- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 27 December 2018 14:36
- Hits: 5017
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Market Outlook
วานนี้ SET Index ปิดที่ 1,556.93 จุด +0.28 จุด (+0.02%) มูลค่าซื้อขายราว 3 หมื่น ลบ. โดยต่างชาติขายสุทธิ 2.29 พัน ลบ.สวนทางกับสถาบันซื้อสุทธิ 2.5 พัน ลบ. ส่วนวันนี้คาด SET Index รีบาวด์ปรับขึ้นต่อ โดยประเมินแนวต้านที่ 1,576 จุด และแนวรับที่ 1,550 จุด ก่อน หากผ่านได้คาดดัชนีจะค่อยๆปรับขึ้นต่อจนปิด Gap ที่ 1,591 จุดภายในสิ้นปีนี้หรือต้นปีหน้า โดยมีแรงหนุนจากตลาดหุ้นต่างประเทศ และราคาน้ำมันที่ปรับขึ้นแรง
Market Factors
(+) ตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้มีแรงซื้อรีบาวด์กลับมาแรง หนุนด้วยการปรับขึ้นของหุ้นกลุ่ม ค้าปลีกที่ได้อานิสงส์บวกจากยอดขายช่วงเทศกาลที่โตสุดในรอบ 6 ปี และหุ้นกลุ่มพลังงานที่ปรับขึ้นตามราคาน้ำมันดิบ อย่างไรก็ดีเรายังคงมุมมองเชิงระมัดระวังต่อตลาดหุ้นต่างประเทศในภาพรวม เนื่องจากปัจจัยหลักที่กดดันตลาดยังไม่มีพัฒนาการที่ชัดเจน ทั้งการปิดหน่วยงานรัฐฯ ของสหรัฐฯ, สงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน, สภาพคล่องทางการเงินที่ลดลงจากการปรับนโยบายของธนาคารกลาง และดีมานด์ในหลายประเทศที่ชะลอตัว ทำให้เรายังแนะนำให้นักลงทุนรอจับตาความคืบหน้าในประเด็นดังกล่าวในช่วงต้นปี 62
(+) สศค. เผยดัชนีความเชื่อมั่นอนาคตเศรษฐกิจภูมิภาค (RSI) เดือน ธ.ค. อยู่ในเกณฑ์ดี นำโดยภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยได้รับแรงหนุนจากภาคเกษตรกรรมและภาคอุตสาหกรรมเป็นสำคัญ (ประชาชาติธุรกิจ)
(+) สศค. เผยรายงานภาวะเศรษฐกิจการคลังเดือน พ.ย.61 ว่า มีแรงขับเคลื่อนจากอุปสงค์ในประเทศ โดยการบริโภคภาคเอกชน สะท้อนจากภาษีมูลค่าเพิ่ม ณ ราคาคงที่ โต 9.6% ต่อปี และการลงทุนภาคเอกชน โดยเฉพาะการลงทุนในหมวดเครื่องมือเครื่องจักร สะท้อนจากปริมาณจำหน่ายรถยนต์เชิงพาณิชย์ โต 26.9% ต่อปี สำหรับด้านอุปสงค์ภายนอกประเทศจากการส่งออกสินค้ามีสัญญาณทรงตัวเทียบกับปีก่อนหน้า ขณะที่จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาขยายตัวเป็นบวก โดย สศค.ประเมินว่า เศรษฐกิจไทยช่วง 4Q61 จะโต QoQ จากทั้งการบริโภคภาคเอกชนและการลงทุนของภาครัฐในปีหน้า (ประชาชาติธุรกิจ)
Investment Strategy
สัปดาห์สุดท้ายของปีนี้ เรายังมองดัชนีจะยืนเหนือแนวรับ 1,550 จุดจนถึงสิ้นปีนี้ และอาจปรับขึ้นต่อเพื่อปิด Gap 1,591 จุดในช่วงต้นปีหน้า โดยมีแนวรับ-แนวต้านที่ 1,550-1,600 จุด (Fwd PE Valuation ที่ 14.2-14.7) ซึ่งเราเริ่มเห็นสัญญาณรีบาวด์ของราคาน้ำมันดิบหลัง Downside Risk ค่อนข้างจำกัด แต่อย่างไรก็ดี นักลงทุนยังต้องระวังประเด็น Trade Wars สหรัฐฯ-จีนที่ไม่ชัดเจน ดังนั้นในช่วงนี้เราแนะนำทยอยสะสมหุ้น Domestic Play ขนาดกลาง-ใหญ่ 3 กลุ่มที่มีปัจจัยหนุนเฉพาะกลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มสื่อ ซึ่งมีฐานต่ำในปีก่อน จากได้รับผลกระทบจากการขึ้นป้ายไว้อาลัยบวกกับคาดเม็ดเงินโฆษณามีทิศทางสดใสขึ้นรับผลบวกในช่วงเม็ดเงินโฆษณาภาคเอกชนยังโตต่อเนื่อง แนะนำ PLANB (แผนขยาย Media Capacity 15-20%YoY ให้ครอบคลุมพื้นที่มากขึ้น และสร้างจุดเด่นด้วย Engagement Marketing พร้อมแผนต่อยอดธุรกิจ Sport Marketing ด้วยการลงทุนในร้านนำเข้าสินค้ากีฬาภายใน้แบรนด์ ATMOS), VGI (รับรู้รายได้ป้ายโฆษณาบนสถานี BTS ที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่ ส่วน MACO ยังมีผลดำเนินงานดีต่อเนื่องจากแผนปรับปรุงจอโฆษณาจาก Static เป็น Digital ในหลายพื้นที่ บวกกับคาดมีแรงหนุนจากSynergy ในกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น พร้อมแผน M&A อีก 2-3 บริษัทในปีหน้าเพื่อก้าวสู่การเป็น Marketing Solution), และ MAJOR (รายได้ธุรกิจโรงหนังที่มีแนวโน้มปรับตัวดีตามไลน์หนังฟอร์มยักษ์มีความน่าสนใจมากขึ้น สะท้อนได้ด้วยรายได้ Box Office เดือน ต.ค. โต 28.8%YoY บวกกับมีหนังไทยที่ทำเงินดีอย่าง นาคี 2 (441.2 ลบ.) ขณะที่ธุรกิจสื่อคาดได้แรงหนุนจากการเซ็นสัญญาให้บริการลูกค้าใหม่ที่เลื่อนมาจากช่วง 3Q61)
2. กลุ่มค้าปลีก มองช่วง 4Q61 กำลังซื้อจะดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่อยู่ในช่วงไว้อาลัยนอกจากนี้ปีหน้ายังมีอานิสงส์บวกจากมาตรการคืนVAT 5% ให้ประชาชนทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตผูกบัญชีพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 1-15 ก.พ. 62 เพื่อกระตุ้นนโยบาย E-Payment เลือก ROBINS (คาดโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเพราะเปิดสาขาใหม่ และกลยุทธ์ปรับ Product Mixed มาเน้นขายสินค้าในกลุ่ม Private Brand มากขึ้น) และ CPN (คาดโตจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ และการปรับปรุงศูนย์การค้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว ควบคู่กับการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน โดยปัจจุบัน CPN บริหารจัดการศูนย์การค้า 33 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.7 ล้าน ตร.ม. เพิ่มจาก 1.6 ล้าน ตร.ม. ณ สิ้นช่วง 3Q60)
3. กลุ่มนิคม มองได้อานิสงส์บวกจากการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้าชัดเจนขึ้นคาดหนุนทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำ AMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมไม่ต่ำกว่า1,000 ไร่พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า1 แสน ตรม.)
AECS - Fundamental and Strategic Team
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary