WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

DBSบล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
 
“BREXIT ไม่ผ่าน แต่ดาวโจนส์-น้ำมันปรับขึ้นเพราะจีน”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ปรับลง -5.57 จุด ปิดที่ 1577.00 จุด มูลค่าการซื้อขายเบาบางที่ 38 พันล้านบาท สวนทางกับตลาดหุ้นในภูมิภาคแถบนี้ที่รีบาวด์ดัชนีปรับลดลงยังกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัว หลังจีนประกาศตัวเลขส่งออก ธ.ค.61-ปี 61 ต่ำกว่าคาด ราคาน้ำมันลด และติดตามโหวต Brexit ของอังกฤษ แม้ช่วงบ่ายจีนประกาศมาตรการลดภาษีแต่ก็ไม่อาจต้านแรงขายได้ ผู้ขายสุทธิรายเดียวเป็น สถาบัน 3.2 พันลบ. ผู้ซื้อสุทธิมากคือ นักลงทุนต่างประเทศ 2.6 พันลบ.ส่วนรายย่อยและพอร์ตซื้อสุทธิ ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาดว่า SET จะ Sideways แม้ BREXIT โหวตไม่ผ่าน ปอนด์อ่อน ดอลลาร์แข็งแต่บาทก็อ่อนเพียงเล็กน้อย ผลกระทบจึงไม่มาก แต่การที่จีนจะมีมาตรการลดภาษีกระตุ้นเศรษฐกิจทำให้ดาวโจนส์และน้ำมันปรับขึ้นดี ด้านปัญหาหมอกพิษในไทย ส่งผลกระทบเชิงลบหุ้นกลุ่มเดินทาง-ท่องเที่ยว สนามบิน การบิน และโรงแรม แม้กระทั่งกลุ่มโรงกลั่น อาจจะต้องลงทุนเพิ่ม
# ตลาดหุ้นเพื่อนบ้านแกว่งแคบเชิงลบ แต่ดาวโจนส์ล่วงหน้าอยู่แดนบวกได้ ตัวเลข PPI ธ.ค.สหรัฐ ออกมาอ่อน และ Shut Down ยังไม่ได้แก้
# กลยุทธ์ คือ ระยะสั้น หากมีการรีบาวด์ เก็งกำไรรอบสั้นแนวต้านเป็น 1580-1600 จุด ด้านการซื้อลงทุนระยะกลาง รออ่อนตัว แนวรับที่ 1570-1550 จุด ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 ยังเป็น 1780 จุด (+0.5 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 61-62 ที่ +8%/+6% ตามลำดับ แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีหุ้น Top Pick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
# หุ้นเด่น BA : จะเน้นขยายรายได้ที่ไม่ใช่มาจากสายการบินมากขึ้น เพื่อชดเชยกับรายได้จากสายการบินที่ปัจจุบันมีการแข่งขันกันสูงจนอัตรากำไรลดลงไปบางมาก โดยมีแผนจะเข้าร่วมประมูลสัมปทานบริหารพื้นที่ดิวตี้ฟรีภายในท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ และสนใจเข้าร่วมประมูลโครงการพัฒนาเมืองการบินภาคตะวันออกสำหรับธุรกิจสายการบินปี 62 คาดว่าจะเติบโตได้ แต่ไม่มาก จากการประเมินมูลค่าหุ้นถูก ซื้อขายที่ P/BV เท่ากับ 0.9 เท่า และมีเงินลงทุนที่ดีใน BDMS, SPF ด้วยแนะนำซื้อลงทุน ให้ราคาพื้นฐาน 17.00 บาท ประเมินด้วยวิธี SOP
 
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้น สัญญาณ Candlestick & Indicators เป็นลบอีกครั้ง {“ปิดลบ”ใต้“SMA10วัน”อีกครั้ง (โดยมี“โครงสร้างขาลง – ระยะกลาง”กดดัน)} ชี้ความน่าจะเป็นของตลาดฯวันนี้“แกว่ง”แบบให้น้ำหนักกับการลง แต่“ค่าบวก”(มีOversold ในกราฟรายนาที) ก็อาจจะมีรีบาวด์ฯสั้นๆก่อน(แล้วจึงลงต่ำ,ตามมา)ได้ แนวต้าน 1580 – 1590 (หรือ 1600) จุด {แนวตัดขาดทุน “ต่ำกว่า 1575” จุด}
 
ส่วนหุ้นเข้ามาใหม่มีสัญญาณบวกทางเทคนิคหรือมีโอกาสทำ New High ได้ คือ KTB,TOA,GLOW,TU,BA,MAKRO ด้านหุ้นที่ยังอยู่ใน List คือPTT,CPALL,HMPRO,BEM,BTS สำหรับหุ้นที่หลุด List คือ TCAP,AMATA,HUMAN,AOT,UV,GULF,SAT,QH และหุ้นอยู่ในพื้นที่หาจังหวะ Take Profit SAT,QH
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
 
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Flash Note : ADVANC (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 223.00)
TISCO (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 102.00)
In The News : กลุ่มพลังงาน : ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์หลังมีข่าวว่าจีนจะออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
ข่าวเด่นวันนี้
New Listing : EPCO-W3
 
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ ข่าวจีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ
# เจ้าหน้าที่ระดับสูงของจีนเปิดเผยว่า จีนเตรียมปรับลดภาษีครั้งใหญ่ เพื่อช่วยหนุนเศรษฐกิจที่ส่งสัญญาณชะลอตัวลงในขณะนี้ แถลงการณ์จากรัฐบาลจีนระบุว่า ทางการจีนจะเดินหน้าปรับลดภาษี โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มธุรกิจขนาดเล็กและภาคการผลิต รวมถึงออกมาตรการที่เอื้อประโยชน์ต่อภาคธุรกิจในปี 2562 เพื่อสร้างเสถียรภาพทางเศรษฐกิจ (อินโฟเควสท์)
 
-/• อังกฤษ: รัฐสภาลงมติ BREXIT ไม่ผ่านตามคาด และกระทบต่อค่าเงินปอนด์
# รัฐสภาอังกฤษได้ลงมติด้วยคะแนนเสียง 432 ต่อ 202 เสียง ปฏิเสธร่างข้อตกลง Brexit ภายหลังจากที่สมาชิกรัฐสภาได้อภิปรายประเด็นดังกล่าวเป็นเวลา 5 วัน ทั้งนี้ นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ มีเวลา 3 วันในการนำเสนอแผนBrexit ฉบับใหม่ต่อรัฐสภา ทางด้านนายเจเรมี คอร์บิน ผู้นำพรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายค้านของอังกฤษ ได้ยื่นญัตติไม่ไว้วางใจนายกฯเมย์ หลังจากที่ร่างข้อตกลง Brexit ไม่ผ่านความเห็นชอบจากรัฐสภา โดยการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะมีขึ้นในสภาสามัญชน ในวันนี้ตามเวลาท้องถิ่น หากผลการอภิปรายครั้งนี้ปรากฎว่ารัฐบาลภายใต้การนำของนายกฯเมย์ไม่ได้รับความไว้วางใจ ก็อาจส่งผลให้ต้องมีการจัดการเลือกตั้งครั้งใหม่ในอังกฤษ
# หากรัฐสภาอังกฤษคว่ำร่างข้อตกลง Brexit ในวันอังคารหน้า ก็จะถือเป็นจุดจบสำหรับการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของนางเมย์ โดยนักวิเคราะห์คาดการณ์สิ่งที่จะเกิดขึ้น หลังร่างข้อตกลง Brexit ไม่ผ่านการอนุมัติในสภา คือ การลาออกจากตำแหน่งของนางเมย์, มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล, รัฐบาลประกาศยุบสภาเพื่อเลือกตั้งใหม่, มีการจัดการลงประชามติรอบ 2 เกี่ยวกับ Brexit รวมทั้งเกิดความปั่นป่วนทางการเมือง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อกระบวนการ Brexit ให้ต้องเริ่มต้นนับหนึ่งใหม่
 
-สหรัฐ: ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือน ธ.ค.อ่อนลง
# กระทรวงแรงงานสหรัฐระบุว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ลดลง 0.2% ในเดือนธ.ค.เมื่อเทียบรายเดือน หลังจากเพิ่มขึ้น0.1% ในเดือนพ.ย. โดยการปรับตัวลงของดัชนี PPI ได้รับผลกระทบจากการดิ่งลงของราคาพลังงาน ส่วนเมื่อเทียบเป็นรายปี ดัชนี PPI เพิ่มขึ้น 2.5% ในเดือนธ.ค. หลังจากดีดตัวขึ้น 2.5% เช่นกันในเดือนพ.ย.
 
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปรับขึ้น สะท้อนจีนเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจ หุ้น Netflix ปรับขึ้นแรง
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 24,065.59 จุด เพิ่มขึ้น 155.75 จุด หรือ +0.65% ขณะที่ดัชนี Nasdaq ปิดที่7,023.83 จุด เพิ่มขึ้น 117.92 จุด หรือ +1.71% และดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,610.30 จุด เพิ่มขึ้น 27.69 จุด หรือ +1.07%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (15 ม.ค.) โดยดาวโจนส์ปิดในแดนบวกเป็นวันแรกในรอบ 3 วันทำการ ขานรับรายงานข่าวที่ว่า จีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงการปรับลดภาษีครั้งใหญ่ ขณะที่ดัชนีNasdaq ทะยานขึ้นเหนือนแนวต้านที่ระดับ 7,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 1 เดือน หลังจากราคาหุ้นเน็ตฟลิกซ์พุ่งขึ้นกว่า6% ซึ่งช่วยหนุนหุ้นตัวอื่นๆในกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้นด้วย
 
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ปรับขึ้นดี สะท้อนจีนเตรียมกระตุ้นเศรษฐกิจ
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 1.60 ดอลลาร์ หรือ 3.2% ปิดที่ 52.11 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.65 ดอลลาร์ หรือ 2.8% ปิดที่ 60.64 ดอลลาร์/บาร์เรล
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 3% เมื่อคืนนี้ (15 ม.ค.) ขานรับรายงานที่ว่า จีนเตรียมออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ หลังจากได้รับผลกระทบจากการทำสงครามการค้ากับสหรัฐ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานสต็อกน้ำมันดิบประจำสัปดาห์ของสหรัฐซึ่งมีกำหนดเปิดเผยในวันนี้
 
+ ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปิดปรับลง หันเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง และดอลลาร์แข็งค่า
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง 2.90 ดอลลาร์ หรือ 0.2% ปิดที่1,288.40 ดอลลาร์/ออนซ์
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (15 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดการถือครองทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัยหลังจากตลาดหุ้นสหรัฐฟื้นตัวขึ้น นอกจากนี้ การแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ยังลดความน่าดึงดูดของทองคำเช่นกัน
 
• ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจประจำสัปดาห์นี้
# นักลงทุนจับตาข้อมูลเศรษฐกิจด้านอื่นๆของสหรัฐที่มีกำหนดเปิดเผยในสัปดาห์นี้ ซึ่งได้แก่ ราคานำเข้าและราคาส่งออกเดือนธ.ค., ดัชนีตลาดที่อยู่อาศัยเดือนม.ค.จากสมาคมผู้สร้างบ้านแห่งชาติ (NAHB), รายงานสรุปภาวะเศรษฐกิจ หรือBeige Book จากธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด), จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตเดือนม.ค.จากเฟดฟิลาเดลเฟีย, การผลิตภาคอุตสาหกรรม-อัตราการใช้กำลังการผลิตเดือนธ.ค. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคขั้นต้นเดือนม.ค.จากมหาวิทยาลัยมิชิแกน
 
ปัจจัยในประเทศ
• การเลือกตั้งไทย: นายกฯ เมินข้อเรียกร้องกลุ่มคนอยากเลือกตั้งขีดเส้นตายประกาศวันให้ชัดภายใน 19 ม.ค.
# พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวถึงกรณีที่กลุ่มคนอยากเลือกตั้งขีดเส้นตายให้รัฐบาลประกาศวันเลือกตั้งที่ชัดเจนภายในวันที่ 19 ม.ค.นี้ ว่า กลุ่มคนอยากเลือกตั้งมีสิทธิขีดเส้นตายรัฐบาลได้หรือไม่ กำหนดการทุกอย่างอยู่ในโรดแมพภายในกรอบ 150 วัน คือจัดให้มีการเลือกตั้งภายในวันที่ 9พ.ค.62 ส่วนความชัดเจนเรื่องวันเลือกตั้งขึ้นอยู่กับคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) เป็นผู้กำหนด
 
-/+สธ.ติดตามเฝ้าระวังปัญหาฝุ่นละออง เป็นลบกับการเดินทาง-ท่องเที่ยว แต่เป็นบวกกับกลุ่มโรงพยาบาล
# ศูนย์ปฏิบัติการด้านการแพทย์และสาธารณสุข (EOC) ได้ประสานการทำงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่กรุงเทพมหานคร กรมควบคุมมลพิษ เพื่อติดตามสถานการณ์ เฝ้าระวังผลกระทบต่อสุขภาพประชาชนที่อยู่ในพื้นที่ที่มีค่าPM 2.5 เกินมาตรฐาน โดยยกระดับจาก EOC ของกรมอนามัยที่เปิดมาตั้งแต่เริ่มพบปัญหาฝุ่นละออง เมื่อเดือน ธ.ค.61
# พร้อมทั้งกรมควบคุมโรค ได้ติดตามเฝ้าระวังผลกระทบสุขภาพ โดยเฉพาะกลุ่มเสี่ยง ได้แก่ ผู้สูงอายุ เด็กเล็ก หญิงตั้งครรภ์ ผู้ป่วยโรคเรื้อรัง เช่น หอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหัวใจและหลอดเลือด และจำนวนผู้ป่วยที่มารับการรักษาในโรงพยาบาลเครือข่ายกรุงเทพมหานครและปริมณฑล รวมทั้งมีการสื่อสารเตือนภัยให้ประชาชนทราบความเสี่ยงและป้องกันดูแลสุขภาพของตนเองได้
# ผลกระทบ: เป็นลบกับหลักทรัยพ์การเดินทาง-ท่องเที่ยวไทย เช่น AOT, โรงแรม (ERW กระทบมากสุด เพราะพึ่งพิงรายได้จากไทยเป็นหลัก) และสายการบิน นักท่องเที่ยวอาจเปลี่ยนจุดหมายจากไทยไปประเทศอื่นที่ไม่ประสบปัญหานี้แต่เป็นบวกกับกลุ่มโรงพยาบาล ถ้าหากเหตุการณ์นี้กินเวลายาวนานขึ้น ก็จะทำให้มีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มสูงขึ้น อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามคาดว่าจะเป็นเพียงปัจจัยลบระยะสั้นที่เข้ามา
 
-ก.พลังงาน นัดถกกลุ่มโรงกลั่นสัปดาห์นี้หารือปรับมาตรฐานน้ำมันหวังช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองเกินมาตรฐาน
# กรมธุรกิจพลังงาน (ธพ.) เปิดเผยว่า ธพ.เตรียมที่จะเรียกประชุมกลุ่มผู้ประกอบการโรงกลั่นน้ำมันภายในสัปดาห์นี้ เพื่อหารือถึงการปรับมาตรฐานน้ำมัน ซึ่งคาดว่าจะช่วยลดปัญหาฝุ่นละอองสูงเกินมาตรฐานในพื้นที่กรุงเทพฯและปริมณฑลโดยปัจจุบันใช้มาตรฐานบังคับในระดับยูโร 4 ที่มีค่ากำมะถัน 50 ppm เป็นการใช้มาตรฐานยูโร 5 ที่มีค่ากำมะถัน 10 ppmซึ่งหากสามารถเร่งดำเนินการได้ก็จะช่วยแก้ไขปัญหาได้ระดับหนึ่ง ซึ่งเบื้องต้นต้องการรับฟังความเห็นของผู้ประกอบการโรงกลั่นว่าจะมีความพร้อมปรับปรุงให้เป็นมาตรฐานยูโร 5 เมื่อใด
# ทั้งนี้ จากการศึกษาก่อนหน้านี้คาดว่าผู้ประกอบการจะต้องมีการลงทุนเพิ่มไม่ต่ำกว่า 3 หมื่นล้านบาท เพื่อรองรับการบังคับใช้มาตรฐานยูโร 5 ซึ่งจะทำให้ต้นทุนการผลิตน้ำมันปรับตัวสูงขึ้น
# ผลกระทบ: หลักทรัพย์กลุ่มโรงกลั่นเช่น TOP, ESSO, BCP และ IRPC เป็นต้น มีความเสี่ยงที่จะต้องลงทุนเพิ่ม หากปัญหาหมอกควันพิษเป็นปัญหาระยะยาว
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!