- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 25 December 2018 16:37
- Hits: 1823
บล.ธนชาต : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
Thanachart’s The Early Bird
เกิดอะไรขึ้นวันก่อน SET เคลื่อนไหวแคบ ปิด -0.25% ที่ 1,591.29 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.8 หมื่นล้านบาท นักลงทุนต่างชาติขาย 376 ล้านบาท
เรามองอย่างไร:
แม้เข้าสู่ช่วงสัปดาห์สุดท้ายก่อนหยุดยาวสิ้นปี แต่นักลงทุนต่างชาติยังปรับพอร์ตต่อเนื่อง นำโดยหุ้นกลุ่มธนาคารอ่อนแอกว่าตลาด ขณะที่กลุ่มหุ้นที่แข็งแรงเป็นกลุ่มหุ้นที่มีประเด็นบวกรายตัวอย่าง BEM และกลุ่มท่องเที่ยวที่เริ่มเห็นการฟื้นตัวของนักท่องเที่ยวเดือน พ.ย. +4.5%...กระแสเงินทุนไหลเข้าสู่ Safe Haven อย่างพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ และทองคำ ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงยังถูกลดน้ำหนักลงต่อ โดย Dow Jones ปรับลดลงแรง 2.9%และน้ำมันดิบ Brent –6.2% เมื่อคืนนี้ จะกดดัน SET ไปที่แนวรับอิงเส้นค่าเฉลี่ย 200 สัปดาห์ 1,578 จุด
ทำอะไรดี:“จำกัด” พอร์ตหลักจนกว่า SET จะสามาถยืนได้เหนือ 1,620 จุด ขณะที่การ“เก็งกำไร” เน้นไปที่กลุ่มหุ้นที่ได้ผลดีจากราคาน้ำมันปรับลดลงแรง 1) กลุ่มสายการบิน AAV (กรอบ 4.14-4.32 บาท) รวมถึงกลุ่มหุ้นที่ได้ผลดีจากเงินเฟ้อต่ำ + ดอกเบี้ยนิ่ง อย่าง 2) กลุ่ม Micro Finance SAWAD (กรอบ 46-48.25 บาท) MTC (กรอบ 48.5-51.25 บาท) 3) ปันผลสูงกว่า 7% แต่sentiment อ่อนแอ เน้น “สะสม” เมื่ออ่อนตัว อย่าง KKP TISCO
Tactical Portfolio (1-3 months): (หน้า 2)แนะนำ “ถือ” AMATA CPALL COM7 CPN HMPRO EA RSROBINS STEC และถือเงินสดในสัดส่วน 10%...TacticalWeekly ลุ้นทำ Window dressing หนุน SET ยืนได้เหนือ1,602 จุด โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ที่สภาพคล่องน้อย แต่พื้นฐานไม่แย่ อย่าง DTAC PTTGC TOP THANI SAWAD MTC
Fundamental: (หน้า 5)GULF: “ถือ” พื้นฐาน 80 บาท...เข้าซื้อหุ้น TTCIZ-02 ที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนาม ขนาด 50MWเพิ่มเป็น 90% (เดิม 49%) คาดเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ในเดือน พ.ค.19 ซึ่งกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อกำไร GULF น้อยเทียบกับกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดที่ 6.7GW อย่างไรก็ดี GULF มีโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นโรงไฟฟ้าอื่นๆ อีก 3 แห่งในเวียดนามเพิ่มได้ในอนาคต...ทางเทคนิคแม้ดูแข็งแรงกว่าตลาดแต่ระวังแรงขายแนวต้านตามกรอบ uptrend ที่ 80.75 บาท
Today’s News:กบง.สั่งลดราคาขายปลีกน้ำมัน 1 บาท/ลิตร: โดยจะเป็นการลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 0.50 บาท/ลิตร ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน อย่าง PTG SUSCO และโรงกลั่นที่มีสัดส่วนรายได้จากสถานีบริการน้ำมัน อย่าง ESSOBCP ซึ่งจะกดดันกำไรมากกว่าคาด
Technical Story:
เริ่มยืน แตยั่งมีความเส่ยี งภาพใหญ่: (The Technical Story)SET ยังรีบาวด์ไม่ผ่านแนวต้าน 1,600 จุด ทะลุได้มีด่านที่ 1,608 จุดและ/หรือ 1,615 จุด ส่วนกรณีแกว่งตัวถ้าหลุด 1,587 จุด อาจถอยลงไปที่ 1,583 และ/หรือ 1,579 จุดอีกครั้ง
หุ้นแนะนำ:CENTEL เข้าซื้อเพ่มิ ที่ 41 เป้าหมาย 42.75 / 43.25
SEAFCO เข้าซื้อเพิ่มที่ 9.00 เป้าหมาย 9.65 / 9.75
Derivatives Recommendation:(ดูรายงาน The Derivatives Story)“Trading” S50H19 ในกรอบ 1,051 – 1,071 จุด“Long” Block WHA เป้าหมาย 4.34 / 4.58...Leverage 12x
TradeCode: Buy > CENTEL, CK, WHA(ดูรายงาน Trade Code)
Tactical Portfolio (1-3 months): (หน้า 2)
แนะนำ “ถือ” AMATA CPALL COM7 CPN HMPRO EA RSROBINS STEC และถือเงินสดในสัดส่วน 10%...TacticalWeekly ลุ้นทำ Window dressing หนุน SET ยืนได้เหนือ1,602 จุด โดยเฉพาะหุ้นใหญ่ที่สภาพคล่องน้อย แต่พื้นฐานไม่แย่ อย่าง DTAC PTTGC TOP THANI SAWAD MTC
Fundamental: (หน้า 5)
GULF: “ถือ” พื้นฐาน 80 บาท...เข้าซื้อหุ้น TTCIZ-02 ที่เป็นผู้ผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนาม ขนาด 50MWเพิ่มเป็น 90% (เดิม 49%) คาดเริ่มผลิตไฟฟ้าได้ในเดือน พ.ค.19 ซึ่งกำลังการผลิตที่เพิ่มขึ้นมีผลต่อกำไร GULF น้อยเทียบกับกำลังการผลิตไฟฟ้าทั้งหมดที่ 6.7GW อย่างไรก็ดี GULF มีโอกาสที่จะเพิ่มสัดส่วนถือหุ้นโรงไฟฟ้าอื่นๆ อีก 3 แห่งในเวียดนามเพิ่มได้ในอนาคต...ทางเทคนิคแม้ดูแข็งแรงกว่าตลาดแต่ระวังแรงขายแนวต้านตามกรอบ uptrend ที่ 80.75 บาท
Today’s News:
กบง.สั่งลดราคาขายปลีกน้ำมัน 1 บาท/ลิตร: โดยจะเป็นการลดเก็บเงินเข้ากองทุนน้ำมัน 0.50 บาท/ลิตร ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันกลุ่มสถานีบริการน้ำมัน อย่าง PTG SUSCO และโรงกลั่นที่มีสัดส่วนรายได้จากสถานีบริการน้ำมัน อย่าง ESSOBCP ซึ่งจะกดดันกำไรมากกว่าคาด
Technical Story:
เริ่มยืน แตยั่งมีความเส่ยี งภาพใหญ่: (The Technical Story)SET ยังรีบาวด์ไม่ผ่านแนวต้าน 1,600 จุด ทะลุได้มีด่านที่ 1,608 จุดและ/หรือ 1,615 จุด ส่วนกรณีแกว่งตัวถ้าหลุด 1,587 จุด อาจถอยลงไปที่ 1,583 และ/หรือ 1,579 จุดอีกครั้ง
Tactical Portfolio: ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (19-24 ธ.ค.) Tactical Portfolio ที่
แม้ลดสัดส่วนหุ้นในพอร์ตลงเหลือ 90% ในสัปดาห์ก่อน แต่ยังให้ผลตอบแทน -1.1% ต่ำกว่า SET ที่ -0.3% อย่ดู ี เนื่องจาก COM7 ปรับลดลงแรง 5.8% w-w และหุ้นส่วนใหญ่ปรับลดลงมากกว่า SET มีเพียงHMPRO ที่ปรับสูงขึ้น 2% ในสัปดาห์ก่อน...ทั้งนี้ถ้าพิจารณาจากTradeCode จะเห็นว่า SET มี momentum อยู่ที่ระดับ 3 หรือ “รอฟื้นตัว”ทำให้เรายังแนะนำถือเงินสดในสัดส่วน 30% ของพอร์ตต่อไป ขณะที่ถือหุ้นทั้ง 9 ตัวต่อเนื่องในสัปดาห์นี้ ได้แก่ AMATA COM7 CPALL CPN EAHMPRO ROBINS RS STEC
หุ้นใน Siam Senses Portfolio
AMATA: ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบาย EEC ของรัฐบาล และมูลค่าไม่เเพง
AOT: ได้ประโยชนท์ ั้งจำนวนนักท่องเท่ยี วฟื้นตัวและการประมูลพื้นที่เชิงพาณิชย์ปีหน้า
CPALL: ธุรกิจ 7-11 ที่ขยายสาขาต่อเนื่อง มีอำนาจต่อรองสูง และเสนอสินค้าและบริการเข้าถึงคนทุกกลุ่ม
CPN: เข้าสู่การเติบโตรอบใหม่ด้วย 18% EPS CAGR ช่วง 2018-21F จากการเปิดศูนย์การค้า 3 แห่ง/ปี และ operating leverageจากการปรับค่าเช่า
EA: เป็นหุ้น growth stock ยังโตสูงต่อเนื่องถึงปี 2019 จากสัญญาในมือที่จะทยอยดำเนินการ และมีโอกาสโตมหาศาลต่อเนื่องจาการขยายธุรกิจสู่แบตเตอรี่เก็บกักพลังงานซึ่งเป็นแนวโน้มของการพัฒนาอุตสาหกรรมไฟฟ้า
GLOBAL: มีการเติบโตของกำไรที่สูงต่อเนื่องใน 3 ปีข้างหน้า จากการปรบั กลยุทธ์ในบรษิ ัทฯ และได้ประโยชนจ์ ากการฟื้นตัวของการบริโภคในต่างจังหวัด
HMPRO: ผู้นำตลาดปรับปรุงบ้าน ที่คาดความต้องการฟื้นตัวปีหน้าและมีกลยุทธ์การเพิ่มอัตรากำไรขั้นต้นที่ดี
KCE: ได้ประโยชนจ์ ากแนวโนม้ เงินบาทท่อี ่อนค่า ในขณะที่การเติบโตของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ยานยนต์เร่งตัวขึ้นชัดเจนในตลาดโลก
STEC: กำไรจะกลับมาเติบโตโดดเด่นจากรายได้ และ margin ที่ฟื้นตัว
WHA: ได้ประโยชน์โดยตรงจากนโยบาย EEC ของรัฐบาล และมูลค่าไม่เเพง