- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Friday, 21 December 2018 12:29
- Hits: 6733
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
--------------
Market Outlook
• วานนี้ SET Index ปิดที่ 1,596.10 จุด -5.02 จุด (-0.31%) มูลค่าซื้อขายราว 3.5 หมื่น ลบ. โดยตลาดถูกกดันจากแรงขายกลุ่มพลังงานเป็นหลักสำหรับวันนี้คาดSET Index มีโอกาสย่อตัวต่อเนื่อง ตามตลาดหุ้นสหรัฐฯ และภูมิภาคจากปัจจัยกดดันหลัก 2 เรื่อง ได้แก่ แนวโน้ม ดบ. ขาขึ้นของ FED และแนวโน้มขาลงของราคาน้ำมันดิบโลกประเมินกรอบแกว่งตัว1,578-1,602 จุด (ระดับแนวรับ Previous Low –แนวต้านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ 5 วัน)
Market Factors
• (-) วานนี้นักลงทุนกลับมากังวลต่อประเด็น US Government Shutdown อีกครั้งหลังล่าสุดนายโดนัลด์ทรัมป์แสดงท่าทีไม่พอใจต่อร่างงบประมาณชั่วคราวที่ได้รับการอนุมัติจากวุฒิสภาเนื่องจากไม่มีการแบ่งงบเพื่อใช้สร้างกำแพงกั้นพรมแดนเม็กซิโก (5 พันล้านดอลลาร์) และขู่จะไม่ลงนามอนุมัติร่างดังกล่าวตามกำหนดซึ่งล่าสุดสภาผู้แทนมีมติยอมเพิ่มงบตามคำขอของทรัมป์แล้ว แต่ปัจจุบันตลาดยังรอความชัดเจนจากวุฒิสภาซึ่งต้องอนุมัติร่างงบประมาณใหม่ภายในเที่ยงคืนวันศุกร์นี้
• (-) ศูนย์ศึกษาการค้าระหว่างประเทศม.หอการค้าไทย คาดสงครามการค้าส่งผลกระทบการส่งออกไทยในปี 62 ไปตลาดโลกจะลดลง 0.2-0.8% เพราะภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวจากสงครามการค้า แต่หากสหรัฐฯ และจีนขึ้นภาษีระหว่างกันมากกว่า 25% (กรณีที่เลวร้ายที่สุด) จะทำให้การส่งออกไทยไปตลาดโลกลดลงมากถึง 8% หรือมูลค่าหายไป 1,796-57,736 ล้านเหรียญฯ เพราะสินค้าไทยอยู่ในห่วงโซ่การผลิตสินค้าทั้งของจีนและสหรัฐฯทำให้ทั้ง 2 ประเทศนำเข้าสินค้าจากไทยลดลง โดยคาดสินค้าที่มูลค่าการส่งออกจะหายไปมากที่สุด คือ คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์รองลงมาจะเป็นสินค้าเคมีภัณฑ์, ยางและพลาสติก, เครื่องใช้ไฟฟ้า, ไม้และผลิตภัณฑ์จากไม้ (สำนักข่าวอินโฟเควสท์ 20 ธ.ค. 61)
• (Watch) เรามองว่าช่วงที่ผ่านมาตลาดเริ่มกลับมาให้น้ำหนักกับตัวเลข ศก.ของประเทศใหญ่ซึ่งจะส่งผลต่อทิศทางเติบโตของ ศก. โลกเราจึงแนะนำให้คืนนี้นักลงทุนรอติดตามการประกาศตัวเลข ศก. ดังนี้ดัชนีการใช้จ่ายส่วนบุคคล (PCE) เดือน พ.ย. และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือน ธ.ค. ของสหรัฐฯ, GDP ช่วง 3Q61 ของฝรั่งเศสและอังกฤษ
Investment Strategy
• ตั้งแต่วันนี้จนถึงสิ้นปี เราคาด SET Index จะแกว่งตัวในกรอบแนวรับ-แนวต้านที่ 1,580–1,628 จุด (Bollinger Band Daily, N=20: -2SD to Average) หรือคิดเป็น PE valuation ที่ 14.7-15.2 โดยมีปัจจัยลบจากทั้งในและต่างประเทศ ประกอบไปด้วยแนวโน้ม ดบ. ขาขึ้นของทั้ง FED และ BOT บวกกับราคาน้ำมันดิบโลกที่ปรับตัวลงต่อเนื่องจาก Demand ที่ลดลงสวนทางกับ Supply ที่เพิ่มขึ้น แต่อย่างไรก็ดี เรายังมองดัชนีจะยืนเหนือแนวรับในโซน 1,575-1,580 จุดจนถึงสิ้นปีนี้ ด้วยแรงซื้อจากนักลงทุนสถาบัน ดังนั้นเราแนะนำทยอยสะสมหุ้น Domestic Play ขนาดกลาง-ใหญ่ 3 กลุ่มหลักที่ยังมีปัจจัยหนุนเฉพาะกลุ่ม ดังนี้
1. กลุ่มสื่อ ซึ่งมีฐานต่ำในปีก่อน จากได้รับผลกระทบจากการขึ้นป้ายไว้อาลัยบวกกับคาดเม็ดเงินโฆษณามีทิศทางสดใสขึ้นรับผลบวกในช่วงเม็ดเงินโฆษณาภาคเอกชนยังโตต่อเนื่อง แนะนำPLANB(แผนขยายMedia Capacity 15-20%YoY และสร้างจุดเด่นด้วยEngagement Marketing), VGI (รับรู้รายได้ป้ายโฆษณาบนสถานี BTS ที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่ ส่วน MACO ยังมีผลดำเนินงานดีต่อเนื่องจากแผนปรับปรุงจอโฆษณาจาก Static เป็น Digital ในหลายพื้นที่ บวกกับคาดมีแรงหนุนจากSynergy ในกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น พร้อมแผน M&A อีก 2-3 บริษัทในปีหน้าเพื่อก้าวสู่การเป็น Marketing Solution), และ MAJOR (รายได้ธุรกิจโรงหนังที่มีแนวโน้มปรับตัวดีตามไลน์หนังฟอร์มยักษ์มีความน่าสนใจมากขึ้น สะท้อนได้ด้วยรายได้ Box Office เดือน ต.ค. โต 28.8%YoY บวกกับมีหนังไทยที่ทำเงินดีอย่าง นาคี 2 (441.2 ลบ.) ขณะที่ธุรกิจสื่อคาดได้แรงหนุนจากการเซ็นสัญญาให้บริการลูกค้าใหม่ที่เลื่อนมาจากช่วง 3Q61)
2. กลุ่มค้าปลีก มองช่วง 4Q61 กำลังซื้อจะดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่อยู่ในช่วงไว้อาลัยนอกจากนี้ปีหน้ายังมีอานิสงส์บวกจากมาตรการคืน VAT 5% ให้ประชาชนทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตผูกบัญชีพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 1-15 ก.พ. 62 เพื่อกระตุ้นนโยบาย E-Payment เลือก ROBINS (คาดโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเพราะเปิดสาขาใหม่ และกลยุทธ์ปรับ Product Mixed มาเน้นขายสินค้าในกลุ่ม Private Brand มากขึ้น) และ CPN (คาดโตจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ และการปรับปรุงศูนย์การค้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว ควบคู่กับการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน โดยปัจจุบัน CPN บริหารจัดการศูนย์การค้า 33 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.7 ล้าน ตร.ม. เพิ่มจาก 1.6 ล้าน ตร.ม. ณ สิ้นช่วง 3Q60)
3. กลุ่มนิคม มองได้อานิสงส์บวกจากการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้าชัดเจนขึ้นคาดหนุนทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่นแนะนำ AMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว 8,172 ไร่), WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 แสน ตรม.)
20-Dec-18 Change (pts.) 19-Dec-18
SET Index 1,596.10 -5.02 1,601.12
SET50 Index 1,066.22 -2.25 1,068.47
SET100 Index 2,345.88 -7.55 2,353.43
High 1,599.20 Gainers 301
Low 1,583.11 Unchanged 404
Value (Bt m) 34,972.04 Losers 982
Volume (*000) 11,519,732
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 14.9 13.8 13.8
EPS Growth (%) 13.9 9.3 5.1
EV/EBITDA (x) 10.2 9.5 9.0
FWD PBV (x) 1.8 1.7 1.6
Dividend Yield (%) 3.2 3.5 3.7
ROE 13.1 12.2 12.3
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 20-Dec-18 WTD MTD YTD
Institution 267.60 (5,832.15) (2,373.18) 176,219.70
Proprietary (46.18) (1,069.46) (1,293.32) (8,653.02)
Foreign (49.22) (2,391.57) 608.97 (286,557.02)
Individual (172.20) 9,293.19 3,057.52 118,990.34
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary