- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 24 December 2018 15:18
- Hits: 9838
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Daily Strategy
" ลุ้น LTF/RMF ช่วยประคอง "
ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ :SET Index แกว่งตัวกรอบแคบ -0.77 จุด (-0.05%) ปิดที่ 1,595 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.7 หมื่นล้านบาท เนื่องจากตลาดไม่มีปัจจัยหนุนใหม่ แต่ช่วงท้ายมูลค่าการซื้อขายคึกคักจากการทำ FTSE rebalancing ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิ 1,084 ล้านบาท แต่ขายในตลาดพันธบัตร 2,341 ล้านบาท และ Net Short TFEX 12,397 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: คาด SET Index ผันผวนในกรอบ 1,585 - 1,605 จุด ภาพรวมยังถูกกดดันจากความวิตกกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวหลังจากปัจจัยชี้นำเศรษฐกิจ และ GDP ของประเทศเศรษฐกิจหลักปรับตัวลงล่าสุด สหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 3/18 (ครั้งสุดท้าย) ขยายตัว 3.4% ลดลงจากประกาศครั้งที่ 2 และ ไตรมาส 2/18 ที่ขยายตัว 3.5% และ 4.2% นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกดดันจากภาวะ US shutdown, VIX index ปรับตัวขึ้น และราคาน้ำมันดิบยังลดลงไม่หยุด กดดันหุ้นในกลุ่มพลังงานต่อเนื่อง อย่างไรก็ตามเราคาดว่าดัชนีจะไม่ลดลงรุนแรง เนื่องจากสัปดาห์นี้เป็นสัปดาห์สุดท้ายของปี โดยปกติจะมีเม็ดเงินจากกองทุน LTF/RMF รวมถึงการทำราคาปิด (Window dressing) ของบรรดากองทุนมาช่วยหนุน
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy เน้น Domestic play
- กลุ่มสายการบิน (AAV, THAI, BA) และ TASCO ได้ประโยชน์จากต้นทุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง
- หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BDMS, BCH และ TTW
- กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ
- กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น
หุ้นแนะนำวันนี้:KTC (ปิด 31.25 ซื้อ/เป้า 42) รับข่าวดีบอร์ดเตรียมอนุมัติให้ KTC รุกธุรกิจสินเชื่อพิโก และ นาโนไฟแนนซ์ เพิ่มช่องทางรายได้และค่าธรรมเนียมให้กับ KTC ส่วนแนวโน้มกำไรคาดเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากการตั้งสำรองที่ลดลงในอนาคตจากผลของมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS9, TASCO (15.2 ซื้อเก็งกำไร/เป้าสูงสุด Consensus 18) อีกหนึ่งผู้ประกอบการที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ลดลง เนื่องจากจะทำให้ต้นทุนในการผลิตยางมะตอยลดลงตามไปด้วย ส่งผลบวกต่อมาร์จินและกำไรของ TASCO ให้กลับมาฟื้นตัว
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : -
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(-) ดาวโจนส์ร่วง 3 วันติด กังวลเศรษฐกิจชะลอตัว และ วิตก US Shutdown เนื่องจากวุฒิสภาสหรัฐยังไม่ผ่านร่างงบประมาณที่สภาผู้แทนฯเสนอ : เมื่อวันศุกร์ดัชนีดาวโจนส์ลดลงอีก 414 จุด (-1.81%) ปิดที่ 22,445 จุด จากเศรษฐกิจสหรัฐที่ชะลอตัวโดยสหรัฐประกาศ GDP ไตรมาส 3/18 (ครั้งสุดท้าย) ขยายตัว 3.4% ลดลงจากประกาศครั้งที่ 2 และ ไตรมาส 2/18 ที่ขยายตัว 3.5% และ 4.2% นอกจากนี้ยังมีปัจจัยกดดันจากภาวะชัตดาวน์หน่วยงานสหรัฐ หลังจากวุฒิสภายังไม่เห็นชอบร่างงบประมาณชั่วคราวที่ผ่านการเห็นชอบจากสภาผู้แทนราษฏร (วุฒิสภาจะนัดประชุมอีกครั้งในวันนี้ และวันพฤหัสบดีที่ 27 ธ.ค.)
(-) ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 17 เดือน จากจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบในสหรัฐกลับมาเพิ่มขึ้น : น้ำมันดิบเป็นอีกหนึ่งสินทรัพย์การลงทุนที่ราคายังลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบปีอย่างต่อเนื่อง ล่าสุดราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงอีก 29 เซนต์ หรือ 0.6% ปิดที่ 45.59 ดอลลาร์/บาร์เรล ต่ำสุดในรอบ 17 เดือน นักลงทุนยังวิตกกังวลต่อภาวะอุปทานล้นตลาด หลังจากสหรัฐรายงานจำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันดิบรายสัปดาห์เพิ่มขึ้นอีก 10 แท่น เป็น 883 แท่น เพิ่มขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 เดือน
(-) ยอดส่งออกไทยเดือน พ.ย. พลิกเป็นหดตัว 0.95%yoy สวนทางตลาดคาดขยายตัว 3.1%yoy Trade war ยังเป็นปัจจัยกดดันหลัก : กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกไทยเดือน พ.ย.มีมูลค่าส่งออก 21,237 ล้านดอลลาร์ฯลดลง 0.95%yoy แย่ลงจากเดือน ต.ค.ที่ขยายตัว 8.7%yoy และต่ำกว่าที่ Consensus คาดว่าจะขยายตัว 3.1%yoy สาเหตุหลักมาจากยอดส่งออกไปจีนลดลง 8.9%yoy เนื่องจากเศรษฐกิจชะลอตัวและได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าทำให้ประเทศและสินค้าในห่วงโซ่อุปทานของจีนได้รับผลกระทบ ซึ่งสินค้าที่มียอดส่งออกลดลงอย่างมีนัย คือ รถยนต์ (-8%yoy), เครื่องคอมพิวเตอร์ (-6.1%yoy) และ แผงวงจรไฟฟ้า (-3.1%yoy)
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี