องอย่างเป็นทางการเพื่อขอให้แคนาดาส่งตัวนางเมิ่ง หว่านโจว ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินของบริษัทหัวเว่ย เทคโนโลยี กลับมาดำเนินคดีในสหรัฐนั้น อาจกระทบต่อการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
- ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีปรับลง กังวลข้อพิพาททางการค้าและเศรษฐกิจโลกชะลอ
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,404.48 จุด ร่วงลง 301.87 จุด หรือ -1.22% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,632.90 จุด ลดลง 37.81 จุด หรือ -1.42% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,020.36 จุด ดิ่งลง 136.87 จุด หรือ -1.91%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 300 จุดเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลก หลังจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) ปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีนี้และปีหน้า นอกจากนี้ นักลงทุนยังกังวลว่าข้อพิพาทการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอาจทวีความรุนแรงมากขึ้น หลังจากสื่อรายงานว่าทำเนียบขาวได้ปฏิเสธแผนการจัดการเจรจาการค้ากับจีนในสัปดาห์นี้ รวมทั้งรายงานที่ว่ารัฐบาลสหรัฐจะยื่นคำร้องให้แคนาดาส่งตัวผู้บริหารของบริษัทหัวเว่ยกลับมาดำเนินคดีในสหรัฐ
- ภาวะตลาดนํ้ามัน : ปรับลง เพรากังวลเศรษฐกิจโลกชะลอ ฉุดความต้องการน้ำมัน
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. ร่วงลง 1.23 ดอลลาร์ หรือ 2.3% ปิดที่ 52.57 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.20 ดอลลาร์ หรือ 2% ปิดที่ 61.50 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 2% เมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) เนื่องจากความกังวลที่ว่า การชะลอตัวของเศรษฐกิจทั่วโลก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเศรษฐกิจจีนนั้น จะส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันปรับตัวลดลงด้วย
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปรับขึ้นเล็กน้อย หนีตลาดหุ้น เข้าทองคำ
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.06% ปิดที่1,283.40 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเมื่อคืนนี้ (22 ม.ค.) เนื่องจากการร่วงลงของตลาดหุ้นสหรัฐส่งผลให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย นอกจากนี้ การอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังเป็นปัจจัยหนุนตลาดทองคำเช่นกัน
ปัจจัยในประเทศและข่าวหลักทรัพย์
+/• ครม.เห็นชอบให้ยา ค่าบริการทางการแพทย์ถูกควบคุม แต่ผ่อนคลายมากขึ้น
# ครม.เห็นชอบให้ยา ค่าบริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุม ประจำปี 2562 แต่ผ่อนคลายมากขึ้นคือ ไม่ได้กำหนดราคาขั้นสูงสุด และหลังจากนี้จะมีการตั้งคณะอนุกรรมการเข้ามาดูแลในรายละเอียด เพื่อให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายทั้งประชาชน โรงพยาบาลเอกชน (Aspen)
# ผลกระทบ: เป็นไปในทางบวก คาดว่าตลาดฯจะไม่มองเป็นลบว่า ครม.เห็นด้วยกับกระทรวงพาณิชย์ให้เป็นสินค้าควบคุม แต่กลายเป็นมีความผ่อนคลายมากขึ้น คือไม่กำหนดราคาสูงสุด คือ การใช้มาตรการที่เหมาะสมแตกต่างกันไปเช่น การแจ้งต้นทุน ราคาแนะนำ จะให้คณะอนุกรรมการที่จะตั้งขึ้นมาพิจารณาในรายละเอียดต่อไป รัฐไม่แทรกแซงดังนั้นต่อไปจะต้องรอการแถลงของคณะอนุกรรมการถึงแนวทางปฏิบัติว่าจะมีการควบคุมที่เคร่งครัดมากขึ้นหรือไม่ แต่คาดว่าระยะสั้นหุ้นในกลุ่มโรงพยาบาลจะฟื้นตัวขึ้นดี แต่ก็มีบางหลักทรัพย์ปรับขึ้นไปบางส่วนแล้ววานนี้ เช่น BDMS, BHและ BCH เป็นต้น
+ นายกฯ เผยใกล้ออก พ.ร.ฎ.เลือกตั้ง จะทำให้การกำหนดวันเลือกตั้งชัดเจนขึ้น
# พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ย้ำว่าพระราชกฤษฎีกาเลือกตั้งจะมีผลในเร็วๆนี้ ซึ่งในส่วนของรัฐบาลยังคงต้องขับเคลื่อนงานให้เกิดความต่อเนื่องโดยเฉพาะในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับวาระแห่งชาติ หลายเรื่องก็ดำเนินการได้เรียบร้อย หลายเรื่องก็จำเป็นวางพื้นฐานและแก้ไขปัญหาต่างๆ จึงขอให้พรรคการเมืองอย่ามองเป็นเรื่องความได้เปรียบเสียเปรียบ เพราะรัฐบาลไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้กับพรรคการเมืองใดทั้งสิ้น แต่เป็นการทำตามนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดไว้แล้ว (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
+ ครม.เห็นชอบตามที่ สศช.เสนอเกี่ยวกับ SEC
# ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบตามที่สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) เสนอในหลักการศึกษาความเหมาะสมในรายละเอียดของรูปแบบการพัฒนาพื้นที่จังหวัดชุมพร - ระนอง และพื้นที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี - นครศรีธรรมราช (การพัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจภาคใต้อย่างยั่งยืน) หรือ Southern Economic Coridor(SEC) มูลค่าโครงการเป็นระดับแสนล้านบาท
+/- ยานยนต์: ยอดขายในประเทศปี 61 เพิ่มขึ้น 19.2% y-o-y
# บริษัท โตโยต้า มอเตอร์ ประเทศไทย จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ในประเทศไทยปี 61 มีปริมาณการขายทั้งสิ้น1,039,158 คัน เพิ่มขึ้น 19.2% เมื่อเทียบกับปี 60 (Aspen) แต่หวั่นดอกเบี้ย-ศึกการค้า ฉุดตลาดรถยนต์ปีนี้ติดลบ 3.8%(กรุงเทพธุรกิจ)
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]