- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 11 January 2019 14:56
- Hits: 1137
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
Daily Strategy
" Sideways สร้างฐาน "
ตลาดหุ้นวานนี้ :SET Index ลดลง 2.87 จุด (-0.18%) ปิดที่ 1,588 จุด มูลค่าการซื้อขาย 5.3 หมื่นล้านบาท จากแรงเทขายหุ้นกลุ่มสื่อสารหลัง DTAC ประกาศจะจ่ายเงินเพื่อยุติข้อพิพาทกับกสท.(CAT) เช่นเดียวกับกลุ่มโรงพยาบาลที่มีความไม่แน่นอนกับประเด็นการนำยาเวชภัณฑ์ และ บริการทางการแพทย์เป็นสินค้าควบคุม กดดันให้นักลงทุนสถาบันยังขายลดพอร์ต แต่นักลงทุนต่างชาติพลิกเป็นซื้อสุทธิ 902 ล้านบาท เป็นวันแรกในรอบ4 วันทำการ Net Short TFEX 848 สัญญา รวมทั้งขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 2.3 พันล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: คงมุมมองเดิมคาด SET Index จะเคลื่อนไหว Sideways ในกรอบ 1,580-1,600 เพื่อสร้างฐาน แม้ภาพรวมปัจจัยกดดันจากภายนอกจะดูผ่อนคลาย โดยเฉพาะประเด็นสงครามการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐที่ผ่านไปได้ด้วยดี เช่นเดียวกับประธานเฟดที่ส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ยส่งผลให้เม็ดเงินมีโอกาสไหลกลับเข้าตลาดเกิดใหม่ รวมไปถึงราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องส่งผลดีต่อ Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มพลังงานของบ้านเรา อย่างไรก็ตามตลาดยังมีปัจจัยลบจากความไม่แน่นอนจากภาวะ US Shutdown ของสหรัฐ และ การลงมติ Brexit ของอังกฤษในวันจันทร์ที่ 15 ม.ค. เช่นเดียวกับปัจจัยในประเทศยังมีปัจจัยเสี่ยงหรือความไม่แน่นอนของหุ้นกลุ่มหลักอาทิ กลุ่มสื่อสาร และ โรงพยาบาล ทำให้กรอบการปรับขึ้นของดัชนียังเป็นไปอย่างจำกัด
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
- กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
- กลุ่มอาหาร ( TU , ASIAN) EU ปลดธงเหลืองต่อการนำเข้าสินค้าประมงของไทย
- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม ( AOT MINT CENTEL ERW ) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19
- กลุ่มค้าปลีก (CPALL, ROBINS, HMPRO) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ
- กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น
- หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BEM , BGRIM และ TTW
หุ้นแนะนำวันนี้:GFPT (ปิด 12.9 ซื้อ/เป้า 16.6) เก็งกำไรราคาไก่ฟื้นตัวจาก 33 บาท/กก.เป็น 35 บาท/กก. (+6%) ขณะที่ราคา By product (ซี่โครงไก่) เพิ่มขึ้นแรงกว่า 50% จาก 7- 8 บาท/กก.ในช่วง 4Q18 เป็น 10-12 บาท/กก.ส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนและผลประกอบการของ GFPT ในช่วง 1Q19, ERW (ปิด 6.9 ซื้อเก็งกำไร/เป้า 8.2) รับผลบวกภาครัฐขยายเวลาฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ด้านผลประกอบการกำไร 4Q18 ฟื้นตัวเด่นจาก high season แนวโน้ม 1Q19 คาดกำไรโตต่อเนื่องจากการที่โรงแรม JW Marriott กลับมาดำเนินการปกติจากที่ปิด Renovate ไปในช่วงปีที่ผ่านมา,BEM (ปิด 9.80 ซื้อ/เป้า 11.5) ยังมั่นใจได้ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนอีก 37 ปี เพิ่ม Valuation ให้ BEM 2.9 บาทต่อหุ้น อีกทั้งยังปลดล็อก Overhang ของสัญญาสัมปทานเดิมที่จะหมดอายุในปี 2020
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : CPN (ปิด 75.5 ซื้อ/เป้า 93), HMPRO (ปิด 14.7 ถือ/เป้า 15.3), SCC (ปิด 428 ซื้อ/เป้า 480)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+/-) น้ำมันดิบ WTI ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 9 จากข่าวซาอุฯส่งสัญญาณลดกำลังการผลิตเพื่อพยุงราคาน้ำมัน: ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้นอีก 23 เซนต์ (+0.4%) ปิดที่ 52.59 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ตอบรับข่าวซาอุฯประกาศแผนลดกำลังการผลิตในเดือน ม.ค. และ ก.พ. เพื่อกระตุ้นราคาน้ำมัน โดยซาอุฯจะลดกำลังการผลิตลงสู่ระดับ 7.2 ล้านบาร์เรลต่อวันในเดือน ม.ค.จาก 8 ล้านบาร์เรลต่อวันในปัจจุบันและจะลดอีก 1 แสนบาร์เรลต่อวันในเดือน ก.พ.
(-) กลุ่มสื่อสาร DTAC นำทีมจ่ายเงินยุติข้อพิพาทกับหน่วยงานภาครัฐ กังวล ADVANC และ TRUE เดินรอยตาม : วานนี้ DTAC แจ้งตลาดฯว่าบริษัทจะยอมจ่ายเงิน 9.5 พันล้านบาทเพื่อยุติข้อพิพาทกับ กสท. (CAT) กดดันให้ราคาหุ้นของ DTAC และ หุ้นในกลุ่ม ICT ลดลงอย่างหนัก ซึ่งเรามองว่าราคาหุ้น DTAC ที่ลดลงวานนี้สะท้อนปัจจัยดังกล่าวไปแล้ว (One time กระทบ 4 บาทต่อหุ้น) ส่วน ADVANC และ TRUE แม้จะยังมีความไม่แน่นอนและสร้างความกังวลให้กับตลาดเนื่องจาก ADVANC และ TRUE มีข้อพิพาทกับ TOT ประมาณ 1.7 แสนล้านบาท และ 1.3 แสนล้านบาท ตามลำดับ แต่เท่าที่พูดคุยและประเมินเบื้องต้นกับบริษัทคาดว่า ADVANC และ TRUE จะยังไม่จ่ายเพื่อยุติข้อพิพาทเหมือน DTAC เนื่องจากข้อพิพาทของ ADVANC และ TRUE ส่วนใหญ่ยังอยู่ในขั้นตอนของอนุญาโตฯ ยังเหลือขั้นตอนของ ศาลปกครอง และ ศาลปกครองสูงสุด ดังนั้นหากวันนี้ราคาหุ้นยังลดลงอีกอาจเป็นจังหวะในการเข้าซื้อ
(-) ดัชนีความเชี่อมั่นนักลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้า ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 กลุ่ม Bank ยังเป็นกลุ่มที่นักลงทุนสนใจมากที่สุด : FETCO รายงานดัชนีความเชื่อมั่นของนักลงทุนในช่วง 3 เดือนข้างหน้าลดลงสู่ระดับ 92.75 ลดลง 5.25% ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 เนื่องจากยังกังวลผลกระทบจากสงครามการค้า ความผันผวนของกระแสเงินทุนจากนโยบายการปรับเปลี่ยนอัตราดอกเบี้ยของเฟด โดยหุ้นที่นักลงทุนยังให้ความสนใจลงทุนมากที่สุดคือกลุ่มธนาคาร ส่วนกลุ่ม MEDIA เป็นกลุ่มที่ไม่น่าลงทุน
(+/-) สัปดาห์หน้า 15 ม.ค.ติดตามรัฐสภาอังกฤษลงมติแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ก่อนที่จะเริ่มมีผลในวันที่ 29 มี.ค. : หากรัฐสภาอังกฤษไม่สามารถลงมติตามข้อตกลงที่นางเทเรซาเมย์ นายกฯอังกฤษ ทำไว้กับ EU อาจจะกดดันให้ อังกฤษต้อง Brexit โดยไร้ข้อตกลงในวันที่ 29 มี.ค.2019 ซึ่งจะส่งผลลบต่อภาคธุรกิจในอังกฤษและยุโรป
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี