- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 10 January 2019 14:59
- Hits: 3117
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
Daily Strategy
" พักตัว รอปัจจัยใหม่ "
ตลาดหุ้นเมื่อวานนี้ :SET Index วานนี้ปรับตัวลง -3.50 จุด (-0.22%) ปิดที่ 1,590 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.6 หมื่นล้านบาท สวนทางตลาดหุ้นรอบบ้านที่ปรับตัวขึ้นตอบรับความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน เนื่องจากมีแรงขายกลุ่ม Healthcare จากข่าว กกร.ขึ้นบัญชีควบคุมยาและบริการทางการแพทย์ซึ่งกดดันต่อภาพรวมตลาดให้อ่อนตัวลงปิดลบ ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 758 ล้านบาท และ Net Short TFEX 6,621 สัญญา รวมทั้งขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 64 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index พักตัว 1,580 - 1,600 จุด เนื่องจากมีปัจจัยบวก/ลบคละเคล้า โดยภาวะตลาดได้แรงหนุนจากความคืบหน้าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีนโดยจีนให้คำมั่นจะซื้อสินค้าการเกษตร พลังงาน และการผลิต/บริการจำนวนมากจากสหรัฐ ซึ่งหนุนให้ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้นต่อเนื่องและเป็นบวกต่อกลุ่ม Energy นอกจากนี้รายงานการประชุมเฟดเดือน ธ.ค. ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยยังเป็นบวกต่อทิศทางการการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากกลุ่ม Healthcare หลังกกร.นำยาและบริการทางการแพทย์ขึ้นบัญชีควบคุม ประกอบกับวิกฤต Shutdown ของสหรัฐที่ยังไม่มีทางออกหลังพรรค Democrat และปธน.ทรัมป์ยังไม่สามารถตกลงกันได้ซึ่งเป็นแรงกดดันต่อภาวะการลงทุน
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
- กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTEP, TOP, PTTGC) อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบดีดตัวขึ้น
- กลุ่มอาหาร (TU , ASIAN) EU ปลดธงเหลืองต่อการนำเข้าสินค้าประมงของไทย
- กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรม ( AOT MINT CENTEL ERW ) ครม.ขยายเวลามาตรการฟรีค่าธรรมเนียมวีซ่า (VOA) ถึงวันที่ 30 เม.ย.19
- กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ
- กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น
- หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BEM , BGRIM และ TTW
หุ้นแนะนำวันนี้:BEM (ปิด 9.90 ซื้อ/เป้า 11.5) ยังมั่นใจได้ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนอีก 37 ปี เพิ่ม Valuation ให้ BEM 2.9 บาทต่อหุ้น อีกทั้งยังปลดล็อก Overhang ของสัญญาสัมปทานเดิมที่จะหมดอายุในปี 2020, BGRIM (ปิด 28.25 ซื้อ/เป้า 33) เป็นทั้ง Defensive และ Growth stock มีรายได้สม่ำเสมอจากสัญญาระยะยาวกับลูกค้าและภาครัฐ ขณะที่ผลกำไรปีนี้คาดเพิ่มขึ้นแตะระดับ 3,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 46%yoy จากจำนวนเมกะวัตต์ที่เพิ่มขึ้นและต้นทุนก๊าซธรรมชาติที่ลดลงตามราคาน้ำมัน
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : SPRC (ปิด 10.4 ซื้อ/เป้าใหม่ 14 เดิม 16.5),TOP (ปิด 69.75 ซื้อ/เป้าใหม่ 90 เดิม 105), Thailand strategy
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+) คลายกังวลสงครามการค้า ผลเจรจา จีน - สหรัฐ จบลงด้วยดี สหรัฐประกาศการเจรจาครั้งนี้จะได้ประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย : สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ (USTR) ออกแถลงการณ์ระบุการเจรจาการค้ากับจีนจะสร้างความสัมพันธ์ทางการค้าที่เป็นธรรม และ ได้รับประโยชน์ทั้ง 2 ฝ่าย จีนให้สัญญาที่จะซื้อสินค้าจำนวนมากจากสหรัฐ อาทิ สินค้าด้านการเกษตร, พลังงาน รวมทั้งสินค้าในภาคการผลิตและบริการ โดยจีนจะจัดการประชุมระดับรัฐมนตรีอีกครั้งซึ่งยังไม่ได้ระบุวันเวลาที่แน่นอน
(+) Fed minute คณะกรรมการส่วนใหญ่ส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย : วานนี้เฟดเปิดเผยรายงานการประชุมเมื่อวันที่ 18-19 ธ.ค. 2561 กรรมการเฟดส่วนใหญ่ส่งสัญญาณชะลอขึ้นอัตราดอกเบี้ย คล้ายกับนายเจอโรมพาวเวลที่ออกมาส่งสัญญาณในสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยเฟดจะพิจารณาปัจจัยแวดล้อมทางเศรษฐกิจให้มากขึ้นก่อนที่จะตัดสินใจขึ้นอัตราดอกเบี้ยในครั้งต่อไป
(+) น้ำมันดิบ WTI พุ่งแรงกว่า 2.58 $/bbl ตอบรับรายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเริ่มปรับตัวลง : ราคาน้ำมันดิบ WTI ปิดบวกต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 และเป็นการเพิ่มขึ้นในอัตราเร่งที่สูงขึ้น โดยราคา WTI เพิ่มขึ้น 2.58$/bbl (+5.2%) ปิดที่ 52.36 $/bbl โดยมีหลายปัจจัยหนุนช่วยผลักดันราคาคือ 1) ตอบรับเจรจาการค้า จีน - สหรัฐ, 2) ตัวเลขการผลิตของกลุ่ม OPEC ปรับตัวลง และ 3) รายงานสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเริ่มลดลงจากที่เคยปรับขึ้นตลอดในช่วงก่อนหน้า
(-) US shutdown ยังไม่จบการเจรจาระหว่าง ทรัมป์ กับ พรรคเดโมแคต ยังไร้ข้อสรุป : การปิดหน่วยงานราชการสหรัฐเข้าสู่วันที่ 19 ขณะที่ผลประชุมล่าสุดระหว่าง ทรัมป์ กับ พรรคเดโมแคต ยังไร้ข้อสรุป ส่งผลให้ภาวะ US Shutdown ยังคงดำเนินต่อไป โดย ทรัมป์ ออกมาทวีตข้อความระบุว่า การเจรจากกับพรรคเดโมแคต เป็นการเจรจาที่เสียเวลาเปล่า
(+/-) กลุ่มโรงพยาบาล Downside จำกัด Upside ก็จำกัด สะท้อนทิศทางเป็น Sideway รอความชัดเจน : คณะกรรมการกลางว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ (กกร.) มีมติเพิ่ม สินค้าเวชภัณฑ์และบริการรักษาพยาบาล บริการทางการแพทย์รวมถึงบริการอื่นๆ ของสถานพยาบาล เป็นสินค้าควบคุม โดยจะเสนอให้ ครม.มีมติอนุมัตในสัปดาห์หน้า ปัจจัยนี้กระทบต่อแนวโน้มผลประกอบการและ Sentiment ของหุ้นกลุ่มโรงพยาบาลโดยตรง อย่างไรก็ตามราคาหุ้นในกลุ่มปรับตัวลดลงสะท้อนปัจจัยนี้ไปบ้างแล้วทำให้ Downside ที่ราคาหุ้นจะลดลงอีกค่อนข้างจำกัด (ราคาหุ้น BDMS BCH และ BH ลดลงนับจากวันที่มีข่าว 27/12/28 ประมาณ -15.1%, -13.7% และ -9.3% ตามลำดับ) ทำให้ราคาหุ้นมีโอกาสเกิด Technical rebound แต่เนื่องจากตลาดจะต้องรอความชัดเจนในรายละเอียดของมาตรการ รวมถึงรอการอนุมัติจาก ครม.ในสัปดาห์ ทำให้เป็น Overhang จำกัดการฟื้นตัวของราคา
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี