- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 28 December 2018 13:42
- Hits: 3355
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ปรับตัวลง -8.56 จุด (-0.55%) ปิดที่ 1,548 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.9 หมื่นล้านบาท สวนทางตลาดหุ้นภูมิภาคที่ปรับตัวขึ้นเนื่องจากแรงขายกลุ่ม Health ตามกระแสข่าวก.พาณิชย์เตรียมแก้ไขปัญหาค่ารักษาที่สูงของโรงพยาบาลเอกชน ประกอบกับความผันผวนจากแรงขายเปลี่ยน Series ปิดสถานะคงค้างในตลาด TFEX สัญญาเดือนธ.ค. ส่งผลให้ดัชนีปรับตัวลง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 1,833 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 3,220 ล้านบาท นอกจากนี้ยัง Net Short TFEX 1,778 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index แกว่งตัวในกรอบ 1,540 – 1,560 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ sentiment เชิงบวกจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ดีดตัวขึ้นตอบรับข่าวคณะผู้แทนสหรัฐจะเดินทางไปจีนเพื่อเจรจาการค้าในวันที่ 7 ม.ค.ปีหน้า ทำให้ความกังวลปัญหา Trade war ผ่อนคลายลง ประกอบกับแรงซื้อกองทุน LTF/RMF ช่วงปลายปีจะช่วยหนุนต่อภาวะตลาดในช่วงนี้ อย่างไรก็ตามความกังวลกระแส Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องตามทิศทางการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟดรวมถึงความกังวลภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวจะยังเป็นแรงกดดัน นอกจากนี้แรงขายลดความเสี่ยงลงก่อนหยุดยาวเทศกาลปีใหม่ก็จะยิ่งส่งผลให้ดัชนีมีความผันผวนสูงด้วยเช่นกัน
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BDMS, BCH และ TTW
กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ
กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้ : BEM (ปิด 9.65 ซื้อ/เป้า 11.5) ข่าวดีกกพ.ต่อสัญญาสัมปทานทางด่วนออกไปอีก 37 ปี มากกว่าที่ตลาดและเราคาดไว้ 20 และ 30 ปี ตามลำดับ เพิ่ม Valuation ให้ BEM 2.9 บาทต่อหุ้น อีกทั้งยังปลดล็อก Overhang ของสัญญาสัมปทานเดิมที่จะหมดอายุในปี 2020, MTC (ปิด 48.25 ซื้อ/เป้า 58) คาดรายได้และกำไรยังมีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่องจากการขยายสาขาและการปล่อยสินเชื่อที่เร่งตัวขึ้น
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : -
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+) ดาวโจนส์ปิดบวก 260.37 จุดรับแรงซื้อช่วงท้ายตลาด : โดยหุ้นกลุ่มวัสดุและกลุ่มอุตสาหกรรมดีดตัวขึ้นขานรับความหวังการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังบลูมเบิร์กรายงานว่าคณะผู้แทนสหรัฐจะเดินทางไปเยือนจีนในวันที่ 7 ม.ค.ปีหน้า เพื่อเจรจาการค้ากับเจ้าหน้าที่ของจีน ขณะที่นายเกา เฟิง โฆษกกระทรวงพาณิชย์ได้ออกแถลงการณ์ยืนยันด้วยเช่นกัน อย่างไรก็ตามนักลงทุนยังคงจับตาสถานการณ์ชัตดาวน์หน่วยงานบางส่วนของรัฐบาลชั่วคราวที่มีแนวโน้มยืดเยื้อไปจนถึงวันที่ 3 ม.ค.ปีหน้า เนื่องจากปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ปฏิเสธที่จะลงนามในร่างกฎหมายงบประมาณที่ไม่รวมงบประมาณการสร้างกำแพงกั้นชายแดนเม็กซิโก
(-) สัญญาน้ำมันดิบ WTI เดือนก.พ. ร่วงลง 1.61 ดอลลาร์ หรือ 3.5% ปิดที่ 44.61 ดอลลาร์/บาร์เรล : เนื่องจากนักลงทุนกลับมากังวลภาวะน้ำมันล้นตลาด โดยเฉพาะการผลิตน้ำมันในสหรัฐที่เพิ่มขึ้น โดยเบเกอร์ ฮิวจ์เปิดเผยว่าแท่นขุดเจาะน้ำมันในสหรัฐที่มีการใช้งานเพิ่มขึ้น 10 แท่น สู่ระดับ 883 แท่นในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดตั้งแต่ต้นเดือนพ.ย. รวมถึงการผลิตน้ำมันในสหรัฐยังคงอยู่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7 ล้านบาร์เรล/วัน
(+/-) ECB คาดเศรษฐกิจโลกชะลอตัวลงปีหน้า แต่แรงกดดันเงินเฟ้อน่าจะขยายตัว : ธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกน่าจะชะลอตัวลงในปีหน้า แต่จะกลับมามีเสถียรภาพหลังจากนั้น เนื่องจากต้นทุนการกู้ยืมในสกุลเงินดอลลาร์ปรับตัวเพิ่มขึ้นตามธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ปรับขึ้นดอกเบี้ยรวมถึงข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐกับจีน แต่แรงกดดันเงินเฟ้อน่าจะยังคงขยายตัวทั่วโลก แต่จะอยู่ในลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ทั้งนี้ ECB ประกาศปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวทางเศรษฐกิจของยูโรโซนในปีนี้ สู่ระดับ 9% (จากเดิม 2.0%) และปีหน้าปรับลงสู่ระดับ 1.7% (จากเดิม 1.8%)