ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้รีบาวด์ขึ้น +17.93 จุด (+1.13%) ปิดที่ 1,601 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.51 หมื่นล้านบาท ตาม sentiment บวกตลาดหุ้นรอบบ้านที่ฟื้นตัวขึ้นก่อนการประชุม FOMC รวมถึงแรงซื้อกลุ่ม BANK หลังกนง.มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% เป็น 1.75% ซึ่งเป็นบวกต่อผลประกอบของกลุ่มธนาคาร แต่มีแรงขายกลุ่ม ENERG และ PETRO จากราคาน้ำมันที่ลงต่ำสุดในรอบ 15 เดือน ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติขายสุทธิ 727 ล้านบาท แต่ซื้อในตลาดพันธบัตร 920 ล้านบาท และ Net Long TFEX 4,951 สัญญา 

          แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: คาด SET Index แกว่งตัว 1,590 - 1,610 จุด โดยแม้ว่าภาวะตลาดจะได้ปัจจัยบวกจาก EU อนุมัติงบประมาณประจำปี 2019 ของอิตาลีแล้วโดยรัฐบาลอิตาลียอมปรับลดตัวเลขขาดดุลงบประมาณลงสู่ 2.04% (จากเดิม 2.4%) รวมถึง FED มีมติขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายตามคาด 0.25% เป็น 2.5% และลดคาดการณ์การปรับขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าลงเหลือ 2 ครั้ง (จากเดิม 3 ครั้ง) ซึ่งเป็นบวกต่อภาพการลงทุน อย่างไรก็ตามความกังวลเศรษฐกิจโลกชะลอตัวยังคงเป็นแรงกดดันต่อทิศทางการลงทุนในช่วงนี้ หลัง FED ปรับลดคาดการณ์ขยายตัว GDP สหรัฐปีนี้และปีหน้าลง (ปี 2018 เหลือ 3% จาก 3.1% ปี 2019 เหลือ 2.3% จาก 2.5%) ประกอบกับวานนี้กนง.ปรับลดประมาณการ GDP ปี 61 เหลือ 4.2% จากเดิม 4.4% ส่วนปี 62 คาด 4.0% จากเดิม 4.2% และปรับลดคาดการณ์ส่งออกปี 61 เหลือ 7.0% จากเดิม 9.0% ส่วนปี 62 คาดโต 3.8% จากเดิม 4.3% ซึ่งจะกดดันให้ภาวะตลาดมีความผันผวนสูง

 

          - กลุ่มสายการบิน (AAV, THAI, BA) ได้ประโยชน์จากต้นทุนราคาน้ำมันดิบปรับตัวลง 

          - หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BDMS, BCH และ TTW 

          - กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปีและนโยบายกระตุ้นภาครัฐ 

          - กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น 

 

          หุ้นแนะนำวันนี้: AOT (ปิด 63.75 ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 72) เก็งกำไรข่าวจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาฟื้นตัว+4.5%yoy และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นต่อเนื่องในเดือนธ.ค.จากมาตรการของภาครัฐ (ภาครัฐอาจขยายมาตรการฟรีวิซ่าไปจนถึงช่วงสงกานต์) ด้านโครงการเทอมินอล 2 ล่าสุด ICAO ไม่มีข้อท้วงติงใดๆ คาดโครงการจะเดินหน้าได้ตามแผน, ROBINS (ปิด 68 ซื้อ/เป้า 76) ได้ประโยชน์จากเงินหมุนเวียนก่อนการเลือกตั้งรวมถึงภาครัฐออกมาตรการกระตุ้นการใช้จ่ายโครงการช็อปปิ้งในช่วงเทศกาลตรุษจีน

          Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS 

          KSS report วันนี้ : AAV (ปิด 4.26 ถือ/เป้าใหม่ 4.2 จาก 4.1), AEONTS (ปิด 174.5 ซื้อ/เป้า 220)

 

          (+/-) เฟดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% และลดจำนวนครั้งในการขึ้นดอกเบี้ยปีหน้าจาก 3 เป็น 2 ครั้ง แต่ลดคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าเป็น 3% และ 2.3% เดิม 3.1% และ 2.5% : เฟดมีมติเป็นเอกฉันท์ให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25%เป็น 2.5% ซึ่งเป็นการปรับขึ้นดอกเบี้ยครั้งที่ 4 ในปีนี้ ส่วนปีหน้าเฟดปรับลดจำนวนครั้งในการขึ้นดอกเบี้ยลงจาก 3 ครั้งเหลือ 2 ครั้ง แต่มีมุมมองเป็นลบต่อทิศทางเศรษฐกิจโดยลดคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าเป็นขยายตัว 3% และ 2.3% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 3.1% และ 2.5% ตามลำดับ 

          (+/-) แบงก์ชาติขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 7 ปี แต่ปรับลดคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าเป็น 4.2% และ 4.1% จากเดิมคาดโต 4.4% และ 4.2% ตามลำดับ : กนง.มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.75% ตามที่เราและตลาดคาดไว้ เพื่อลดความเสี่ยงด้านเสถียรภาพระบบการเงิน และเพิ่ม Room ในการดำเนินนโยบายการเงินในอนาคต (policy space) อย่างไรก็ตามกนง.มีมุมมองต่อแนวโน้มเศรษฐกิจเป็นบวกลดลง โดยลดคาดการณ์ GDP ปีนี้เป็น 4.2% จากเดิม 4.4% และ ลดคาดการณ์ GDP ปีหน้าเป็น 4.1% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 4.2%  

          (+) น้ำมันดิบฟื้นตัว 2.1% ตอบรับตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 : ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 96 เซนต์ (+2.1%) ปิดที่ 47.2 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล จาก Technical rebound หลังจากที่ราคาลดลงแรงในช่วงก่อนหน้า และยังได้แรงหนุนจากรายงานตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐที่ลดลง 497,000 บาร์เรล นับเป็นการลดลงต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 3 ติดต่อกัน 

          (+) นักท่องเที่ยวต่างชาติเดือน พ.ย.พลิกเป็น +4.5%yoy จากที่หดตัวในเดือน ต.ค. ส่วนนักท่องเที่ยวจีนยังชะลอ yoy แต่เริ่มเห็นสัญญาณฟื้นตัว mom : กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬารายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดือน พ.ย.เพิ่มขึ้นเป็น 3.18 ล้านคน เพิ่มขึ้น 4.5%yoy ดีขึ้นจากเดือน ต.ค.ที่หดตัว 0.51%yoy ด้านนักท่องเที่ยวจีน มีจำนวน 6.75 แสนคน ลดลง 14.6%yoy หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 อย่างไรก็ตามเมื่อเทียบเป็นรายเดือนเพิ่มขึ้น 4.5% และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีกในเดือน ธ.ค.จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ เป็นบวกต่อกลุ่มท่องเที่ยว CENTEL, ERW, AOT และ AAV