เมื่อวานที่ผ่านมา SET แกว่งผันผวน โดยมีแรงซื้อ selective buy ในกลุ่มที่คาดแนวโน้มผลประกอบการ 4Q61 จะขยายตัวเด่น เช่น CPF, PTTEP, HMPRO ขณะที่ยังเห็นแรงขายทำกำไรในกลุ่มปิโตรเคมีที่คาดกำไร 4Q61 ชะลอตัว ทั้ง IVL PTTGC โดย ณ สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,580.3 จุด (+2.89 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.18 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 5.02 หมื่นล้านบาท 

          นักลงทุนต่างชาติซื้อหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 ที่ 528 ล้านบาท (กองทุนพลิกกลับมาซื้อสุทธิ 634 ล้านบาท) และเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิที่ 6,851 สัญญา

 

          กำไรกลุ่ม BANK เพิ่มแรงกดดันต่อ SET : ภาพรวมการลงทุนในระยะสั้นคาดยังคงมีหลายประเด็นที่ต้องติดตามทั้งในและต่างประเทศ โดยสำหรับปัจจัยในประเทศ แนะนำให้ติดตาม 1) การรายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนไทย 4Q61 นำโดยกลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งรายงานออกมาแล้วบางส่วน พบว่า ยังไม่เป็นที่น่าพอใจนัก (TISCO, BAY กำไรตามคาด / SCB กำไรต่ำกว่าตลาดคาดถึง -30% จากการตั้งสำรองที่เร่งตัวขึ้นจากภาพรวมเศรษฐกิจที่ยังคงมีความเสี่ยง 2) ความชัดเจนของการเลือกตั้ง โดยตลาดคาดหวังว่า กกต. มีโอกาสที่จะประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจนออกมาภายในเดือน มค.นี้ และ 3) ร่างแผน พัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (PDP) ฉบับใหม่ ที่อยู่ระหว่างรอเสนอ กพช. คาดมีขึ้นในวันที่ 24 ม.ค. 2562 อาจส่งผลต่อแรงเก็งเพิ่มเติมในกลุ่มโรงไฟฟ้าขนาดใหญได้ (IPP) และ 4) ความชัดเจนในการควบคุมราคายา เวชภัณฑ์ และค่ารักษาพยาบาล ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญต่อผลประกอบการกลุ่มการแพทย์ในช่วงถัดไป ส่วนทางด้านปัจจัยต่างประเทศแนะจับตา 1) ความชัดเจนของประเด็น Trade war ผ่านการแถลงรายละเอียดการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐฯกับจีนในเร็วๆนี้ 2) การเตรียมแผน Brexit รอบใหม่ของนางเทเรซ่า เมย์ (Plan B) เพื่อเสนอต่อรัฐสภาอังกฤษอีกครั้ง และ 3) Government  Shutdown ของสหรัฐฯ ซึ่งยังคงยืดเยื้อเกือบ 1 เดือนแล้ว ซึ่งถือว่ายาวนานเป็นประวัติการณ์ โดยหากยังเป็นเช่นนี้อาจส่งผลกระทบต่อ GDP ของสหรัฐฯได้  

          Investment Theme: เราประเมินเป้าหมาย SET สิ้นปีที่ 1,743 จุด อย่างไรก็ตามใน 1Q19 มองว่าจะเป็นช่วงที่มีความผันผวนสูงไม่ต่างจากไตรมาสที่ผ่านมา มองกรอบการแกว่งตัวบริเวณ 1,540-1,645 จุด คงคำแนะนำถือหุ้น BEM, EGCO, VGI, CPALL, BJC และทยอยสะสม  AOT 

 

          เมื่อคืนที่ผ่านมา : การรายงานกำไร บ.จดทะเบียน 4Q61 วานนี้ พบว่า SCB ต่ำกว่าตลาดคาด -30% และ KTC ต่ำกว่าตลาดคาด -18% 

 

          แบ่งผลเจรจาการค้าเป็น 3 Cases : ภายหลังการเจรจาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจบลง เราคาดเร็วๆนี้ จะมีการแถลงผลการเจรจาอย่างเป็นทางการ โดยเราแบ่งผลลัพธ์เป็น 3 Cases นำโดย  1) Best case กล่าวคือยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25% , ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67แสนล้านเหรียญ, ยกเลิกวงเงิน  2.5 แสนล้าน ที่มีอยู่ในปัจจุบันออก คาด SET ปรับตัวขึ้นทะลุแนวต้าน 1,645 จุด แนะซื้อ PTTEP, PSL, WICE และ 2) Base case กล่าวคือ ยืนยันไม่ขึ้นอัตราภาษี 25%, ยกเลิกการขึ้นรอบใหม่ 2.67 แสนล้านเหรียญ, แต่ยังคงภาษีวงเงินเดิม 2.5 แสนล้านเหรียญ คาด SET แกว่งตัวในกรอบ 1,585-1,620 จุด แนะซื้อ AOT, TU และ 3) Worst case กล่าวคือขึ้นอัตราภาษี 25%, ขึ้นวงเงินภาษีอีก 2.67 แสนล้าน รวมเป็น 5.1 แสนล้านเหรียญ คาด SET เปิด Downside 1,540- จุด ซึ่งถือเป็นภาพจะส่งผลเสียต่อทั้งปัจจัยเศรษฐกิจโลก, การเมืองโลก 

          Trading idea -  วันนี้แนะย่อตั้งรับกลุ่ม Big Caps ที่มีปัจจัยพื้นฐานดี (AOT BEM EGCO CPF CPALL) และ กลุ่มปันผลสูง (LH, SCCC, RATCH, MAJOR)

 

          เน้นรอซื้อเมื่ออ่อนตัวทดสอบ จังหวะ Rebound ระหว่างวันยังเน้นขายทำกำไร:  ดัชนีแกว่ง Sideway ตลอดทั้งวัน โดยแรงขายหลักมาจากกลุ่มปิโตร โรงพยาบาลและค้าปลีก ประกอบกับ Modified Stochastic ในกราฟ 60 นาทีเข้าเขต Overbought มองว่าในระยะสั้นมีโอกาสอ่อนตัว มองแนวรับที่ 1560-1565 แนะนำรอซื้อเมื่อ่อนตัวทดสอบแนวรับดังกล่าว เพื่อเล่น Rebound ในระยะสั้น มองแนวต้านที่ 1585-1590 และ 1600-1605 จังหวะ Rebound ยังมองเป็นโอกาสขายทำกำไรตามแนวต้าน

          กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากหลุด 1575 แนะนำ Lock Profit และรอซื้อหุ้นตามแนวรับ 1560-1565 เพื่อเล่น Rebound ไปขายตามแนวต้าน  2) ไม่มีหุ้น: จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุดแนวรับ 1560-1565 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Rebound

          แนวรับ : 1550, 1565 แนวต้าน : 1590, 1600

 

          ปัจจัยต่างประเทศ :  แถลง Trade war / การปลดล็อก Gov Shutdown

          ปัจจัยในประเทศ :  จับตารัฐบาลแถลงประเด็นการเลื่อนการเลือกตั้ง, จับตา กพช.หารือ 24 ม.ค. / แหล่งข่าวระบุ กกต.เตรียมประกาศวันเลือกตั้งไม่เกิน 26 ม.ค. 

 

          HMPRO  (B 14.30-14.70, Tp 15.50//16.00, Cut 14.00)

          GOLD (6.80-7.00, Tp 7.25//7.50, Cut 6.60)

 

 

'ซีพีเอ็น-ไร้ท์แมน' ทุ่ม 600 ล. (มติชน)

          ซีพีเอ็น เปิดเผยว่า ได้ร่วมกับ บริษัท ไร้ท์แมน จำกัด จัดตั้งบริษัทร่วมทุนเพื่อพัฒนาโครงการสวนสนุก ภายใต้ชื่อ บริษัท ฟีโน มินอน ครีเอชั่น จำกัด สัดส่วนการถือหุ้นเท่ากันคือ รายละ  50% รวมมูลค่ากว่า 600 ล้านบาท โดยใช้พื้นที่กว่า 12,000 ตารางเมตร บริเวณด้านหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัล ภูเก็ต ฝั่งฟลอเรสต้า ให้กลายเป็นธีมปาร์ค "ไตรภูมิ มหัศจรรย์สามโลก" เพื่อสร้างปรากฏการณ์ท่องเที่ยวผจญภัยแปลกใหม่ ผสมผสานเทคนิคทันสมัยแบบแฟนตาซี เป็นการผจญภัยแบบสามมิติ (3D) วอล์กทรูแห่งแรกของโลก โดยเจาะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 70% และที่เหลืออีก 30% เป็นลูกค้าคนไทย คาดว่าในปีแรกจะมีผู้มาใช้บริการไม่น้อยกว่า 1 ล้านคนเป้าหมายนักท่องเที่ยวต่างชาติประมาณ 70% และที่เหลืออีก 30% เป็นลูกค้าคนไทย คาดว่าในปีแรกจะมีผู้มาใช้บริการไม่น้อยกว่า 1 ล้านคน

          ความเห็น : ธีมปาร์คไตรภูมิ ตั้งอยู่ด้านหน้าเซ็นทรัลภูเก็ตเฟส 2 โดยจะเปิดวันที่ 1 ก.พ. ช่วยเพิ่มรายได้และดึงลูกค้าเข้าเซ็นทรัลภูเก็ต เนื่องจากจะเป็น Destination หลักสำหรับนักท่องเที่ยวภูเก็ต แนะนำ ซื้อ CPN ราคาเป้าหมาย 87 บาท

 

ยันชงแผน PDP-ต่ออายุ SPP เข้ากพช.24 ม.ค. "ชาญศิลป์" ชี้ 5 ปีปตท.เน้นพลังงานสะอาด (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)

          ปลัดพลังงานยันชงวาระแผนพีดีพีฉบับใหม่และต่ออายุโรงไฟฟ้าเอสพีพีให้ กพช.ชี้ขาด 24 ม.ค.นี้ แม้ว่าไร้ข้อสรุปรายละเอียด พร้อมสั่ง สนพ.ทำความเข้าใจ ส.อ.ท. เกี่ยวกับการรับซื้อพลังงานหมุนเวียนในแผนพีดีพี ด้าน ปตท.เผยทิศทาง 5 ปีข้างหน้าเน้นพลังงานสะอาด มากขึ้น ยันมีแผนปรับปรุงโรงกลั่นเพื่อผลิตน้ำมันมาตรฐานยูโร 5 อยู่แล้ว แต่ไม่สามารถเร่งรัดให้เร็วขึ้นได้

          ความเห็น : เรามีมุมมองบวกต่อแผน PDP ใหม่ที่จะหนุนความน่าสนใจของกลุ่ม IPP จากโอกาสประมูลโรงไฟฟ้าภาคตะวันตก 2 โรง ทั้งนี้หากร่าง PDP ผ่านความเห็นชอบจาก กพช. ในวันที่ 24 ม.ค. 2562 ด้วยรายละเอียดที่ไม่เปลี่ยนไปจากเดิม โอกาสเก็งกำไรกลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แก่ EGCO GULF GPSC และ RATCH จะกลับมาอีกครั้ง ขณะที่หากมีความชัดเจนประเด็นการต่ออายุ SPP จะเป็นประเด็นบวกต่อ BGRIM EGCO และ GPSC (ผ่าน GLOW) เราเลือก EGCO เป็น Top Pick เป้าหมาย 273 บาท (รวมมูลค่าโรงไฟฟ้า Paju 14 บาทต่อหุ้น แล้ว)

 

EA ลุ้นงบ Q4/61 โต 30% กำไรทั้งปีทะลุ 5.2 พันล้าน(ข่าวหุ้น)

          EA ลุ้นไตรมาส 4/61 กำไรสวย 1,148 ล้านบาท เติบโต 30% บุ๊กโซลาร์ฟาร์ม-วินด์ฟาร์ม ดันปี 61 กำไรพุ่งเกิน 5,200 ล้านบาท ฟากโบรกฯ ชี้ปี 62 ธุรกิจสดใสรับเดินเครื่องโครงการลม "หนุมาน" 260 เมกะวัตต์ หนุนกำไรโตต่อเนื่องทุกไตรมาส

          ความเห็น :  สอดคล้องกับมุมมองของเราที่นำเสนอไปก่อนหน้า และแนะนำ Trading Buy เนื่องจาก แนวโน้ม 12 เดือนข้างหน้านี้ ล้วนจะส่งผลต่อทิศทางเชิงบวกต่อผลการดำเนินงานระยะสั้น และโอกาสที่ตลาดจะปรับประมาณการในระยะยาว ราคาเป้าหมาย 52.80 บาท

 

CPF ลุ้นผลงาน Q4/61 แจ่ม หนุนทั้งปี 61 โกยกำไร 16,857 ล้านโต 10% (ข่าวหุ้น)

          CPF ลุ้นไตรมาส 4/61 โกยกำไร 3,002 ล้านบาท โต 29% หนุนทั้งปี 61 มีกำไร 16,857 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 10% พร้อมคาดปี 62 โตต่อเนื่อง หลังราคาหมูฟื้นตัว-ผลงานต่างประเทศเพิ่ม โบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" ราคาเป้าหมาย 31.50 บาท/หุ้น

          ความเห็น :  เราคาดกำไรปกติ 4Q61 เท่ากับ 1,732 ล้านบาท แม้จะลดลง 55% QoQ เนื่องจากเป็นโลว์ซีซั่น แต่ฟื้นตัวอย่างมีนัยยะ YoY เนื่องจากราคาหมูฟื้นตัว แนวโน้มปี 2562 คาดกำไรปกติเพิ่มขึ้น 39% จากผลการดำเนินงานในไทยคาดจะฟื้นตัวจากขาดทุน เนื่องจากธุรกิจหมูเติบโตดี ขณะที่ธุรกิจไก่ค่อยๆฟื้นตัว แนะนำ ซื้อ CPF ราคาเป้าหมาย (SOTP) 31.50 บาท

 

เปิด '5 โจทย์ยาก' ชี้ชะตาไฮสปีด กก.หนักใจ 'ซอง 4 ซีพี' ยื่น 200 หน้า- 'วรวุฒิ' เครียดข้อเสนอการเงิน (กรุงเทพธุรกิจ)

          กรรมการคัดเลือก ประมูลไฮสปีดเทรนเจรจาต่อรอง "ซีพี" วันนี้ เปิดเอกสาร 200 หน้า พบ 5 ข้อโจทย์ยาก ขอการันตีรายได้ 6% ขอสิทธิ์ลดสัดส่วนหุ้นในอนาคตจาก 70% เหลือ 5% ขอรับเงินอุดหนุนตั้งแต่ปีแรก "วรวุฒิ" เผยเครียดสุดข้อเสนอการเงิน ปัดตอบประเด็นขอรัฐ การันตีรายได้

          ความเห็น :  โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน แม้ว่ากลุ่ม CP จะเสนอราคาต่ำสุด แต่ก็มีรายละเอียดในการเจรจา  กลุ่มรับเหมาก่อสร้างในช่วงนี้ ขาดข่าวด้านบวกเข้ามากระตุ้น  ล่าสุด การประมูลท่าเรือแหลมฉบังเฟส 3 ได้ถูกยกเลิกไปเตรียมประมูลใหม่  และ ปัญหามลภาวะทางอากาศทำให้มีการควบคุมงานก่อสร้างเข้มงวดขึ้น  เราให้น้ำหนักกลุ่มรับเหมาก่อสร้างเป็น กลาง