WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บล.โกลเบล็ก : รายงานภาวะตลาดหุ้นรายวัน

Market View : แนวรับSMA5วัน 1,583
Technical : แนวรับ : 1,583 /1,577 / 1,551 แนวต้าน : 1,592 / 1,601
หุ้นแนะนำพิเศษ : PTT แนวรับ 353 /355 แนวต้าน 365 / 370
หุ้นเด่นรายวัน : OTO VGI

  วันจันทร์ตลาดหุ้นไทยเดินหน้าปิดบวก ดัชนี SET ปิดที่ระดับ 1,589.51 จุด เพิ่มขึ้น 4.60 จุด(+0.29) มูลค่าการซื้อขาย 44,229.36 ล้านบาท นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิอีก 677.69 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นไทย ทางฝ่ายวิจัย บล.โกลเบล็กฯ คาดมีแนวโน้มผันผวนในกรอบ 1,553-1,601 ระดับดัชนีทดสอบจุดสูงเดิมยังไม่ผ่านยืนแต่การปิดใกล้เคียงคาดเป็นผลจากการที่ตลาดคาดหวังหรือเข้าเก็งกำไรก่อนการทำปิดรอบบัญชีปลายสัปดาห์นี้ต่อเนื่องต้นสัปดาห์หน้า และยังมีการคาดหวังถึงการปรับเปลี่ยนกฎอัยการศึกซึ่งจะทำให้เกิดแรงซื้อเพิ่มขึ้นของนักลงทุนต่างชาติ ในขณะที่ SET50 ระยะสั้นสร้างจุดสูงใหม่และปิดตัวด้วยแท่งเทียนเชิงบวก แนวต้าน 1,064-1,065 ผ่านขึ้นมาเหนือได้มั่นคงเป็นการเปลี่ยนรูปแบบBullish Flag GFV14 เก็งกำไรในกรอบ 18,490-18,960 GFZ14 เก็งกำไรในกรอบ 18,540-19,010
  กลยุทธ์ ตลาดมีแรงซื้อเป็นรายหลักทรัพย์ในลักษณะของการเล่นรอบระหว่างวัน คาดแรงซื้อบางส่วนเป็นการซื้อถือช่วงระยะสั้นโดยคาดหวังเรื่องของการทำปิดรอบบัญชี กลุ่มพลังงาน PTTEPปรับตัวลงซื้อ หรือซื้อระยะสั้นPTT BANPU EARTH กลุ่มสื่อสาร ADVANC INTUCH TRUE JTS กลุ่มอสังหาฯ N-PARK LH AP SENA หุ้นรายหลักทรัพย์ KTB CMO AOT ระยะกลาง ถือ / รอขายบางส่วน

หุ้นแนะนำพิเศษ
  PTT (ปิด 358 ซื้อเป้าปี 57: 375) รับอานิสงส์กระทรวงพลังงานเตรียมปรับโครงสร้างราคาพลังงานให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง โดยจะทยอยปรับราคา LPG และ NGV ในภาคขนส่งตั้งแต่เดือนต.ค.นี้ เป็นต้นไป คาดเป็นบวกกับ PTT โดยเฉพาะการขึ้นราคา NGV ซึ่งเบื้องต้นเราประเมินว่าทุกๆ 50 สตังค์ต่อก.ก.ที่มีการปรับขึ้นจะทำให้ PTT มีกำไรรวมเพิ่มขึ้น 1,600 ล้านบาทคิดเป็น 1.5%ของกำไรทั้งหมดและหากมีการปรับราคา NGV เพิ่มขึ้นจนเท่ากับต้นทุนที่แท้จริงในปัจจุบันที่ 15.5 บาท/ก.ก.จะทำให้ PTT มีกำไรสุทธิรวมเพิ่มขึ้นประมาณ 16,000 ล้านบาทคิดเป็น 15%ของกำไรสุทธิรวมในปีนี้และจะเพิ่มมูลค่าเหมาะสมให้กับ PTT อีก 58 บาท/หุ้น

หุ้นเด่นรายวัน
  OTO (ปิด 7.25 ซื้อเก็งกำไร) ผู้บริหารคาดรายได้ในปีนี้เติบโตตามเป้า โดยคาดว่าจะมีรายได้ประมาณ 1,000 ล้านบาทเพิ่มขึ้นจาก 692 ล้านบาทในปีที่ผ่านมาเป็นผลจากทุกธุรกิจมีการเติบโตอย่างต่อเนื่องอีกทั้งในปัจจุบันยังมีงานในมือรอรับรู้รายได้ (Backlog) อีกกว่า 1 พันล้านบาท ขณะเดียวกันบริษัทยังเตรียมแผนงานในอนาคต ด้วยการหาพาร์ตเนอร์ร่วมทุนเพื่อขยายธุรกิจไปต่างประเทศซึ่งเริ่มจากกัมพูชาที่น่าจะได้เซ็นสัญญาเร็วๆนี้หลังจากนั้นจะเข้าศึกษาตลาดในพม่าและลาวต่อ(ที่มา : ทันหุ้น)
  VGI (ราคาปิด 12.40 ซื้อเก็งกำไร) งบ Q2 (ก.ค.-ก.ย. 57) มีแนวโน้มสดใสรายได้โต บุ๊ครายได้โฆษณาเพิ่มขึ้น หลังเม็ดเงินโฆษณาฟื้นตัว ย้ำรายได้ปี 57/58 โตตามเป้า 13-17% ส่วนแผนซื้อหุ้นเพิ่มทุน TH ยังเหมือนเดิม หวังขึ้นแท่นเบอร์ 1 สื่อป้ายโฆษณากลางแจ้ง (ที่มา : ข่าวหุ้น)

รายชื่อหลักทรัพย์ที่ติดเกณฑ์บัญชี Cash Balance
* TH มีผลบังคับใช้ 4 ส.ค. - 26 ก.ย. 57
* AJP/ SOLAR / SUPER /VIH มีผลบังคับใช้ 25 ส.ค. - 3 ต.ค.57
* ACD / DIMET / EMC / EVER/ GENCO/ SST/TAKUNI มีผลบังคับใช้ 1 ก.ย. - 10 ต.ค. 57
* BKD / CSS / SUPER-W1 / TFI มีผลบังคับใช้ 8 ก.ย. - 17 ต.ค. 57
* ABC / BMCL / E / EE / KC / MAX / NUSA / RASA / RPC / SEAOIL / SPVI มีผลบังคับใช้ 15 ก.ย. - 24 ต.ค. 57
* CHUO / CKP / EIC / GUNKUL / MILL-W2 / MLINK / PAE / PF / TCC / XO มีผลบังคับใช้ 22 ก.ย. - 31 ต.ค. 57
***เนื่องจากการลงทุนในหลักทรัพย์ ดังกล่าวมีการซื้อขายผิดไปจากสภาพปกติของตลาดดังนั้นผู้ลงทุนควรศึกษาข้อมูลก่อนการตัดสินใจลงทุน

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ
ตลาดหุ้นดาวโจนส์ : ลดลง 107.06 จุด
  ดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ปิดตลาดปรับตัวลดลง 107.06 จุด เนื่องจากนักลงทุนผิดหวังกับข้อมูลภาคที่อยู่อาศัยที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยเมื่อวานนี้สมาคมนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แห่งชาติของสหรัฐ (NAR) เปิดเผยว่า ยอดขายบ้านมือสองในเดือนส.ค.ลดลง 1.8% สู่ระดับ 5.05 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ5.20 ล้านยูนิต นอกจากนี้ตลาดยังถูกกดดันจากแนวโน้มการเติบโตของเศรษฐกิจจีน หลังจากนายโหลว จี้เหว่ย รมว.คลังของจีนกล่าวว่า จีนจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงนโยบายขนานใหญ่ แม้ว่าเศรษฐกิจจีนกำลังเผชิญแรงกดดันในช่วงขาลงก็ตาม ทำให้ปิดตลาดดัชนีดาวโจนส์ ลดลง 107.06 จุด หรือ -0.62% ปิดที่ 17,172.68 จุด ดัชนี NASDAQ ลดลง 52.10 จุด หรือ -1.14% ปิดที่ 4,527.69 จุด ดัชนี S&P500 ลดลง 16.11 จุด หรือ -0.80%ปิดที่ 1,994.29 จุด

ตลาดน้ำมัน NYMEX : ลดลง 0.89 ดอลลาร์/บาร์เรล
  ราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ส่งมอบเดือนต.ค.ลดลง 89 เซนต์ เนื่องจากความวิตกกังวลเกี่ยวกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจสหรัฐและจีน รวมทั้งความกังวลเกี่ยวกับอุปทานพลังงานที่เพิ่มขึ้นจากตะวันออกกลาง โดยเมื่อวานนี้สหรัฐรายงาน ยอดขายบ้านมือสองในเดือนส.ค.ลดลง 1.8% สู่ระดับ 5.05 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นการปรับตัวลงครั้งแรกในรอบ 5 เดือน และสวนทางกับที่นักวิเคราะห์ส่วนใหญ่คาดว่าจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ5.20 ล้านยูนิต ขณะที่รัฐมนตรีกระทรวงการคลังของจีนประกาศว่าจีนจะยังไม่มีการออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากรายงานที่ว่า บ่อน้ำมันซาฮารา ซึ่งเป็นบ่อน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของลิเบีย ไม่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โจมตีเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว และจะเริ่มกลับมาดำเนินการผลิตได้อีกครั้งในเร็วๆนี้ ทำให้ปิดตลาดราคาน้ำมันดิบที่ตลาดล่วงหน้า NYMEX ลดลง 89 เซนต์ ปิดที่ 91.52 ดอลลาร์/บาร์เรลส่วนน้ำมันดิบ BRENT ส่งมอบเดือนพ.ย.ลดลง 1.42 ดอลลาร์ ปิดที่ 96.97 ดอลลาร์/บาร์เรล

Analyst :
ธวัชชัย 02-6725993 [email protected]
วิลาสินี 02-6725937 [email protected]
อาทิตย์ [email protected]
Assistant - ณัฐวุฒิ วงศ์เยาวรักษ์

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!