- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 December 2018 19:23
- Hits: 1481
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
ภาพตลาดและแนวโน้ม
ลงแล้วดีดไม่ไกล
วันนี้คาดหุ้นไทยมีโอกาสหลุด 1,600 จุด ในระหว่างวัน แล้วดีดสั้นๆ แม้ตลาดหุ้นต่างประเทศเช้านี้ เริ่มไม่ลงแรง แต่ภาพรวมตลาดยังไว้ใจไม่ได้ จนกว่า กองทุนในประเทศจะเริ่มไล่ซื้อหุ้นกลับ
หุ้นกลุ่มเด่นวันนี้ คาดว่า แรงซื้อจะเน้นกลุ่ม เชื่อมโยงการบริโภคในประเทศ ธนาคาร รับ กนง.ขึ้นดอกเบี้ย และกระแสข่าวลือ TCAP ควบรวม TMB, CPN CPALL CENTEL ROBINS
ขณะที่ หุ้น Commodity linked ตลอดจนหุ้นที่เชื่อมโยงเศรษฐกิจโลก แนะชะลอการซื้อ ไม่ต้องรีบ "Bet กับราคาที่ลงมาแรง และหวังว่าจะรีบาวด์เร็ว" จากแนวโน้มตลาดที่กังวล และยังไม่เชื่อมั่นต่อการขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้า ขณะที่รายงานการปรับลดเศรษฐกิจโลกยังคงมีให้เห็น แนะรอให้ตลาดซึมซับข่าวเศรษฐกิจโลกชะลอตัวไปอีกสักระยะ
ระยะสัปดาห์ คาดหุ้นไทยจะลงตามตลาดหุ้นโลกและมีโอกาสหลุด 1,600 จุด แต่...จะลงแบบรวดเร็ว และเด้งขึ้นแบบรวดเร็ว (ผันผวนสูง) คาดแนวรับ 1,584 (กรณีแย่กว่าคาด 1,550/1,530 จุด กลับมาใช้เงือนไขแนวรับเหมือนช่วง ปลายเดือน พย.อีกครั้ง)
โดยปัจจัยทีมีผลต่อจิตวิทยาการลงทุนคละเคล้าและยังดูสับสน เช่น จีนเลื่อนเก็บภาษีรถยนต์สหรัฐฯ ที่ 40% ออกไป 90 วัน แต่ก็มีการตอบโต้ในทางการเมือง อย่างการจับตัวอดีตนักการทูตแคนาดาในจีน เพื่อตอบโต้แคนาดาที่จับกุมตัว ผบห.หัวเว่ย ในแคนาดาจากคำเรียกร้องของสหรัฐฯ, ภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลงตัวลง และล่าสุด ECB ปรับลดเศรษฐกิจยูโรโซนลง แต่ก็พร้อมกับการส่งสัญญาณ "Dovish" เช่นเดียวกับ เฟด... และปัจจัยในประเทศ การเลือกตั้งที่พรรคการเมืองใหญ่ ต่างกล่าวถึงความเสียเปรียบในการเลือกตั้งและ จะกลายเป็นการสร้างความกังขาต่อผลเลือกตั้งฯ แม้แต่ข่าวหุ้นรายตัวอย่าง PTTEP แม้จะชนะประมูลทั้ง 2 แหล่งฯ แต่เมื่อเปิดเงื่อนไขฯ กลับสร้างแรงกดดันต่อราคาหุ้นกลุ่ม PTT
เราเชื่อว่าภาวะเลี่ยงความเสี่ยงในการลงทุน (Risk averse) คือปัจจัยหลักมากกว่าที่ทำให้เกิดแรงขายปรับพอร์ต ไม่ได้มาจากข่าวต่างๆที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ และส่วนหนึ่งแรงขายจากฝั่งกองทุน คาดว่าเกิดจากการขายเพื่อกดราคามารับล่าง เพื่อรอเงินที่จะเข้าซื้อจาก LTF RMF รอบนี้ จะได้ราคาที่ถูกลง
กลยุทธ์ แนะนำ เลือกลงทุนรายตัว แบบระมัดระวัง เน้นกลุ่ม Domestic play และ Defensive
What to watch:
(+) 19 ธค.คาด กนง.จะคงดอกเบี้ย 1.5% สร้างความประหลาดใจเชิงบวกให้กับตลาด
(+) การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ 20 ธค.คาดขึ้นดอกเบี้ยอีกครั้ง 0.25% เป็น 2.25-2.5% และส่งสัญญาณเชิงบวกต่อนโยบายการเงินที่ผ่อนคลายมากขึ้น
หุ้นแนะนำ
TMB เก็งประเด็นควบรวมกิจการ เราเชื่อว่า ถ้าดีลนี้จะเกิด ก.คลัง ย่อมต้องการ Swap ratio ของ Book value ที่สูงเพราะต้นทุน ก.คลัง ถือ TMB สูงถึง 3.8 บ. บวกกับการประชุม กนง. Consensus คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.75%
BEM วันที่ 19 ธค.นี้ กทพ.จะเสนอเงื่อนไขต่ออายุสัมปทานทางด่วนที่กำลังจะหมดลง ให้ BEM แทนการจ่าย คดีค่าโง่ทางด่วน บวกกับ ข่าวกลุ่ม CP ชนะงานรถไฟความเร็วสูงฯ เพิ่มงานบริหารให้ BEM
รายงานวันนี้
Tactical Strategy: Rotation within energy sector สัปดาห์ที่แล้ว PTTEP
ชนะการประมูลแหล่งปิโตรเลียม แต่หุ้นโดนขายอย่างหนักจากความกังวลราคาขายแก๊สที่ให้ส่วนลดเยอะมาก (วอลุ่ม 2 วัน กว่า 1.4 หมื่นล้านบาท) เรามองว่าเม็ดเงินที่ขายออกมานั้นจะหมุนเล่นอยู่ในกลุ่มพลังงาน ซึ่งเราคาดว่ากระแสเงินของนักลงทุนสถาบันจะไหลไปที่หุ้นกลุ่มโรงกลั่น โดยเฉพาะ TOP ที่ไม่โดนโจมตี ประเด็นการผูกขาดแหล่งก๊าซธรรมชาติ และค่าการกลั่น ที่กำลังเข้าสู่ช่วง High season อีกทั้งเราคาดราคาน้ำมันจะแกว่ง Sideway ซึ่งหนุนค่าการกลั่นให้กว้างขึ้น ปัจจุบันหุ้น TOP เทรดบน PE ถูกมากเพียง 8.9 เท่า (เพราะตอนนี้ค่าการกลั่นยังไม่ดี) แต่เราเชื่อว่าอีกไม่ถึง 1 เดือน ฤดูหนาวสุดจะหนุนให้ค่าการกลั่นดีขึ้น และหุ้นจะ Re-rate PE ขึ้นไปเท่าค่าเฉลี่ยในอดีตได้
Media: Ad spend recovery in Nov
เม็ดเงินโฆษณาเดือน พ.ย. ปรับตัวขึ้น 1.7% YoY (ปรับตัวลดลง 2.5% MoM) มาที่ 9 พันล้านบาท หนุนโดยการปรับตัวขึ้นของกลุ่ม TV และ สื่อในระบบขนส่งมวลชน มุมมองจากนักวิเคราะห์กลุ่มเกษตรและค้าปลีกต่างมองว่า รายได้ภาคเกษตรกรรมจะฟนตัวในปีหน้า ตามการฟนตัวของราคาสินค้าภาคเกษตร ซึ่งมี Positive correlation กับยอดค้าปลีก โดยเราคาดกำลังซื้อจะเริ่มฟนตัว ประกอบกับ Feedback จาก Media Day มองว่าเม็ดเงินโฆษณาได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้วในปีนี้ และจะฟนตัวขึ้นในปีหน้า เรายังคงชอบหุ้นกลุ่มสื่อนอกบ้านอย่าง VGI และ PLANB รวมถึง RS ตามการฟนตัวของยอดขาย MPC
Construction: CP-led consortium likely to take the high-speed rail project
กลุ่ม CP (สัดส่วนการถือหุ้น CP 70% BEM (10%), China Railway Construction Corp (10%), CK (5%), and ITD (5%)) ชนะการประมูลรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน CK ดูจะเป็นผู้ที่ได้ประโยชน์ในระยะสั้นมากที่สุดเพราะได้งานก่อสร้างโครงการครึ่งหนึ่งของ 1.13 แสนล้าบนาท และส่วนของ mixed-use 4.5 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ดีเราแนะให้ขายหุ้นกลุ่มรับเหมา เราคาดจะไม่เห็นงานประมูลขนาดใหญ่เพิ่มเติมจะกว่าจะ 2H19 พร้อมทั้งปรับน้ำหนักลงเป็น Underweight
Consumer: Cross-sector theme calls
เราคาดการณ์ GDP ไทย จะเติบโตช้าลง จาก 4.2% ในปี 2561 เป็น 4.0% ในปี 2562 ดังนั้นเราแนะนำให้ลงทุนหุ้นกลุ่มจำเป็น ที่ยังคงต้องกิน-ดื่ม ใช้ของในชีวิตประจำวัน (consumer staple) ได้แก่ OSP อีกหนึ่งประเด็นคือเรามองว่าราคาเนื้อสัตว์-พืชผลเกษตรหลักผ่านจุดต่ำสุดแล้วปีนี้ และจะฟนตัวปีหน้า ส่งผลให้เกษตรกรมีกำลังซื้อมากขึ้นและจะหนุนให้เศรษฐกิจต่างจังหวัดเริ่มผงกหัวขึ้น โดยเฉพาะหลังเก็บเกี่ยวในไตรมาส 1/62 นี้เลย เราแนะนำ กลุ่มหุ้นได้ประโยชน์สูงสุด คือ CPF, TU, CPALL, GLOBAL และ M
หุ้นมีข่าว
(+) TMB คลังเล็งใช้สูตรแลกหุ้นทหารไทยกับธนชาต P/BV ของทั้งสองแบงก์ใกล้เคียงกัน TMB อยู่ที่ 1.04 เท่า และ TCAP อยู่ที่ 0.97 เท่า หลังผู้บริหารธนชาตเข้าพบ รมว.คลัง คาดใช้เวลาทำดีลประมาณ 2-3 เดือน (ที่มา ข่าวหุ้น)
(*) ค้านขึ้นดอกเบี้ย นักวิชาการหวั่นหนี้ครัวเรือนพุ่ง กรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) นัดประชุมในวันที่ 19 ธันวาคม 2561 เพื่อกำหนดอัตราดอกเบี้ยนโยบาย ขณะที่หลายฝายวิเคราะห์ว่าแนวโน้มที่กนง. จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจากปัจจุบันอยู่ที่ 1.50% เพิ่มขึ้นอีก 0.25% (ที่มา แนวหน้า)
(+) AOT ทอท. เตรียมเสนอบอร์ด 19 ธ.ค.นี้ ชี้ขาดสร้างเทอร์มินัล 2 หลังไอเคโอ มีหนังสือตอบความเห็นการใช้ประโยชน์ที่ดิน ด้านทิศเหนือ จ่อรวบประมูลดิวตี้ฟรี สุวรรณภูมิ 3 สนามบินสัญญาเดียว (ที่มา ฐานเศรษฐกิจ)
(+) คว้าที่มักกะสันโคตรถูก เจ้าสัวทุ่มลงทุนไฮสปีดเทรน 2.2 แสนล้าน ร.ฟ.ท.อุบไต๋ผู้ชนะประมูลรถไฟเชื่อม 3 สนามบิน วงในระบุ 2 เจ้าสัวบีทีเอส-ซีพีดัมพ์ราคา หวังคว้าขุมทรัพย์มักกะสัน 128 ไร่แสนถูกแค่ปีละ 820 ล้าน พัฒนาพื้นที่ได้กว่า 1 ล้านตร.ม. มูลค่ากว่าแสนล้าน (ที่มา ฐานเศรษฐกิจ)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1609.45 (-0.34%) มูลค่าการซื้อขาย 4.4 หมื่นล้านบาท
Bounce or Break down 1600 points!
ดัชนีดีดกลับหรือหลุดระดับ 1600 จุด มีโอกาสเกิดแบบใดมากที่สุด?
ดัชนีปรับตัวลดลงเข้าใกล้แนวรับสำคัญ 1600 จุด มุมมองทางเทคนิคเราจำลองสถานะการณ์ความเป็นไปได้ 2 แบบคือ: 1.ดัชนีดีดกลับ 1600 จุด 2. ดัชนีหลุด 1600 จุด คำถาม: ตลาดมีโอกาสเกิดแบบใด? เราคาดว่าดัชนีจะมีแรงซื้อ Cover short บริเวณแนวรับเดิม 1600 จุด เนื่องจากดัชนีกำลังเคลื่อนเข้าสู่ภาวะ Oversold ปริมาณการซื้อขายคาดว่าจะชะลอตัวลงภายหลังจากสถาบันในประเทศขายหุ้นปรับพอร์ตเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นที่มีการปรับตัวลงแรงเช่น PTT, ADVANC, SCC, TOP, เริ่มมีสัญญาณ Cover short ซื้อหุ้นกลับคืน อย่างไรก็ตามหากเกิดกรณีดัชนีปรับตัวลงต่ำกว่าแนวรับ 1600 จุด เราคาดว่าเครื่องมือทางเทคนิค RSI จะเกิดภาพ "Bullish divergence" สัญญาณเตือนรูปแบบปลายทางขาลงหรือการกลับตัว สรุป: แนวโน้มตลาดเราคาดว่าตลาดมีความเสี่ยงของการปรับตัวลงจำกัดหรือมีโอกาสฟนตัวขึ้นได้ นอกจากนี้เงินปันผลตลาด SET dividend yield จะปรับเพิ่มขึ้นมากกว่า 3.12% อาจดึงดูดให้เม็ดเงินไหลกลับ
กลยุทธ์การเทรดหากตลาดส่งสัญญาณรีบาวด์ เราจะเลือกใช้ parameter ที่เหมาะสม ได้แก่ 1. ราคาปรับตัวลงแรงเข้าสู่ภาวะขายมากเกินไป Oversold 2.โครงสร้างบ่งชี้สัญญาณกลับตัวจากกราฟแท่งเทียน เช่น รูปแบบ Hammer หรือ Doji 3.ราคาลงทดสอบแนวรับ Trend support แล้วดีดกลับ 4. ใช้จุด Stop loss เป็นตัวจำกัดความเสี่ยง Technical screen Bull Signal: SCB, COM7, BJC
Technical screen Bull Signal:TOP, ADVANC, BJC
Technical screen Bear Signal: BTS, KTB, STEC,
Port หุ้นคงเหลือ: CPALL, COM7 ,RS, SCB, TISCO, M, BJC
แนวโน้มระยะสั้นมอง SET Index แนวรับ 1,600 แนวต้าน 1,620 / SET100 รับ 2350 ต้าน 2380
BSET100 รับ 10.20 ต้าน 10.30 / BMSCITH รับ 12.05 ต้าน 12.20
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
TOP
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย: 74.00
Stop loss <67.00
เหตุผล: หุ้นปรับตัวลงมาทดสอบจุดต่ำสุดเดิม 68.25 ขณะที่ RSI เข้าสู่ภาวะขายมากเกินไป นอกจากนี้กราฟแท่งเทียนส่งสัญญาณการปรับขึ้นระยะสั้น " Tweezer bottom"
ADVANC
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย: 178.00
Stop loss <166.00
เหตุผล: หุ้นปรับตัวลงมากกว่า 15% ปัจจุบันพบวอลุ่มเพิ่มสูงขึ้น พร้อมกับราคาปิดสูง ขณะที่ RSI ส่งสัญญาณเตือนการกลับตัว "Bullish divergence"
BJC
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย: 58.00
Stop loss <53.00
เหตุผล: หุ้นปิดเหนือเส้นแนวโน้ม บ่งชี้การเปลี่ยนโครงสร้างเป็นขาขึ้น ยืนยันด้วยสัญญาณ Bull MACD