ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index เพิ่มขึ้น 9.41 จุด (+0.59%) ปิดที่ 1,597 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.5 หมื่นล้านบาท ตามทิศทางตลาดหุ้นภูมิภาคหลัง FED ส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย ประกอบแรงซื้อเฉพาะตัว เช่น กลุ่มโรงพยาบาล กลุ่มขนส่ง รวมถึงค้าปลีก อย่างไรก็ตามยังคงมีแรงขายในกลุ่มสื่อสารต่อเนื่องเป็นวันที่สองจากกรณี DTAC ประกาศจะจ่ายเงินเพื่อยุติข้อพิพาทกับกสท.(CAT) ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติเป็นซื้อสุทธิ 956 ล้านบาท เป็น Net Long TFEX 1,159 สัญญา รวมทั้งซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 882 พันล้านบาท

แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index จะเคลื่อนไหว Sideways สร้างฐานในกรอบ 1,590-1,610 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยแม้ว่าภาวะตลาดยังคงได้ sentiment บวกจากการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนที่มีความคืบหน้า รวมถึง FED ส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย อย่างไรก็ตามความกังวลภาวะ Shutdown ของสหรัฐที่ดำเนินมา 23 วันหลังยังไม่สามารถได้ข้อสรุปการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก , ความไม่แน่นอนการลงมติ Brexit ของอังกฤษในวันนี้ รวมถึงแรงขายกลุ่ม ICT ที่ยังคงอยู่ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อทิศทางการลงทุนให้มีความผันผวนสูง  

กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy  

•    กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น

•    กลุ่มอาหาร ( TU , ASIAN) EU ปลดธงเหลืองต่อการนำเข้าสินค้าประมงของไทย

•    กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม ( AOT MINT CENTEL ERW ) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19

•    กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ

•    กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น

•    หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BEM , BGRIM และ TTW

 

หุ้นแนะนำวันนี้ : ERW (ปิด 6.75 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 8.2) รับผลบวกภาครัฐขยายเวลาฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ไปถึงเดือน เม.ย. หนุนนักท่องเที่ยวกับมาฟื้นตัวโดยเฉพาะกลุ่มนักท่องเที่ยวจีน ด้านผลประกอบการคาดกำไร 4Q18 ฟื้นตัวเด่นจาก high season แนวโน้ม 1Q19 คาดกำไรโตต่อเนื่องจากการที่โรงแรม JW Marriott กลับมาดำเนินการปกติจากที่ปิด Renovate ไปในช่วงปีที่ผ่านมา, GFPT (ปิด 12.9 ซื้อ/เป้า 16.6) เก็งกำไรราคาไก่ฟื้นตัวจาก 33 บาท/กก.เป็น 35 บาท/กก. (+6%) ขณะที่ราคา By product (ซี่โครงไก่) เพิ่มขึ้นแรงกว่า 50% จาก 7- 8 บาท/กก.ในช่วง 4Q18 เป็น 10-12 บาท/กก.ส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนและผลประกอบการของ GFPT ในช่วง 1Q19, AMATA (ปิด 22 ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 27.5) คาดกำไร 4Q18 ออกมาดี จากยอดขายและยอดโอนที่สูงขึ้นแบบก้าวกระโดด ขณะที่วันเลือกตั้งคาดประกาศได้ในเดือนนี้เป็นบวกต่อหุ้นที่เกี่ยวข้องอาทิ นิคมฯ และ ค้าปลีก

 

Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS

KSS report วันนี้ : GFPT (ปิด 13.2 ซื้อ/เป้า 16.6), SVI (ปิด 5.35 ซื้อ/เป้า 6.3)

 

ประเด็นสำคัญวันนี้ :          

•    (-) US shutdown ยังยืดเยื้อ โดนัลทรัมป์ กับ เดโมแครตยังตกลงกันไม่ได้ สุดท้ายโดนัลทรัมป์ อาจออกกฎหมายพิเศษ เพื่อสร้างกำแพงเอง : US shutdown เข้าสู่วันที่ 23 และยังไม่เห็นสัญญาณที่จะยุติเนื่องจาก ทรัมป์ และ พรรคเดโมแคต ยังไม่สามารถตกลงกันได้ เป็นไปได้สูงที่โดนัลทรัมป์จะประกาศภาวะฉุกเฉินแห่งชาติ และ ออกกฎหมายพิเศษโดยไม่ต้องขอการอนุมัติจากสภาคองเกรสสำหรับการสร้างกำแพงโดยจะใช้งบประมาณที่มีการจัดสรรไว้แล้วสำหรับกองทัพมาทดแทน

•    (-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1$/bbl ลดลงครั้งแรกในรอบ 10 วันทำการ จากแรงขายทำกำไร และกังวลดีมานด์หดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลง 1 ดอลลาร์ หรือ 1.9% ปิดที่ 51.59 ดอลลาร์/บาร์เรล จากแรงขายทำกำไรหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น 9 วันติดต่อกัน นอกจากนี้นักลงทุนกลับมาวิตกกังวลกับภาวะดีมานด์ที่หดตัวอีกครั้งหลังจากดัชนีชี้นำเศรษฐกิจของหลายประเทศเริ่มชะลอตัวโดยเฉพาะ สหรัฐ และ จีน ซึ่งมีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 1 และ 2 ของโลก

•    (+/-) กลุ่มธนาคาร – ทยอยประกาศงบในสัปดาห์นี้ เบื้องต้นคาดมีกำไรสุทธิรวม 4 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 15%yoy แต่ชะลอตัว 15%qoq  : โดยเริ่มจาก TISCO จะประกาศงบในวันนี้ ส่วนแบงก์อื่นๆ(KKP BBL SCB KTB KBANK และ TCAP) จะประกาศงบในช่วงวันที่ 17-18 เบื้องต้นคาดผู้ประกอบการธนาคารจะมีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น yoy เกือบทุกธนาคารจากสินเชื่อที่ยังเติบโตและการตั้ง Provision ที่ลดลง (4Q17 เร่งตั้งสำรองรองรับ IFRS9) โดย KTB และ KBANK จะมีผลกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น yoy มากที่สุดประมาณ 43%yoy และ 39% yoy ตามลำดับ อย่างไรก็ตามหากเทียบ QoQ เกือบทุกธนาคารมีกำไรสุทธิลดลงจากผลของ Seasonal ที่กลุ่ม Bank มักมีค่าใช้จ่ายการตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงไตรมาสสุดท้ายของทุกปี