- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 21 January 2019 15:08
- Hits: 1584
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Hold Let Profit Run
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ยังแกว่งตัว Sideways ต่อเนื่องโดยปิดบวกได้อีกเล็กน้อย 3.47 จุด ณ สิ้นวัน โดยได้อานิสงส์จากกระแสข่าวที่สหรัฐฯเตรียมผ่อนคลายภาษีนำเข้าสินค้าจากจีน อย่างไรก็ตามกลุ่มธนาคารยังคงถ่วงตลาดหลังหลายธนาคารผลประกอบการออกมาต่ำกว่าคาด นักลงทุนต่างชาติยังคงซื้อหุ้นไทยต่อเนื่องเป็นวันที่ 7 และเร่งตัวขึ้นเป็น 2.9 พันลบ. (แต่ Short ใน Index Futures เกือบ 1 หมื่นสัญญา) ส่วนสถาบันในประเทศขายสุทธิ 2.7 พันลบ.
แนวโน้มตลาดวันนี้ : เราคาดว่า SET Index จะยังแกว่งตัว Sideways Up ต่อเนื่องโดยกลุ่มพลังงานคาดว่ายังนำตลาดหลังราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นแรงกว่า 3% จากปัจจัยบวกทั้งอุปทานที่ลดลงจากการลดกำลังการผลิตของ OPEC ขณะที่ประเด็นสงครามการค้ามีสัญญาณที่ดีขึ้นหลังจีนเสนอนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯกว่า 1 ล้านล้านดอลลาร์ในช่วง 6 ปีข้างหน้า รวมถึงผู้แทนจีนเตรียมเยือนสหรัฐฯในปลายเดือนนี้ เราคาดว่าบรรยากาศการลงทุนที่ผ่อนคลายขึ้นจะช่วยหนุนให้เม็ดเงินไหลเข้าสินทรัพย์เสี่ยงต่อเนื่อง
กลยุทธ์ : ถือ Let Profit Run หลังสะสมหุ้นเพิ่มในช่วงพักตัว
หุ้นเด่นเดือน ม.ค. : BBL, BEM, CK, CPALL, ERW
Fund Flow เมื่อวันศุกร์กระแสเงินทุนไหลเข้าภูมิภาค US$463ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลเข้าเกาหลีใต้ US$155ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลเข้า US$91ล้าน ขณะที่ไหลออกจากเวียดนามประเทศเดียว US$1ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลเข้าภูมิภาคหลังมีแนวโน้มสหรัฐและจีนจะสามารถแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าได้ในเร็วๆนี้โดยทั้งสหรัฐและจีนต่างกำลังจัดทำข้อเสนอทางการค้าใหม่ที่น่าจะผ่อนคลายยิ่งขึ้น
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> CPALL <<
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 90 บาท (ตัดขาดทุน 73 บาท)
- คาดกำไรจะโตต่อเนื่องใน 4Q18 เพราะเป็น High Season และตลาดตอบรับดีกับแสตมป์ Line Friends โดยเราคาดว่า SSSG จะโตได้มากกว่า 2%
- คาดกำไรปี 2019 จะกลับมาโต 14.6% Y-Y อยู่ที่ 2.3 หมื่นลบ. จากปีนี้ที่คาดทรงตัว Y-Y อยู่ที่ 2.04 หมื่นลบ.
- ราคาหุ้นมีโอกาสขึ้นต่อเนื่องหลังการเลือกตั้งมีความชัดเจน โดยถ้าอิงสถิติ กลุ่มค้าปลีกจะปรับขึ้นเฉลี่ย 4% ในช่วง 2 เดือนก่อนหลังตั้ง และ CPALL จะ Outperform กลุ่มทุกรอบ
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) BDMS-BA มีประเด็นลบหลังกลต.ลงโทษนพ.ปราเสริฐและน.ส.ปรมาภรณ์ ปราสาททองโอสถโดยปรับเงิน 500 ลบ. และสั่งห้ามเป็นกรรมการและผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนกรณีสร้างราคาหุ้น BA ถือเป็น Sentiment เชิงลบและคาดว่าจะเห็นแรงขายจากฝั่งสถาบันเนื่องจากเกือบทุกบลจ.มีกอง CG อย่างไรก็ตามปัจจัยพื้นฐานไม่ได้เปลี่ยนแปลง ยังแนะนำซื้อลงทุน BDMS ในช่วงปรับฐาน ราคาเหมาะสม 30 บาท ส่วนระยะสั้นมีโอกาสที่สถาบันจะ Switch ไปหุ้นตัวอื่นในกลุ่ม เราชอบ BCH แนะนำซื้อ ราคาเหมาะสม 21 บาท
(-) BBL กำไรสุทธิ 4Q18 เท่ากับ 8.1 พันลบ. ลดลง 10.3% Q-Q และ 4.6% Y-Y น้อยกว่าที่เราและตลาดไว้ราว 10% จากค่าใช้จ่ายพนักงานที่สูงกว่าคาดเพื่อรองรับประมาณการหนี้สินที่เพิ่มขึ้นจากการปรับค่าชดเชยกรณีพนักงานเกษียณและเลิกจ้าง รวมถึงการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายอื่นเพื่อพัฒนาระบบการดำเนินงาน ขณะที่รายได้ทำได้น้อยกว่าคาดเช่นกัน แม้กระนั้นด้านงบดุล เห็นสัญญาณที่ดีของการเติบโตของสินเชื่อที่ 4% Y-Y และ NPL Ratio ลดลงมาที่ 3.4%, Coverage ratio สูงถึง 191% เราคงประมาณการกำไรสุทธิปี 2019 ที่ 3.8 หมื่นลบ. +7.6% Y-Y เนื่องจากการเติบโตของรายได้ค่าธรรมเนียมและการลดค่าใช้จ่ายสำรองฯ คงราคาเหมาะสมที่ 245 บาท แนะนำซื้อ
(+) KBANK แสดงกลยุทธปี 2019 เป็นเชิงรุกมากขึ้นด้านการหารายได้ โดยเฉพาะรายได้ดอกเบี้ย ซึ่งธนาคารมีแผนโฟกัสที่ลูกค้ารายย่อยจากปัจจุบันมีสัดส่วน 25% ของสินเชื่อ ต้องการเพิ่มเป็น 29% ในระยะยาว เพื่อเพิ่ม Loan yield และสร้าง NIM ในขณะที่ดูเหมือนว่าผู้บริหารจะมีความกังวลลดลงต่อผลกระทบของการปรับลดค่าธรรมเนียมการโอน แม้ว่าธนาคารยังคงคาดการณ์รายได้ที่ไม่ใช่ดอกเบี้ยจะลดลง 5-7% Y-Y แต่ส่วนใหญ่เกิดจากการชะลอตัวของธุรกิจประกัน และรายได้ค่าธรรมเนียมอื่นๆเช่น ค่าธรรมเนียมในการอำนวยสินเชื่อ เราเห็นศักยภาพเชิงบวกของธนาคารทำให้แม้ว่าภายหลังการประกาศกำไรปี 2018 เราปรับลดกำไรสุทธิปี 2019 ลง 3% และราคาเหมาะสมลงเหลือ 212 บาท แต่คงคำแนะนำซื้อ
(0) KKP รายงานกำไร 4Q18 น้อยกว่าคาดแต่ไม่ได้ทำให้เราผิดหวังเนื่องจากการเติบโตของรายได้หลักมีโมเมนตัมเชิงบวก กล่าวคือกำไร 4Q18 อยู่ที่ 1,427 ลบ. -8% Q-Q, +9.4% Y-Y น้อยกว่าคาดเนื่องจากมีผลขาดทุนรถยึดและค่าใช้จ่ายในการปรับปรุงอาคารซึ่งเป็น One-time แต่สังเกตว่ารายได้หลักทำได้ดีกว่าคาด เงินให้สินเชื่อปี 2018 เติบโตสูงสุดในกลุ่มที่ 18.5% Y-Y ขณะที่ NPL Ratio ลดลง คุณภาพสินทรัพย์พัฒนาไปในทิศทางที่ดีขึ้น เราจึงคงประมาณการกำไรปี 2019 ที่ 6.4 พันลบ. +6.6% Y-Y คงราคาเหมาะสมที่ 81 บาท และคาดว่า KKP จะจ่ายเงินปันผลสำหรับ 2H18 ที่ 3 บาทต่อหุ้น Yield 4.5% แนะนำซื้อ
(+) TU คาดกำไรปกติ 4Q18 อยู่ที่ 1,481 ลบ. (-6% Q-Q, +39.1% Y-Y) แม้ราคาปลาทูน่าจะปรับลงแรง แต่ด้วยการบริหารจัดการสต็อกและค่าเงินบาททรงตัว ทำให้ปริมาณขายเติบโตได้ดี หนุนให้รายได้ยังเติบโต และมีอัตรากำไรขั้นต้นฟื้นตัวได้ดีด้วย ส่วนค่าใช้จ่ายปิดโรงงานน่าจะเหลืออยู่เล็กน้อย แต่ถือว่าลดลงอย่างมีนัยสำคัญจาก 3Q18 มองผ่านผลประกอบการต่ำสุดในปี 2018 แล้ว และคาดกำไรจะกลับมา Turnaround ในปี 2019 จากการฟื้นตัวของธุรกิจทูน่าและกุ้ง รวมถึงธุรกิจแซลมอนที่จะกลับมามีกำไรอีกครั้ง กอปรกับคาดไม่มีค่าใช้จ่ายก้อนใหญ่เหมือนปี 2018 เราคาดกำไรปกติปีนี้กลับมาโต 24.1% Y-Y อยู่ที่ 5,488 ลบ.คงราคาเป้าหมาย 20 บาท แนะนำซื้อ
(+) ITEL เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมาย 5.50 บาท โดยยังคงมุมองเชิงบวกต่อการเติบโตในระยะยาว ซึ่งคาดว่า Recurring income จากการให้บริการโครงข่ายและ Data Center จะมีสัดส่วนรวมกันมากถึง 70% ตั้งแต่ปี 2020 ขณะที่ ตัวถ่วงงบทั้งค่านำสาย Fiber Optic ลงใต้ดิน และผลขาดทุนจากเจเนซิส ดาต้า เซ็นเตอร์ จะเคลียร์จบในปีนี้ และเป็นไปได้ที่จะมีกำไรพิเศษราว 20-30 ลบ. เราคาดว่ากำไรสุทธิปี 2019 จะโตโดดเด่น 34% Y-Y อยู่ที่ 185 ลบ. และโตต่ออีก 23% Y-Y อยู่ที่ 228 ลบ. ในปี 2020 โดดเด่นสุดใน MAI ที่เราจัดทำบทวิเคราะห์
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
21 ม.ค. - สหรัฐฯ: ตลาดหุ้นปิดทำการ เนื่องในวันมาร์ติน ลูเทอร์ คิง จูเนียร์
- จีน: 4Q18 GDP ตลาดคาด +6.4% Y-Y
22 ม.ค. - ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ
24 ม.ค. - ยูโรโซน: Flash PMI ภาคการผลิต (ม.ค.)
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้น หลังทางการจีนตั้งเป้าว่าจะเพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐ เพื่อลดตัวเลขเกินดุลการค้าให้น้อยลง
(+) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวขึ้น จาก Sentiment เชิงบวกจากสหรัฐ
(+) ตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวขึ้น จากข่าวความคืบหน้าในการเจรจาทางการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน รวมถึงประเด็นเรื่องการเจรจาระหว่างสหรัฐ-เกาหลีเหนือ
(0) ค่าเงินบาททรงตัวเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 31.71 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(+) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น +1.73 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 53.80 ดอลลาร์/บาร์เรล หลังตัวเลขแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐลดลง 21 แท่น มากที่สุดในรอบเกือบ 3 ปี
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง -9.70 ดอลลาร์ มาอยู่ที่ 1282.6 ดอลลาร์/ออนซ์
Contact person : Jitra Amornthum
Register : 014530
Tel: 02-646-9966
www.fnsyrus.com
FB: Finansia Syrus Research