- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 07 January 2019 21:40
- Hits: 7178
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“ดาวโจนส์ทะยาน เฟดชะลอขึ้นดอกเบี้ย”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET วานนี้ +15.10 จุด ปิดที่ 1575.13 จุด มูลค่าการซื้อขายสูงขึ้นที่ 51.4 พันล้านบาท ถือว่าปรับขึ้นสอดคล้องกับตลาดหุ้นในภูมิภาคแถบนี้ ยกเว้นบางประเทศที่ปรับลง ดัชนีปิดตลาดฯที่ยอดสูงสุดของวัน ปัจจัยบวกมาจากการเก็งกำไรการเจรจาการค้าสหรัฐกับจีนในวันจันทร์ 7 ม.ค.62 ออกมาดี แม้ปัจจัยต่างประเทศที่เป็นลบเดิมๆยังค้างคาอยู่ ส่วนผู้ขายสุทธิรายเดียวคือ สถาบัน 1.5 พันล้านบาท ด้านผู้ซื้อสุทธิคือ บัญชีหลักทรัพย์ 0.6พันล้านบาท นักลงทุนต่างประเทศ 0.6 พันล้านบาท และนักลงทุนทั่วไป 0.3 พันล้านบาท ด้านแนวโน้มตลาดและกลยุทธ์วันนี้คือ
# ระยะสั้นคาดว่า SET ไปในทางบวก หลังดาวโจนส์ทะยานราว 750 จุด ประธานเฟด นายเจอร์โรมส่งสัญญาณการชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ย ตัวเลขจ้างงานนอกภาคการเกษตรออกมาแข็งแกร่ง ลดกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอ มีความคาดหวังเจรจาการค้าที่จีนเป็นบวก ราคาน้ำมันที่ฟื้นตัวดี เมื่อสัปดาห์ที่แล้วยังมีแรงส่งที่ดีต่อหุ้นกลุ่มพลังงานบ้านเรา เงินบาทแข็งค่าขึ้น เพราะดอลลาร์อ่อน ส่งผลดีกับตลาดหุ้นไทย
# ด้านตลาดหุ้นเพื่อนบ้าน เป็นบวกถ้วนหน้าในอัตรามากกว่า 1.5% โดยเฉพาะตลาดหุ้นโตเกียวเพิ่ม 3% ดาวโจนส์ล่วงหน้า ณ 8:10 น. +160 จุดเช่นเดียวกับราคาน้ำมันล่วงหน้าก็ปรับขึ้น ส่วนสิ่งที่ยังค้างคาคือ การชัตดาวน์เป็นสัปดาห์ที่ 3 และความผันผวนของต่างประเทศ
# กลยุทธ์ คือ ทางเทคนิค นักวิเคราะห์เห็นว่า SET จะมีลักษณะผันผวน หากดัชนีฯปรับขึ้น แนวต้านเป็น 1590-1600 หากยืนได้จะเป็นสัญญาณทางบวก แต่เมื่อมีแรงขายทำกำไร ดัชนีฯอ่อนตัวลงมาอีกแนวรับจะอยู่ที่ 1550 เป็นแนวรับแรก และ 1530 เป็นแนวรับถัดไป ส่วนดัชนีฯเป้าหมายทางพื้นฐานปี 2562 เป็น1780 จุด (+0.5 SD) ด้วยคาดการณ์อัตราการเติบโตกำไรปี 61-62 ที่ +8%/+6% ตามลำดับ แนะนำทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดี เมื่อมีการปรับตัวลงแรง หุ้น TopPick ในงวด 1Q62 คือ AOT,BBL,CPALL,HANA,PTT และ WHA
# หุ้นเด่น AMATA: ยอดขายนิคมฯในงวด 4Q61 ทำได้อย่างแข็งแกร่ง ผลักดันให้ยอดขายตลอดทั้งปี 61 ดีขึ้นไปเป็น 925 ไร่ การเลือกตั้งที่มีกำหนดการใกล้เข้ามา และความคืบหน้า EEC คาดว่าจะเป็นแรงกระตุ้นสำคัญสำหรับการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) และยอดขายนิคมในไทย บริษัทมีกลยุทธ์เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ด้วยการรุกธุรกิจนิคมอุตสาหกรรมไปยังเพื่อนบ้าน CLMVเราเห็นว่าผลการดำเนินงานปี 61 ที่ผ่านมาเป็นจุดต่ำสุดแล้ว แต่ปี 62คาดว่ากำไรจะกลับมาเติบโตถึง 45% y-o-y แนะนำ ซื้อ ด้วยราคาพื้นฐาน 26.00 บาท
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นภาพตลาดยังผันผวน ลงสลับกับรีบาวด์เป็นระยะๆ ซื้อใหม่เน้นค่าบวกทั้งราคาหุ้นและดัชนี แนวต้านระยะสั้น 1590-1600 จุด, แนวรับคือ 1550, 1530 จุด หากสามารถยืนเหนือ 1590-1600 จุดได้ จึงจะเป็นสัญญาณบวกได้อีกครั้ง
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]
Inside Story
Key Drivers TODAY : ปัจจัยต่างประเทศ / ปัจจัยในประเทศ
Econ Focus : ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค.อยู่ที่ 79.4...ลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4
Company Guide : HMPRO (ซื้อ -ราคาพื้นฐาน 17.50)
In The News : ข่าวเด่น
Turnover List Watch : ไม่มีหลักทรัพย์ใดติด Cash Balance DCORP, UREKA หลุด
New Listing : SAAM
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ: เฟดส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นดอกเบี้ย
# นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย
+ สหรัฐ: ตัวเลขจ้างงานออกมาแข็งแกร่ง
# มีการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ
- สหรัฐ: "ทรัมป์"เสนอสร้างกำแพงชายแดนด้วยเหล็กแทนคอนกรีต ขณะภาวะชัตดาวน์ล่วงเข้าสัปดาห์ที่ 3
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แห่งสหรัฐยืนยันว่า เขาจะไม่หยุดการเรียกร้องให้มีการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก แต่เสนอทางเลือกให้สร้างกำแพงด้วยเหล็ก แทนที่จะสร้างด้วยคอนกรีตตามที่เคยเรียกร้องไว้ก่อนหน้านี้และถูกพรรคเดโมแครตปฏิเสธที่จะให้งบประมาณสร้าง
+ ดอลลาร์สหรัฐ : อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ
# ดอลลาร์สหรัฐอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อวันศุกร์ (4 ม.ค.)หลังจากนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย และแสดงความพร้อมที่จะเปลี่ยนแผนลดงบดุล
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ทะยาน เฟดส่งสัญญาณชะลอปรับขึ้นดอกเบี้ย
# ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 23,433.16 จุด พุ่งขึ้น 746.94 จุด หรือ +3.29% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่2,531.94 จุด เพิ่มขึ้น 84.05 จุด หรือ +3.43% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 6,738.86 จุด เพิ่มขึ้น 275.35 จุด หรือ +4.26%
# ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นกว่า 700 จุดเมื่อวันศุกร์ (4 ม.ค.) หลังจากที่นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณชะลอการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะเดียวกันตลาดยังได้รับปัจจัยหนุนจากการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดของสหรัฐ และความหวังที่ว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้า นอกจากนี้ การพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและกลุ่มอุตสาหกรรมยังเป็นอีกปัจจัยที่ช่วยหนุนตลาดเช่นกัน
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ปรับขึ้น มีความคาดหวังที่ดีเกี่ยวกับการเจรจาการค้า สหรัฐ-จีน
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 87 เซนต์ หรือ 1.85% ปิดที่ 47.96 ดอลลาร์/บาร์เรล และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบ WTI ปรับตัวขึ้นราว 5.8%
# สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. เพิ่มขึ้น 1.11 ดอลลาร์ หรือ 1.98% ปิดที่ 57.06 ดอลลาร์/บาร์เรล และตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับตัวขึ้นราว 9.3%
# สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกติดต่อกันเป็นวันที่ 5 เมื่อวันศุกร์ (4 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีความหวังว่า การเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีนจะมีความคืบหน้า นอกจากนี้ สัญญาน้ำมันดิบยังปรับตัวขึ้นหลังจากทางการสหรัฐเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด ซึ่งช่วยให้นักลงทุนคลายความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
+ ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ปิดปรับลดลง นักลงทุนเข้าหาสินทรัพย์เสี่ยง
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. ลดลง 9 ดอลลาร์ หรือ 0.7% ปิดที่ 1285.80ดอลลาร์/ออนซ์ อย่างไรก็ตาม ตลอดทั้งสัปดาห์ สัญญาทองคำปรับตัวขึ้นราว 0.2%
# สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดปรับตัวลงเมื่อวันศุกร์ (4 ม.ค.) เนื่องจากนักลงทุนลดความต้องการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากตลาดหุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง ขานรับตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐที่ขยายตัวได้ดีเกินคาดในเดือนธ.ค.
ปัจจัยในประเทศ
• PTTEP: คาดแหล่งบงกชจะเริ่มกลับมาผลิตก๊าซได้ 6 ม.ค.62 หลังพายุ"ปาบึก"เคลื่อนผ่านไปแล้ว
# บมจ.ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม (PTTEP) หรือ ปตท.สผ. แจ้งว่าพายุโซนร้อน "ปาบึก" (PABUK) ในบริเวณอ่าวไทย ได้เคลื่อนตัวผ่านแท่นผลิตก๊าซธรรมชาติของ ปตท.สผ. ในอ่าวไทยไปแล้วเมื่อเช้าวันนี้ โดยพนักงานและผู้รับเหมาทุกคนปลอดภัย (Aspen)
# ผลกระทบ: ผลกระทบจากพายุปาบึก (PABUK) จำกัดมาก โดยแหล่งที่กระทบคือบงกช ซึ่งบริษัทได้ปิดการดำเนินงานชั่วคราว 4-7 วันซึ่งทำให้ปริมาณขายลดลงไปแต่ก็จำกัดมาก (ต่ำกว่า 1% ของปริมาณการผลิตเฉลี่ยต่อวันในปี 62) และถ้าเกิดความเสียหาย บริษัทก็มีประกันความเสียหายในทรัพย์สินและการสูญเสียรายได้ (ไม่เกิน 60 วัน) รองรับ คงคำแนะนำซื้อ แต่ปรับลดราคาพื้นฐานเป็น 135 บาท (เดิม 160 บาท) หลังสะท้อนสมมติฐานและแผนการใช้เงินลงทุนใหม่ของบริษัทเข้าไปในประมาณการ ทั้งนี้มองว่าราคาหุ้นปัจจุบันน่าสนใจทยอยซื้อลงทุน เพราะ ณ ราคาปัจจุบันมี Valuationไม่แพง โดยมี P/E ปี 62 ประมาณ 11 เท่า ฐานะการเงินแข็งแกร่ง เป็นเงินสดสุทธิ และให้ Dividend Yield ไม่น้อยกว่า4% ต่อปี
• ธนาคาร: หากธนาคารอื่นๆทยอยขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตาม SCB, KBANK ส่วนแบ่งตลาดจะไม่เปลี่ยนแปลง
# ศูนย์วิจัยกสิกรไทย ระบุว่า การที่ธนาคารพาณิชย์พิจารณาปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากเพียงขาเดียว แม้ว่าสภาพคล่องยังคงอยู่ในระดับสูงนั้น เป็นการสะท้อนถึงบทบาทของธนาคารพาณิชย์ในการตอบรับต่อสัญญาณการปรับขึ้นอัตรดอกเบี้ยนโยบายของไทย ตามมติของการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) เมื่อวันที่ 19 ธ.ค.2561 ที่ผ่านมา ขณะที่หากธนาคารอื่นๆ ทยอยขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำตามมาในลักษณะเดียวกัน ก็น่าจะทำให้ส่วนแบ่งตลาดเงินฝากไม่ปรับเปลี่ยนไปจากภาพเดิมมากนัก (Aspen)
# ผลกระทบ: DBSVTH คาดว่าธนาคารอื่นๆ จะขยับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินฝากตามมาในเร็วๆ นี้ และจะมีการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเงินกู้ในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้านี้ เพื่อบริหารส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยไม่ได้แคบลง ประมาณการว่ากำไรสุทธิจะเติบโต 4% ในปี 62 ทีมกลยุทธ์แนะนำ ซื้อ BBL ราคาพื้นฐาน 260.00 บาท และ TISCO ราคาพื้นฐาน 102.00 บาท
-ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ธ.ค.61 ปรับตัวลดลง
# ศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค เดือนธ.ค.61 อยู่ที่79.4 จาก 80.5 ในเดือน พ.ย.61 โดยดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค ปรับตัวลดลงต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 4 จากความกังวลเรื่องสงครามการค้า และกรณีนักท่องเที่ยวจีนลดลง นอกจากนี้ ยังมีปัจจัยลบจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% และปรับลดอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจ (GDP) ของไทยในปี 61 และปี 62, ภาคการส่งออกในเดือนพ.ย. 61 ลดลง 0.95%, ราคาพืชผลเกษตรทรงตัวในระดับต่ำ (Aspen)
นักวิเคราะห์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : [email protected]