- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 22 January 2019 23:19
- Hits: 1659
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
Daily Strategy
" แกว่งพักตัว "
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวขึ้น 4.61 จุด (+0.29%) ปิดที่ 1,588 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท ตอบรับความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน โดยจีนจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐเป็นเวลา 6 ปีรวมมูลค่ามากกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ และสหรัฐเตรียมผ่อนคลายมาตรการเก็บภาษีนำเข้าจากจีน นอกจากนี้ยังได้แรงหนุนกลุ่ม Energy และ Petro ตามราคาน้ำมันที่ดีดตัวขึ้นด้วย ส่วนนักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นขายสุทธิ 1,146 ล้านบาท แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 238 ล้านบาท รวมทั้ง Net Long TFEX 6,311 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: คาด SET Index แกว่งตัว 1,580 - 1,595 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะยังคงมี sentiment บวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่มีความคืบหน้า และจีนเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ด้วยนโยบายการเงินและการคลัง รวมถึงราคาน้ำมันที่มีแนวโน้มดีดตัวขึ้นจากโอเปกลดกำลังการผลิตลง อย่างไรก็ตามการที่ดัชนีดีดตัวขึ้นตอบรับข่าวไประดับนึงแล้ว รวมถึงความกังวล IMF ปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกลงเป็น 3.5% ในปีนี้และ 3.6% ในปีหน้า รวมถึงเตือนว่าเศรษฐกิจโลกยังมีปัจจัยเสี่ยงจาก Brexit ที่ยังไม่ได้ข้อตกลงรวมถึงเศรษฐกิจจีนอาจชะลอตัวลงมากกว่าคาด นอกจากนี้ตัวเลขส่งออกไทยเดือนธ.ค.หดตัวลงอีก 1.72% YoY จากผลกระทบ Trade war จะเป็นแรงกดดันต่อทิศทางดัชนีให้มีความผันผวน
กลยุทธ์การลงทุน : Selective Buy
- กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น
- กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ
- หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน (BEM, BGRIM, TPIPP และ TTW)
- กลุ่มอาหาร (TU , ASIAN) EU ปลดธงเหลืองต่อการนำเข้าสินค้าประมงของไทย (CPF, GFPT) อานิสงส์ราคาไก่และ By product ปรับตัวขึ้น
- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม (AOT, MINT, CENTEL, ERW) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19
หุ้นแนะนำวันนี้:STA (ปิด 14.5 ซื้อ/เป้า 22) เก็งกำไรราคายางพุ่งแรงส่งผลบวกโดยตรงต่อธุรกิจยางธรรมชาติของ STA โดยเช้านี้ราคายาง TOCOM อยู่ที่ระดับ 209.5 เยน/ก.ก. เพิ่มขึ้น 4% ทำสถิติสูงสุดในรอบเกือบ 1 ปี, BGRIM (ปิด 28.75 ซื้อ/เป้า 33) มีโอกาสได้ข้อสรุปเรื่องต่อสัญญาโรงไฟฟ้าเดิมที่จะหมดอายุ (ประชุมวันพฤหัสบดีที่ 24 ม.ค.) ขณะที่ระยะกลางถึงยาวมี Growth story จากเมกะวัตต์ที่เพิ่มขึ้นจากการเข้าลงทุนโรงไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม, VNT(ปิด 22.9 ซื้อ/เป้า 30) คาดกำไรสุทธิ 4Q18 เพิ่มขึ้นโดดเด่นสวนทางผู้ประกอบการปิโตรฯและโรงกลั่น เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิ 885 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 42%qoq และ 21%yoy จากราคา ethylene ซึ่งเป็นวัตถุดิบปรับตัวลงหนุน PVC มีมาร์จิ้นเพิ่มขึ้น (4Q18 คาด PVC มาร์จิ้นเฉลี่ยที่ 480$/ton เพิ่มขึ้น26%qoq)
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : HANA (ปิด 32.75 ถือ/เป้า 37.5), PTTEP (ปิด 127 ถือ/เป้าใหม่ 115 จาก 135 ), SCB (ปิด 128.5 ปรับลดเป็นถือ/เป้าใหม่ 140 จาก 160)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(-) IMF มองลบปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกปีนี้เป็น 3.5% จากเดิม 3.7% จากการลดคาดการณ์ GDP ของยุโรปและตลาดเกิดใหม่ : วานนี้ IMF ออกบทวิเคราะห์รายงานเศรษฐกิจใน World Economic Outlook โดยปรับลดคาดการณ์เศรษฐกิจโลกในปีนี้เป็น 3.5% จากเดิม 3.7% ชะลอตัวลงจากปี 2018 ที่คาดว่าจะขยายตัว 3.7% และลดคาดการณ์ GDP ปีหน้าเป็น 3.6% จากเดิม 3.7% นับเป็นการลดคาดการณ์ GDP เป็นครั้งที่ 2 ในรอบ 3 เดือน ส่วนใหญ่มาจากการลดคาดการณ์ GDP ของกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรปและประเทศกำลังพัฒนา ซึ่ง IMF เตือนถึงความเสี่ยงที่อาจจะมากกว่าคาดหากอังกฤษ Brexit แบบไร้ข้อตกลง
(-) ส่งออกไทยยังไม่ฟื้น เดือน ธ.ค.ติดลบเพิ่มขึ้นเป็น -1.72%yoy จาก -1%yoy ในเดือน พ.ย. ส่งผลให้ทั้งปีขยายตัวเพียง 6.7%yoy ต่ำกว่าที่เราคาดไว้ที่ 7.8%yoy : ไทยมีมูลค่าการส่งออกเดือน ธ.ค.ที่ 1.9 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ลดลง 1.72%yoy เทียบกับเดือน พ.ย.หดตัว 1%yoy และหากตัดสินค้าที่เกี่ยวกับน้ำมันและทองคำออกจะหดตัวมากขึ้นเป็น 3.4%yoy เป็นผลจากการชะลอตัวของตลาดจีน ซึ่งได้รับผลกระทบจากสงครามการค้า สินค้าส่งออกที่หดตัวมากสุดคือกลุ่มสินค้าเครื่องคอมพิวเตอร์ และแผงวงจรไฟฟ้า รวมไปถึงกลุ่มสินค้าเกษตร อาทิ ยางพารา มันสำปะหลัง ข้าว กุ้งสดแช่แข็งและอาหารทะเล ปัญหา Trade war ที่ยืดเยื้อจะยังเป็นความเสี่ยงและ dowside ให้ตลาดปรับลดคาดการณ์การส่งออกของไทยในปีนี้ลงซึ่งเป็นลบต่อตัวเลข GDP รวมถึง Sentiment การลงทุนโดยเฉพาะในช่วงครึ่งปีแรก
(+/-) กลุ่มโรงพยาบาล วันนี้ติดตาม ประชุม ครม.เห็นชอบหลักการ นำยาเวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุม : หากที่ประชุมมีมติเห็นขอบให้นำยาและเวชภัณฑ์เป็นสินค้าควบคลุม หรือ ไม่สามารถหาข้อสรุปได้ในวันนี้และต้องเลื่อนการประชุมออกไปอีก จะเป็นปัจจัยลบ (Overhang) กดดันหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลต่อไปอีก โดยยาคิดเป็นรายได้ประมาณ 30-35% ของรายได้รวมดังนั้นทุกๆ 5% ที่ราคายาลดลงจะกดดันกำไรผู้ประกอบการประมาณ 8-10% ตรงกันข้ามหากที่ประชุม ครม.ไม่เห็นชอบให้เป็นสินค้าควบคุมจะส่งผลบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องทันทีเพราะเป็นการคลาย Overhang ที่กดดันตลอด 3 สัปดาห์ที่ผ่านมา
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี