- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 21 December 2018 22:53
- Hits: 3206
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET มีแรงขายในกลุ่มพลังงานนำโดย PTT, PTTEP และกลุ่มธนาคาร นำโดย TMB, KBANK, BBL อย่างไรก็ตามในช่วงบ่ายมีแรงซื้อเด่นในกลุ่มโรงไฟฟ้านำโดย GULF (All time high), GPSC และ EGCO สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,596.1 จุด (-5.0 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.4 หมื่นล้านบาท ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.5 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยที่ 49 ล้านบาท (สถาบันกซื้อสุทธิที่ 267 ล้านบาท) และกลับมาเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 727 สัญญา
Investment theme
สหรัฐกำลังเผชิญกับภาวะตึงตัว : ภายหลัง Trump เสียฐานเสียงในสภาล่างให้กับ Democrat ทำให้อีกหนึ่งปัจจัย ที่เคยกังวลอย่างการทำงาน, การโดนตรวจสอบย้อนหลัง, การผ่านร่างมติต่างๆ ในประเทศเป็นไปด้วยความลำบาก ล่าสุด Cohen อดีตทนายความออกมายอมรับเรื่องความผิดที่เคยช่วย Trump ส่งผลให้ถูกศาลจำคุก 3 ปี ส่งผลให้ Democrat เริ่มดำเนินการสืบตรวจประเด็นดังกล่าวในตัว Trump ในขณะที่ล่าสุดการเจรจาการค้าที่จะเริ่มขึ้นอีกครั้งในเดือนมกราคม ทำให้สหรัฐตกอยู่ในที่นั่งลำบากเนื่องจาก 1) หากเจรจาการค้า โดยการลดวงเงินภาษีหรือยกเลิก อาจทำให้สหรัฐเผชิญกับยอดขาดดุลการค้ากับจีนเพิ่มขึ้น จากปัจจุบันที่อยู่ในระดับสูงมากอยู่แล้ว แต่หาก 2) ไม่มีการเจรจาการค้า ก็จะส่งผลกดดันต่อหลายอุตสาหกรรมผลิตในประเทศ และเป็นปัจจัยกดดัน Global play โดยสรุปเราประเมินว่าสหรัฐอาจเพียงแค่ผ่อนคลายภาษีนำเข้าเล็กน้อย แทนการยกเลิกวงเงินทั้งหมด 2.5 แสนล้านเหรียญ ส่งผลให้เรายังคงแนะนักลงทุนเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มที่อิงกับการส่งออก, เศรษฐกิจโลกอย่างกลุ่ม Commodity
Investment Theme: เราคงมุมมองลบต่อปัจจัยต่างประเทศ พร้อมแนะให้นักลงทุนชะลอแรงเก็งกำไรในกลุ่ม Global play และ Commodity หุ้นสะสมกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจำกัดอย่างกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL) และ สื่อ Out of home media อย่าง VGI, MACO พร้อมถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40%
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา : ราคาน้ำมันดิบ Brent ปรับตัวลงที่ 55.1 เหรียญ
Stock pick : -
Trading idea - หลีกเลี่ยงการลงทุนหุ้นกลุ่ม Global play, Commodity ทยอยสะสมกลุ่ม / Defensive Plays เช่น EGCO, BEM / ทยอยสะสม BJC, CPALL, VGI (3 หุ้น Stock pick ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนเดือนธันวาคม)
Technical View
ไม่หลุด 1590 อาจมีจังหวะ Rebound สั้นๆ ยังแนะนำขายทำกำไร: ดัชนีแกว่ง Sideway Down ในช่วงเช้า ก่อนที่ช่วงบ่ายจะมีแรง Rebound จากแรงซื้อของหุ้นกลุ่มขนส่งและกลุ่มโรงไฟฟ้า ทำให้ดัชนีลดช่วงลบชึ้นมา ประกอบกับขณะนี้ Modified Stochastic เริ่มดีดตัวขึ้นจากเขต Oversold จึงคาดว่าระยะสั้นดัชนีมีโอกาสค่อย Rebound แต่เนื่องจากแนวโน้มหลักยังเป็นขาลง จึงแนะนำให้พิจารณาแรงขายตามแนวต้านเป็นขั้นๆไป มองแนวต้านที่ 1610 และ 1630 ตามลำดับ จังหวะ Rebound ทดสอบแนวต้านยังแนะนำขายทำกำไรเพื่อเล่นรอบ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: เล่นเก็งกำไรในกรอบ 1590-1610 โดยหากหลุด 1590 เน้นทยอย Lock Profit หรือ Stop Loss ทั้งหมด 2) ไม่มีหุ้น: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูง จังหวะอ่อนตัวหากไม่หลุดแนวรับ 1590 มองเป็นโอกาสซื้อเพื่อเล่น Rebound ในกรอบ 1590-1610
แนวรับ : 1580, 1590 แนวต้าน : 1610, 1630
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: จับตา US Government Shutdown
ปัจจัยในประเทศ: -
หุ้นเทคนิค:
EA (B 44.50-45.50, Tp 47.00//50.00, Cut 44.00)
TISCO (B 79.00-80.00, Tp 83.00//87.00, Cut 78.00)
ข่าวเด่นเช้านี้
'SIRI' ไฮซีซันดัน Q4 สดใส ปักธงปีนี้ยอดขาย 5 หมื่นล. (ทันหุ้น)
SIRI ส่งซิก Q4/2561 ฟอร์มเด่นกว่าช่วง Q3/2561 อานิสงส์ไฮซีซันหนุนดีมานด์กระฉูด แถมย้ำเป้าปีนี้ยอดขายแตะ 5 หมื่นล้านบาท คนแห่จองที่อยู่อาศัยเพียบ พร้อมเดินหน้าซื้อหุ้นคืน หวังหนุนผลตอบแทนจากปันผลให้สูงขึ้น
ความเห็น : คงคำแนะนำ HOLD ราคาเป้าหมาย 1.62 บาท/หุ้น โดยคาดว่าทิศทางผลประกอบการของ 4Q61 จะเด่นที่สุดของปีจาก Backlog ที่สะสมมา อย่างไรก็ตามคาดทั้งปี 2561 ผลประกอบการยังอ่อนตัว 4.2% และในส่วนของ Presales ที่เป้า 50,000 (+25% YoY) มีโอกาสทำได้และสะสมไปเป็น Backlog ในอนาคต
IVL ซื้อกิจการโรงงานผลิต PET คาดแล้วเสร็จไตรมาส 1/62 (ข่าวหุ้น)
IVL เข้าซื้อกิจการโรงงานผลิต PET จากบริษัท INVISTA เยอรมนี มีกำลังการผลิตรวม 282,000 ตัน/ปี เป็นโรงงานผลิตพอลิเมอร์ที่มีมูลค่าเพิ่ม หวังสร้างมูลค่าในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้น คาดแล้วเสร็จในไตรมาส 1/62
ความเห็น : การเข้าซื้อโรงงาน Invista ในเยอรมนีจะช่วยขยายฐานลูกค้าครอบคลุมทั่วโลก จากเดิมที่เคยเข้าซื้อ Investa ในประเทศสหรัฐอเมริกา ผลิตภัณฑ์ของ Investa เป็นชนิดพิเศษทำให้มี margin ที่ดีกว่า PET ทั่วไป เราประเมินเบื้องต้นคาดผลบวกต่อ EBITA ประมาณ 2-3% แนะนำ ทยอยสะสม ราคาเป้าหมาย 72 บาท เทคนิคแกว่งสร้างฐานในกรอบ 50-55 บาท
BCP ลุ้นระทึกราคาน้ำมันโลก ชี้วัดทิศทางงบไตรมาส 4 บุ๊กสต๊อกเกน-ลอส (ข่าวหุ้น)
BCP ลุ้นระทึกราคาน้ำมัน ลั่นชี้วัดสต๊อกเกน-สต๊อกลอสงบไตรมาส 4 จับมือ "SCC-IVL" เปิดปั๊มรับบริจาคขวดน้ำดื่ม PET-แกลลอนน้ำมันใช้แล้ว เพื่อนำมารีไซเคิล-ลดขยะพลาสติก
ความเห็น : ผลประกอบการ 4Q61 ของกลุ่มโรงกลั่นคาดถูกกระทบทั้งจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูป-น้ำมันดิบที่ลดต่ำลง โดยเฉพาะเบนซิน และผลกระทบจากขาดทุนสต๊อก เราประเมินผลประกอบการสุทธิมีโอกาสลดต่ำลง และอาจรายงานขาดทุนสุทธิสำหรับบางโรงกลั่น อย่างไรก็ตามหากราคาน้ำมันเริ่มทรงตัวในระดับที่ต่ำลงจะเป็นผลเชิงบวกต่อกลุ่ม เราเลือก IRPC ที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันต่ำเป็น Top pick เป้าหมาย 7.30 บาท
กทพ. ต่อสัญญา BEM 37 ปี ยุติปัญหาพิพาททางด่วน วินทั้งคู่ "รัฐไม่เสียประโยชน์-เอกชนอยู่ได้" (ข่าวหุ้น)
BEM เฮ! บอร์ดกทพ.ไฟเขียว ขยายสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 2 ออกไปอีก 37 ปี จากเดิมจะสิ้นสุดวันที่ 27 ก.พ. 2563 เพื่อแลกยุติข้อพิพาท ฟาก BEM พร้อมร่วมลงทุน 4 หมื่นล้านบาท สร้างทางด่วน 2 ชั้น จากประชาชื่น-อโศก ขณะที่เตรียมชง "ก.คมนาคม" เพื่อชงไปยังสคร. และบอร์ด PPP พิจารณา ก่อนเสนอเข้าครม.ต่อไป
ความเห็น : เรามีมุมมองเชิงบวกต่อประเด็นดังกล่าว และทำให้ความกังวลต่อการหมดอายุสัมปทานหายไป โดยสัมปทาน 37 ปี ดีกว่าตลาดที่ 20 ปี, Revenue sharing คงเดิมที่ 40 %, ปรับราคาค่าผ่านทางได้อีก 10 บาท โดยเบื้องต้นจะเปิด Upside ส่วนเพิ่มให้มูลค่าหุ้น BEM เราจึงปรับมูลค่าพื้นฐานเป็น 12.0 บาท ด้านสัญญาณเทคนิคสวย แกว่งขึ้น ต้าน 9.65 รับ 9.0 บาท
'ทีคิวเอ็ม'เทรดร่วงต่ำจองผู้บริหารมั่นใจพื้นฐานแกร่ง (กรุงเทพธุรกิจ)
"ทีคิวเอ็ม คอร์ปอเรชั่น" หุ้นน้องใหม่เข้าจดทะเบียนเป็นบริษัท สุดท้ายของปีนี้ แม้ราคาเปิดเทรดวันแรก เท่ากับราคาจอง แต่ต้านภาวะตลาดหุ้นไม่ไหว ฉุดราคาหุ้นต่ำจอง ด้านผู้บริหาร ยัน มั่นใจพื้นฐานดี แนะลงทุนระยะยาว เหตุอยู่ในธุรกิจเติบโต หนุน เบี้ยประกันภัยรับรวม เพิ่มขึ้น 10% ในปีหน้า
ความเห็น : เรามองว่า TQM เป็นผู้นำในตลาดนายหน้าประกัน โดยเฉพาะวินาศภัย ที่กินส่วนแบ่งในตลาดมากกว่า 80% มีสัดส่วนถึง 96% ของรายได้รวม สามารถสร้างกระแสเงินสดให้บริษัทอย่างต่อเนื่อง ส่วนการเติบโตด้วยการเพิ่มยอดขายประกันชีวิต จากปัจจุบันที่คิดเป็นเพียง 3% ของรายได้รวม เป็นโอกาส และ Growth potential ข้างหน้าของบริษัท เรามองกรอบราคาเหมาะสมเบื้องต้นเท่ากับ 20-24.50 บ. อิง P/E กลุ่มประกัน 0 ถึง -1 SD ที่ 13-16X หากอิงกรอบล่าง เรามอง Valuation จะเริ่มน่าสนใจในแง่อัตราเงินปันผลราว 5% ต่อปี (รายละเอียดเพิ่มเติม สามารถหาได้ใน '10เรื่องต้องรู้ หุ้น IPO' วานนี้ )
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000