- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 18 January 2019 15:13
- Hits: 1537
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วันนี้มองดัชนี SET ลุ้นพลิกกลับรีบาวด์ต่อเนื่องหลังภาพการเลือกตั้งมีความชัดเจนมากขึ้น หนุนด้วยเม็ดเงินต่างชาติที่ซื้อต่อเนื่องติดต่อกันเป็นวันที่หกกว่า 8 พันล้านบาท มองแนวรับ 1,575จุด และแนวต้าน 1,600จุด
Market Factors
• (-) รายงาน OPEC Monthly Report วานนี้ปรับลดคาดการณ์ความต้องการใช้น้ำมันดิบในตลาดโลกปี 2019 ลง 0.91 ล้านบาร์เรลต่อวันเหลือ 30.83 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากผลกระทบสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ-จีนและภาวะ ศก. ที่ชะลอตัว
• (Watch) นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ฝ่ายกฎหมาย มองว่าวันที่ 24 มี.ค.เป็นวันที่เหมาะสมที่สุดในการจัดการเลือกตั้ง คาดภายในสัปดาห์หน้าประกาศพระราชกฤษฎีกาให้มีการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรขณะที่ ม.หอการค้าไทย ประเมินว่าเศรษฐกิจไทยปี 62 จะขยายตัวได้ราว 4.0-4.2% หากมีการเลือกตั้งระดับประเทศ และท้องถิ่นที่จะเกิดขึ้นในช่วงครึ่งปีแรก ซึ่งจะส่งผลให้มีเม็ดเงินสะพัดในช่วงการเลือกตั้งเพิ่มขึ้นกว่า 30,000 ล้านบาทผลักดันให้ GDP เพิ่มขึ้นจากเดิมได้อีก 0.3%
• (+) สำนักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ (สคร.)เห็นชอบให้ธนาคารอิสลามแห่งประเทศไทย (ธอท.) หรือ ibank ออกจากแผนฟื้นฟูกิจการ เนื่องจากฐานะทางการเงินในปัจจุบันมีความแข็งแกร่งแล้วเป็นบวกในแง่การปิดความเสี่ยงจาก Contagion Effect หรือโอกาสในการส่งผ่านวิกฤตการณ์การเงินแบบต่อเนื่อง
• (+) นักลงทุนต่างชาติเริ่มเข้าลงทุนในตราสารทุนไทยมากขึ้น โดยเมื่อวานนี้เป็นการซื้อติดต่อกันเป็นวันที่หก รวมซื้อสุทธิ 8,027.8 ล้านบาท
Investment Strategy
• วันนี้ต่อเนื่องถึงสัปดาห์หน้า คาดว่า SET Index จะกลับมาสามารถยืนในแดนบวก โดยมีแรงหนุนจากแรงซื้อกลับจากนักลงทุนต่างชาติ เพราะดัชนีหุ้นไทย Laggard สุดในกลุ่ม TIP Market โดย Philippines เทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 17.0x, Indonesia เทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 14.6x และ ไทยเทรด Fwd PE ปีนี้ที่ 13.7x บวกกับ Sentiment เชิงบวกความชัดเจนในการกำหนดวันเลือกตั้ง ดังนั้นเรายังคงแนะนำ 3 กลุ่มหุ้นเด่น + 1 กลุ่มหุ้นขนาดเล็ก ดังนี้
1. กลุ่มดิจิตอลทีวี: มองได้รับ Sentiment บวกหลัง กสทช. มีมติเห็นชอบในหลักการ เกี่ยวกับร่างหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเรียกคืนคลื่นความถี่ 700 MHz มาตรการทดแทน ชดใช้ หรือจ่ายค่าตอบแทน และหลักเกณฑ์และวิธีการอนุญาตให้ใช้คลื่นความถี่สำหรับกิจการโทรคมนาคมย่าน 700 MHz นำมาประมูลและนำเงินรายได้ไปชดเชยผู้ประกอบการทีวีดิจิทัลบวกกับเม็ดเงินโฆษณาเดือน ต.ค.-ธ.ค. โต 29.8%YoY แนะนำ WORK (คาดเริ่มเห็นกำไรฟื้นตัว YoY ในปี 62 จากฐานที่ต่ำในปีก่อนจากฐานที่ต่ำในปีก่อน และจุดเด่นด้านความรวดเร็วในการปรับรูปแบบรายการให้ตอบสนองต่อความนิยมของผู้บริโภคนอกจากนี้บริษัทยังฐานะการเงินที่แข็งแกร่งที่สุดในกลุ่ม ) และ RS (คาดกำไรกลับมาโตเด่นในช่วง 4Q61 หลังปัจจัยลบจากกรณี Magic Skin บรรเทาลงและมีการอัดโปรโมชั่นเพื่อกระตุ้นยอดขายช่วงปลายปีขณะที่ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานมีแนวโน้มลดลงจากนโยบายคุมต้นทุนรายการของช่อง 8)
2. กลุ่มนิคมและสาธารณูปโภค: อานิสงส์บวกทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำ AMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมไม่ต่ำกว่า1,000 ไร่พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า1 แสนตรม.), EASTW ปี 62 คาดเห็นการฟื้นตัวของกำไรสอดคล้องไปกับการขยายตัวของนิคมอุตสาหกรรมในเขต EEC ซึ่งทำให้ความต้องการใช้ น้ำดิบในบริเวณดังกล่าวเพิ่มสูงขึ้นนอกจากนี้ในระยะยาวบริษัทยังมุ่งเพิ่มสัดส่วนจำหน่ายน้ำควบคุมคุณภาพ (มาร์จิ้นสูง) มากขึ้นโดยเซ็นสัญญาให้บริการแก่GULF (รับรู้รายได้ ปี 63) และ AMATA (รับรู้รายได้ปี 64)
3. กลุ่มโรงไฟฟ้า: ลักษณะธุรกิจที่มีความสามารถสร้างกระแสเงินสดได้อย่างสม่ำเสมอ และเราเลือกหุ้นโรงไฟฟ้าที่ยังคงมีการเติบโตต่อเนื่องได้อีก 4-5 ปีข้างหน้า ได้แก่ BGRIM ปี 62 มีแผน COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 682MW ทำให้มีกำลังผลิตรวม 2.77 GW ณสิ้นปี 62 และมีเป้าหมายระยะยาวในปี 65 ที่ 3.13GW, BPP ปี 62 มีแผน COD โรงไฟฟ้าเพิ่มอีก 312MW ทำให้มีกำลังผลิตรวม 2.48GW ณ สิ้นปี 62 และมีเป้าหมายระยะยาวในปี 68 ที่ 4.3GW, GUNKUL ปี 62 มีแผน COD โรงไฟฟ้าโซลาร์อีก 105MW ทำให้มีกำลังผลิตรวม 401MW ณ สิ้นปี 62 และมีเป้าหมายระยะยาวในปี 65 ที่ 543MW.
4. หุ้นขนาดเล็กที่คาดกำไรปี 62 โตเด่น บวกกับ Cheap Valuation ได้แก่ JMT (แนวโน้มกำไรโตต่อเนื่อง และบริษัทประกาศซื้อหนี้ไม่มีหลักประกันชุดใหม่มาบริหารมูลค่า 1 พัน ลบ. มีแผนเพิ่มสัดส่วนหนี้มีหลักประกัน หนุนยอดหนี้แตะ 1.4 แสน ลบ.และมีความสามารถในการจัดเก็บหนี้ที่อยู่ในเกณฑ์ดี), HARN (อานิสงส์ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้น หนุนธุรกิจสินค้านำเข้ามีมาร์จิ้นดีขึ้น บวกกับ เป้าการเติบโตปี 61 ที่ 10.7%YoY และ ปี 62 ที่ 8.2%YoY Backlog ณ สิ้น 3Q61 ที่ 414 ลบ.)
17-Jan-19 Change (pts.) 16-Jan-19
SET Index 1,580.30 2.89 1,577.41
SET50 Index 1,057.92 2.03 1,055.89
SET100 Index 2,318.60 3.96 2,314.64
High 1,586.88 Gainers 589
Low 1,576.84 Unchanged 491
Value (Bt m) 41,844.35 Losers 625
Volume (*000) 12,517,926
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 13.8 12.7 No Data
EPS Growth (%) 13.9 9.3 No Data
EV/EBITDA (x) 9.6 9.1 No Data
FWD PBV (x) 1.7 1.6 No Data
Dividend Yield (%) 3.4 3.7 No Data
ROE 12.0 12.1 No Data
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 17-Jan-19 WTD MTD YTD
Institution 634.64 (9,560.87) (1,272.43) (1,272.43)
Proprietary (328.77) 3.23 (1,121.81) (1,121.81)
Foreign 527.72 6,169.27 509.90 509.90
Individual (833.59) 3,388.36 1,884.34 1,884.34
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary