- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 25 December 2018 21:40
- Hits: 5030
บล.ฟินันเซีย ไซรัส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
กลยุทธ์วันนี้ >> Stay in Domestic and Defensive Play
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index เคลื่อนไหวทรงตัวด้วยปริมาณการซื้อขายที่เบาบาง เพราะเป็นช่วงหยุดยาวของนักลงทุนต่างชาติ กลุ่มนำตลาดเป็นขนส่งและท่องเที่ยวที่ได้แรงหนุนจาก High Season ขณะที่ ต่างชาติขายสุทธิ 376 ลบ. ส่วนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิ 1,084 ลบ. อย่างไรก็ตาม นักลงทุนทั้ง 2 กลุ่มได้ Long ใน Index Futures 9,621 สัญญา และ 1,403 สัญญา ตามลำดับ
แนวโน้มตลาดวันนี้ : SET Index มีแนวโน้มอ่อนตัวตามตลาดต่างประเทศที่ร่วงแรงเพราะกังวลกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า การเมืองในสหรัฐหลังชัตดาวน์หน่วยงานรัฐบางส่วนและการแทรกแซงธนาคารกลาง รวมถึงราคาน้ำมันที่ปรับลงหนัก แต่ปริมาณการซื้อขายที่เบางบาง แรงซื้อ LTF/RMF และแรงเก็งกำไร Window dressing น่าจะช่วยประคองดัชนีให้ปรับลงจำกัด เรายังเน้นลงทุนหรือพักเงินในหุ้นกลุ่ม Domestic และ Defensive Play
กลยุทธ์ : ยังคงเน้นลงทุน Domestic และ Defensive Play
หุ้นเด่นเดือนธ.ค. : ADVANC, AOT, BCH, CK, SISB
(FSS เป็นที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดจำหน่ายหุ้น IPO ของ SISB)
Fund Flow วานนี้กระแสเงินทุนไหลออกจากภูมิภาค US$120 ล้าน เม็ดเงินส่วนใหญ่ไหลออกจากไต้หวัน US$101ล้าน ส่วนไทยมีเม็ดเงินไหลออก US$12ล้าน ขณะที่ไหลเข้าเวียดนาม US$3ล้าน แนวโน้มกระแสเงินทุนมีทิศทางไหลออกจากภูมิภาคเนื่องจากความกังวลสภาพคล่องจากการปิดหน่วยงานภาครัฐของสหรัฐและกังวลภาวะเศรษฐกิจโลก
ชวนเม้าท์หุ้นเด่น >> MTC <<
- แนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2019 เท่ากับ 60 บาท
- คาดกำไรสุทธิ 4Q18 ทำจุดสูงสุดใหม่ที่ 1 พันลบ. +35% Y-Y จาก High Season และเพิ่มสาขาใหม่ต่อเนื่อง ส่วนกำไรทั้งปีคาดไว้ที่ 3.8 พันลบ. +52% Y-Y และคาดโตต่อเนื่องอีก 42% Y-Y อยู่ที่ 5.4 พันลบ. ในปีหน้า
- เป็นหุ้นที่มีโอกาสทุกทำ Window Dressing เพราะเป็น Domestic Play ที่ราคาหุ้นยังใกล้เคียงกับ 3Q18
ประเด็นสำคัญวันนี้
(0) ราคาทองคำปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง จากแรงหนุนของการถูกใช้เป็น Safe Haven และ Dollar Index ที่อ่อนตัวลง รวมถึงการเพิ่มสถานะในทุนสำรองของธนาคารกลาง อีกทั้ง ยังเป็นสินทรัพย์เดียวที่ตลาดทั่วโลกเปิดให้ซื้อขายจนถึงปีใหม่ ซึ่งราคามักปรับตัวขึ้นในช่วงปลายปี ระยะสั้นมีแนวโน้มขึ้นทดสอบ $1,300/Oz ใกล้เคียงราคาปิดปีก่อน เรายังแนะนำให้ใช้ทองคำเป็นส่วนหนึ่งของการ Asset Allocation (ประมาณ 5-10% ของพอร์ตการลงทุน) โดยคาดกรอบการเคลื่อนไหวที่ $1,245-1,300/Oz และคาดกรอบของ GLD ที่ 1.70-1.83 บาท
(0) ต่างชาติเริ่ม Roll Over สถานะใน TFEX โดยถ้าพิจารณาจากยอด Long และ Short ใน SET50 Index Futures ของต่างชาติจะพบว่าหนาแน่นมาตั้งแต่วันศุกร์สัปดาห์ก่อน ซึ่งแม้วานนี้จะเห็นการ Roll Over ฝั่ง Long ราว 9,621 สัญญา แต่ถ้าไปหักลบกับที่ Net Short วันศุกร์ 12,397 สัญญา ถือว่าการ Roll Over ยังเป็นฝั่ง Short อยู่เล็กน้อย 2,776 สัญญา โดยถ้านับเฉพาะ 4Q18 ต่างชาติ Short สะสมใน SET50 Index Futures อยู่ 73,203 สัญญา ถ้า Roll Over ฝั่ง Short ไปน้อยกว่านี้จะเป็นบวก แต่ถ้ามากกว่านี้จะเป็นลบ ซึ่งถ้าพิจารณาควบคู่กับค่า Basis ของ S50H19 ที่กว้างขึ้น เราตีความว่าต่างชาติจะ Roll Over ฝั่ง Short ไปน้อยลง ซึ่งก็สะท้อนถึงมุมมองเชิงบวกที่มีต่อ SET50 มากขึ้นนั่นเอง
(+) กลุ่มธนาคาร รายงานสินเชื่อเดือน พ.ย. 18 เพิ่มขึ้น 0.78% M-M หรือ 8.26 หมื่นลบ. TMB เพิ่มมากที่สุด 2.25% M-M หรือราว 1.42 หมื่นลบ. ส่วนใหญ่เป็นการเติบโตของสินเชื่อกลุ่มที่อยู่อาศัย ส่วน SCB มีสินเชื่อเพิ่มขึ้นน้อยที่สุด +0.07%M-M เป็นที่น่าสังเกตว่าธนาคารที่ให้สินเชื่อเช่าซื้อ (TISCO, KKP และ TCAP) มีสินเชื่อเติบโตที่ราว 0.7%M-M โดยเฉพาะ TISCO ที่มีสินเชื่อเติบโตดีที่สุดในรอบ 1 ปีเนื่องจากการสต็อครถเพื่อขายปลายปี รวม 11M18 สินเชื่อของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 4.23%YTD โดย KKP มีการเติบโตของสินเชื่อที่ +16.50% YTD ขณะที่ TISCO มีสินเชื่อลดลง 4.7% YTD เราคาดว่ากลุ่มธนาคารจะมีสินเชื่อในปี 2018 อยู่ที่ราว 5-6% YTD และน่าจะดีขึ้นในปี 2019 7-8% YTD คงคำแนะนำ Overweight โดย Top Pick คือ KBANK (2019 TP 238 บาท) และ BBL (2019 TP 245 บาท) และ แนะนำ ซื้อเก็งกำไร TMB (2019 TP 2.64 บาท)
(+) กลุ่มท่องเที่ยว เราคาดหวังการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมท่องเที่ยวในปี 2019 โดยคาดจำนวนนักท่องเที่ยวยังเติบโตได้ต่อเนื่องเป็น 40 ล้านคน +4.7% Y-Y โดยยังมองว่าการหดตัวของนักท่องเที่ยวจีนใน 2H18 ยังมาจากประเด็นความเชื่อมั่นหลังเรือล่มที่ภูเก็ตมากกว่าปัจจัยด้านเศรษฐกิจเพราะการเดินทางไปต่างประเทศของคนจีนโดยรวมยังเติบโต 10% Y-Y นอกจากนี้ภาคการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในเครื่องยนตร์หลักสำหรับการเติบโตของเศรษฐกิจไทยและคิดเป็นสัดส่วนถึง 11.8% ของ GDP ทำให้เราเชื่อว่าจะเห็นมาตรการกระตุ้นจากภาครัฐออกมาเพิ่มเติมหากนักท่องท่องเที่ยวจีนฟื้นตัวช้า ทำให้เราคาดว่ากำไรปกติของกลุ่มท่องเที่ยวจะเติบโตในอัตราเร่ง +26% Y-Y ในปี 2019 เราจึงยังคงน้ำหนักการลงทุน "Overweight" โดยเลือก Top Pick เป็น ERW
(+) AOT แผนพัฒนาอาคารผู้โดยสาร 2 ตรงฝั่งทิศเหนือ (แยกจากตัวอาคารเดิม) สามารถดำเนินการได้ไม่ผิด ICAO แต่ยังต้องรอคณะกรรมการร่วมสายการบินพิจารณาในช่วง ม.ค. 19 ถ้าอนุมัติจะดำเนินการก่อสร้างต่อไป ส่วนการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ที่รวมเฟส 2 และสนามบินภูมิภาคเข้ามาด้วย จะนำ TOR เข้าบอร์ด ม.ค. 19 เช่นกัน และคาดว่าจะรู้ผลผู้ชนะ พ.ค. 19 ซึ่งจะเป็นตัวหนุน Upside ระยะยาวให้กับ AOT ส่วนภาพระยะสั้นมีปัจจัยบวกตามฤดูกาลที่เป็น High Season และโอกาสที่จะถูกทำ Window Dressing เรายังแนะนำซื้อ ราคาเป้าหมายปี 2019 เท่ากับ 73 บาท
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
25 ธ.ค. - หลายตลาดปิดทำการเนื่องในเทศกาลคริสต์มาส
26 ธ.ค. - ญี่ปุ่น: ประชุม BOJ
27 ธ.ค. - สหรัฐฯ: ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค
31 ธ.ค. - จีน: PMI ภาคการผลิต ธ.ค.
(-) ตลาดสหรัฐปรับตัวลง หลังการเจรจาเพื่อยุติ Government Shutdown บางส่วน ยังคงไม่มีความคืบหน้าใดๆ
(-) ตลาดหุ้นยุโรปปรับตัวลง จากความไม่แน่นอนทางเศรษฐกิจและนโยบายของสหรัฐ
(-) ภาพรวมตลาดเอเชียเช้านี้ปรับตัวลงจาก Sentiment เชิงลบจากสหรัฐ
(+) ค่าเงินบาทแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ล่าสุดอยู่ที่บริเวณ 32.57 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ
(-) ราคาน้ำมันดิบ NYMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. ลดลง -6.7% มาอยู่ที่ 42.53 ดอลลาร์/บาร์เรล จากความกังวลด้านเศรษฐกิจโลกในปีหน้า
(+) ค่าการกลั่นสิงคโปร์ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 3.30 ดอลลาร์/บาร์เรล
ราคาทองคำ COMEX ส่งมอบเดือน ก.พ. เพิ่มขึ้น 13.70 ดอลลาร์มาอยู่ที่ 1271.8 ดอลลาร์/ออนซ์