- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 January 2019 23:39
- Hits: 3419
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Earnings Play//Hold Let Profit Run
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังค่อยๆแกว่งตัว Sideways Up ได้ต่อเนื่องตามคาดโดยปิดบวกได้อีก 4.61 จุด ณ สิ้นวันแม้จะถูกถ่วงโดยกลุ่มการแพทย์ แต่กลุ่มหลักอย่างธนาคารและพลังงานยังนำตลาดได้ นักลงทุนต่างชาติพลิกมาขายในตลาดหุ้น 1.1 พันลบ.หลังจากซื้อต่อเนื่อง 7 วันก่อนหน้า (แต่ Long ใน Index Futures 6.3 พันสัญญา) ส่วนสถาบันในประเทศพลิกมาซื้อสุทธิ 2.9 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะแกว่งตัว Sideways โดยระยะสั้นยังขาดปัจจัยบวกใหม่เข้ามากระตุ้น โดยปัจจบันยังต้องติดตามประเด็นสงครามการค้าว่าจะมีพัฒนาการที่ดีขึ้นตามกระแสข่าวที่มีในช่วงก่อนหน้าหรือไม่ ขณะที่ประเด็น Brexit ยังต้องติดตามอย่างใกล้ชิดโดยล่าสุด เทเรซา เมย์ได้เสนอ "Plan B" ต่อสภาและจะลงมติในวันที่ 29 ม.ค. รวมถึงกล่าวว่าจะไม่สนับสนุนให้เกิด No-Deal Brexit และไม่สนับสนุนในขยายเวลาการแยกตัวออกจาก EU เช่นกัน อย่างไรก็ตามเม็ดเงินที่ยังไหลเข้าภูมิภาคต่อเนื่องน่าจะทำให้ตลาด EM ยังสามารถ Outperform DM
กลยุทธ์ : เก็งกำไรหุ้นที่คาดผลประกอบการ 4Q18 แข็งแกร่ง//ถือ Let Profit Run หลังสะสมหุ้นเพิ่มในช่วงพักตัว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, BEM, CK, CPALL, ERW
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$258ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าไต้หวัน US$213ล้าน ขณะไหลออกจากไทย US$36ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากหลังจีนรายงาน 2018 GDP ขยายตัวต่ำสุดในรอบ 28 ปี และการชัตดาวน์ที่สหรัฐที่ยืดเยื้อ
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> TOP <<
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 86 บาท (ตัดขาดทุน 69 บาท)
- คาดงบ 4Q18 พลิกเป็นขาดทุนราว 3.6 พันลบ. เพราะ Stock loss และค่าการกลั่นทรุด ซึ่งเป็นสิ่งที่ตลาดรับรู้อยู่แล้ว ขณะที่ กำไรทั้งปี 2018 จะ -54% Y-Y เหลือ 1.14 หมื่นลบ. ก่อนจะเด้ง 24% Y-Y อยู่ที่ 1.41 หมื่นลบ. ในปี 2019
- มาตรการ IMO ที่มีผล 1 ม.ค. 20 จะทำให้ส่วนต่างน้ำมันดีเซลค่อยๆขยับขึ้น ถือเป็นบวกกับ TOP โดยตรง
- ระยะสั้นได้ Sentiment บวกจากการฟื้นของราคาน้ำมัน และ Valuation ของ TOP ที่ยังถูก โดยราคาปัจจุบันใกล้เคียง Book Value และให้ปันผลเฉพาะ 2H18 ที่ 3-4%
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) กลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์ เรามองว่าจบรอบขาขึ้นไปแล้วในปี 2018 แม้ว่ากำลังซื้อในประเทศที่ฟื้นตัวมี แต่สำหรับยอดส่งออกรถยนต์เราคาดว่ายังถูกกดดันจากเศรษฐกิจโลกที่ชะลอ ขณะที่ กำลังการผลิตของทั้งกลุ่มชิ้นส่วนยานยนต์เริ่มเต็ม ซึ่งการจะขยายหลังจากนี้ไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะเป็นช่วงเปลี่ยนผ่านเทคโนโลยี เมื่อผนวกกับ Valuation ที่ไม่ได้จูงใจให้ซื้อทันที เราจึงแนะนำ Underweight และด้วย Market Cap. ที่ต่ำเพียง 0.5% ของตลาดรวม จึงแทบไม่จำเป็นต้องมีหุ้นกลุ่มนี้ในพอร์ต แต่ถ้าจะซื้อ เราเลือกตัวที่ไม่มีความเสี่ยงจากต่างประเทศโดยตรง และความผันผวนของกำไรอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งก็คือ SAT ราคาเป้าหมาย 20.70 บาท
(-) SCB จะบันทึกค่าใช้จ่ายพนักงานตามเกณฑ์เกษียณอายุใหม่ใน 1Q19 ในเบื้องต้นน่าจะเป็น one-time expense ราว 1,500 ลบ ซึ่งหากรวมในการคาดการณ์ คาดกำไรสุทธิ 1Q19 จะอยู่ที่ราว 1 หมื่นลบ. -12% Y-Y (จากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายพนักงาน คาดว่า Cost to income ratio จะอยู่ที่ 46%) แต่ +41% Q-Q (ค่าใช้จ่ายสำรองฯลด Y-Y โดยคาดการณ์ 1Q19 credit cost ที่ 1.15% VS 4Q18 ที่ 1.67 %) ขณะที่ผลประกอบการปี 2019 อาจเห็นแรงกดดันจากค่าใช้จ่ายสำรองฯและค่าใช้จ่ายการลงทุน IT คงราคาเป้าหมาย 137 บาท คงคำแนะนำถือ โดยคาดการณ์การจ่ายเงินปันผลงวด 2H18 หุ้นละ 4 บาท Yield 3%
(+) ROBINS คาดกำไรสุทธิ 4Q18 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 889 ลบ. (+33.9% Q-Q, +8.4% Y-Y) โดยคาด SSSG ยังบวกต่อเนื่อง, มีการเปิดสาขาใหม่ 1 แห่ง ซึ่งมีสัดส่วนพื้นที่เช่าค่อนข้างมาก ส่วนทั้งปี 2018 คาดจบโต 9.8% Y-Y ที่โตไม่มากเพราะการเพิ่มสินค้า House Brand ล่าช้ากว่าแผน และ SSSG ยังไม่สดใสนัก แต่ในปีนี้เราคาดเห็น SSSG จะโตดีขึ้นตามการฟื้นของกำลังซื้อ ซึ่งล่าสุด SSSG เป็นบวกทั้ง กทม. และต่างจังหวัด กอปรกับการเปิดสาขาใหม่ 1 แห่งเล็ก และ 2 แห่งใหญ่ในรูปแบบ Lifestyle Center ที่นอกจากช่วยเพิ่มรายได้การขายแล้ว ยังหนุนการเติบโตของค่าเช่าด้วย เราคาดกำไรสุทธิปี 2019 +16.6% Y-Y อยู่ที่ 3,508 ลบ. และคงราคาเป้าหมายที่ 83 บาท แนะนำซื้อ
(+) GFPT คาดกำไรปกติ 4Q18 ที่ 338 ลบ. -20.8% Q-Q ตามฤดูกาล แต่ +18.6% Y-Y จากการเพิ่มขึ้นของปริมาณไก่ส่งออก และการกลับมาฟื้นตัวของส่วนแบ่งกำไรบริษัทร่วม แต่ด้วยกำไร 1H18 ที่ไม่สดใส เพราะราคาไก่อ่อนแอและค่าเงินบาทแข็ง จึงคาดกำไรปกติปี 2018 จะต่ำสุดในรอบ 6 ปี แต่คาดจะกลับมาโตอีกครั้งในปี 2019 ราว 23.2% Y-Y อยู่ที่ 1,403 ลบ. จากภาวะการส่งออกไก่ไทยที่สดใส โดยเฉพาะความต้องการที่สูงขึ้นของตลาดญี่ปุ่น และการเริ่มนำเข้าชิ้นส่วนไก่จากตลาดจีน รวมถึงคาดเห็นการฟื้นตัวของส่วนแบ่งกำไรบริษัทได้เต็มปี ยังคงราคาเป้าหมายที่ 15.6 บาท ปรับคำแนะนำขึ้นเป็นซื้อ จากเดิมถือ
(+) SEAFCO คาดกำไร 4Q18 ทรงตัวในระดับสูงที่ 102 ลบ. +53% Y-Y จากรายได้ทีจุดสูงสุดใหม่ และ อัตรากำไรขั้นต้นที่ทรงตัวสูง ขณะที่งานในมือ ณ ม.ค.19 อยู่ที่ 2.4 พันลบ. Secured คาดการณ์รายได้ปี 2019 แล้ว 84% และแม้มีความเสี่ยงจากโครงการรัฐล่าช้า แต่บริษัทมีศักยภาพรับงานเพิ่มจากเอกชนรวมถึงต่างประเทศ คงคำแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 11.60 บาท
(0) ZEN ถือเป็นผู้บุกเบิกร้านอาหารญี่ปุ่นในเมืองไทย โดยมีแบรนด์แรกในปี 1991 ชื่อว่า ZEN และได้มีการพัฒนาแบรนด์อื่นๆ เช่น AKA, On The Table รวมถึงเข้าซื้อธุรกิจร้านอาหารไทยอย่างเครือ ตำมั่ว ปัจจัยหนุนการเติบโตในอนาคตมาจากการฟื้นตัวของ SSSG, การเปิดสาขาใหม่, อัตรากำไรขั้นต้นเพิ่มขึ้นจากทั้งประสิทธิภาพการบริหารที่ดีขึ้น และรายได้การให้สิทธิแฟรนไชส์เพิ่มขึ้น และคาดค่าใช้จ่ายจะทยอยลดลงอย่างมีนัยสำคัญ คาดกำไรสุทธิปี 2018 +82.6% Y-Y และคาดโตต่อเนื่องในปี 2019 - 2020 ราว 33.3% Y-Y และ 34.9% Y-Y ตามลำดับ เราประเมินราคาเป้าหมายปี 2019 เท่ากับ 16.5 บาท (FSS อาจเข้าร่วมเป็นผู้จัดจำหน่ายและรับประกันการจัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ ZEN)
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
22 ม.ค. - สหรัฐฯ: ยอดขายบ้านมือสอง (ธ.ค.)
23 ม.ค. - ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ
- ยูโรโซน: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
24 ม.ค. - ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ม.ค.)
28 ม.ค. - สหรัฐฯ: ดุลการค้า (พ.ย. 18)
31 ม.ค. - จีน: PMI ภาคการผลิต (ม.ค.)
(0) ตลาดหุ้นสหรัฐปิดทำการเนื่องในวัน Martin Luther King Junior
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง จากความกังวลเรื่อง Brexit และตัวเลขเศรษฐกิจที่ชะลอตัวลง
(-) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวลง หลัง IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปี 2019 ลงจาก 3.7% เหลือ 3.5%
(-) ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.76 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(0) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ปิดทำการเนื่องในวัน Martin Luther King Junior
ราคาทองคำ COMEX ปิดทำการเนื่องในวัน Martin Luther King Junior
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research