- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 17 December 2018 16:46
- Hits: 2475
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์ : SET Index เมื่อวันศุกร์ปรับตัวลง -5.54 จุด (-0.34%) ปิดที่ 1,609 จุด มูลค่าการซื้อขาย 4.49 หมื่นล้านบาท ตอบรับตัวเลขเศรษฐกิจจีนทั้งการผลิตภาคอุตสาหกรรม และยอดค้าปลีกเดือนพ.ย.ชะลอตัวลง ประกอบกับ ECB เตือนเศรษฐกิจยูโรโซนมีความเสี่ยงในช่วงขาลงจากผลกระทบนโยบายกีดกันทางค้าพร้อมกับมีการปรับลดคาดการณ์การขยายตัว GDP ลง ทั้งนี้นักลงทุนต่างชาติเป็นขายสุทธิ 1,478 ล้านบาท และขายในตลาดพันธบัตร 2,805 ล้านบาท พร้อมทั้ง Net Short TFEX 292 สัญญา
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : คาด SET Index แกว่งตัว 1,600-1,620 จุด จากความกังวลภาวะเศรษฐกิจกลุ่มประเทศขนาดใหญ่ได้แก่ จีน ยุโรป สหรัฐจะชะลอตัวลงจากผลกระทบการกีดกันทางการค้า โดยล่าสุดตัวเลขผลผลผลิตอุตฯและยอดค้าปลีกของจีนเดือนพ.ย.ต่ำกว่าคาด และ ECB มีการปรับลดการขยายตัวเศรษฐกิจยูโรโซนปีนี้และปีหน้าลง ส่วนสหรัฐตัวเลข PMI ภาคการผลิตและบริการเดือนธ.ค.ปรับตัวลงต่ำสุดในรอบ 19 เดือนที่ 53.6 จุด นอกจากนี้คาดว่านักลงทุนจะชะลอการลงทุนเพื่อรอผล 2 การประชุมสำคัญ ได้แก่ การประชุม FOMC ในวันที่ 18 – 19 ธ.ค. (คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 2.5%) และการประชุมกนง.วันที่ 19 ธ.ค. (คาดขึ้นดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.75%) ซึ่งจะกดดันให้ภาวะตลาดแกว่งตัวผันผวนด้วย Volume เบาบาง
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy เน้น Domestic play
•กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) ยอดใช้จ่ายเพิ่มในช่วงปลายปี
•กลุ่มไฟแนนซ์ (MTC, SAWAD) คาดงบ 4Q18 เติบโตต่อเนื่องจากการขยายสินเชื่อและสาขาเพิ่มขึ้น
•กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกกรอบการเลือกตั้งชัดเจนขึ้น
•หุ้น Defensive Stock ในช่วงตลาดผันผวน BDMS, BCH รวมถึง TTW
หุ้นแนะนำวันนี้ : BGRIM (26.75 ซื้อ/เป้า 33) เก็งกำไรกลุ่มโรงไฟฟ้าโดย กกพ.ประกาศแผน PDP ใหม่ในเดือนนี้ส่งผลดีต่อ Sentiment การลงทุนในกลุ่มจาก New growth story, CPALL (ปิด 71 ซื้อ/เป้า 80) ตัวแทนกลุ่มค้าปลีก โดยสถิติเลือกตั้ง 5 ครั้งหลังสุดของไทย กลุ่มค้าปลีกเป็นกลุ่มที่ให้ผลตอบแทนดีสุดทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง, SVI (5.05 ซื้อ/เป้า 6.3) ตลาดกังวลกำไร 4Q18 ชะลอตัวจากการตัดจำหน่าย Goodwill มากเกินไป ซึ่งเรามองผลกระทบดังกล่าวมีความเป็นไปได้น้อยมาก ทำให้แนวโน้มกำไรยังเติบโตได้ดี ราคาที่ลดลงจึงเป็นโอกาสเข้าซื้อ และเราเลือก SVI เป็น Top Pick ของกลุ่ม อิเล็กทรอนิกส์
Top picks ปี 2019 : BGRIM, CPALL, EA, EPG, JMT และ ROBINS
KSS report วันนี้ : CK (ปิด 25.25 ซื้อ/เป้า 31), SVI (ปิด 5.05 ซื้อ/เป้า 6.3)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
• (-) ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกร่วงแรงในช่วงปลายสัปดาห์ เนื่องจากนักลงทุนกังวลการชะลอตัวทางเศรษฐกิจของ จีน, ยุโรป และ สหรัฐ : เมื่อวันศุกร์ดัชนีตลาดหุ้นทั่วโลกผันผวนรุนแรง หลังจากประเทศเศรษฐกิจหลักของโลก นำโดย จีน, ยุโรป และ สหรัฐ ต่างรายงานตัวเลขหรือดัชนีชี้นำเศรษฐกิจออกมาชะลอตัวในหลายรายการ เริ่มจากจีนรายงานตัวเลขการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือน พ.ย.ขยายตัว 5.4%yoy ลดลงจากที่ขยายตัว 5.9% ในเดือน ต.ค.เช่นเดียวกับยอดค้าปลีกขยายตัว 8.1%yoy ลดลงจาก 8.6%yoy ในเดือน ต.ค. ด้านสหรัฐรายงานดัชนี PMI ภาคการผลิตและบริการเดือน ธ.ค.ลดลงสู่ระดับ 53.6 จาก 54.7 ในเดือน พ.ย. นับเป็นการลดลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 19 เดือน ส่วนยูโรโซนยังเป็นความกังวลต่อเนื่องจากการที่ ECB ประกาศลดคาดการณ์ GDP ปีนี้และปีหน้าเป็นขยายตัว 1.9% และ 1.7% จากเดิมคาดว่าจะขยายตัว 2% และ 1.8% ตามลำดับ
• (+/-) ประชุม เฟด ประเด็นสำคัญอยู่ที่ถ้อยแถลงหลังการประชุม และ Dot plot ว่าจำนวนครั้งของการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าจะลดลงหรือไม่ซึ่งจะมีผลต่อทิศทาง Fund Flow : แม้ปัญหาสงครามการค้าจะกดดันเศรษฐกิจสหรัฐและเศรษฐกิจประเทศอื่นๆทั่วโลก แต่ตลาดยังมั่นใจว่าเฟดจะยังเดินหน้าขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้งในการประชุมเดือนนี้ (19 ธ.ค.) โดยมีปัจจัยผลักดันมาจากตลาดแรงงานที่แข็งแกร่งมากๆ ขณะที่อัตราเงินเฟ้อปรับตัวขึ้นเข้าใกล้เป้าหมายของเฟดที่ 2% (Headline inflation 5%, Core inflation 2.1, PCE price index 2%) โดย Bloomberg Consensus คาดความน่าจะเป็นที่เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยในเดือน ธ.ค.อยู่ที่ 72.4% แต่ประเด็นสำคัญของการประชุมครั้งนี้อยู่ที่ถ้อยแถลงหลังการประชุม รวมถึง Dot plot ของคณะกรรมการเฟดว่าจะมีการส่งสัญญาณหรือเปลี่ยนแปลงจำนวนครั้งในการขึ้นอัตราดอกเบี้ยในปีหน้าหรือไม่ โดย CME Group คาดจำนวนครั้งของการขึ้นดอกเบี้ยในปีหน้าจะลดลงเป็น 1 ครั้ง จาก 2 ครั้งซึ่งจะส่งผลบวกต่อทิศทาง Fund Flow ที่จะชะลอการไหลออกและอาจพลิกเป็นไหลเข้าในตลาดเกิดใหม่
• (+/-) ประชุม กนง.มีลุ้นขึ้นดอกเบี้ย 0.25% นับเป็นการขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 8 ปี : เนื่องจากการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินในครั้งที่ผ่านมามีมติให้คงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 1.5% แต่มติไม่เป็นเอกฉันฑ์ที่ 4:3 เทียบกับมติในครั้งก่อนที่ 5:2 สะท้อนได้ว่ามีคณะกรรมการที่ต้องการให้ขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้นจาก 2 คน เป็น 3 คน โดยเหตุผลที่แบงก์ชาติจะขึ้นดอกเบี้ยไม่ได้มาจากความร้อนแรงของเศรษฐกิจหรือเงินเฟ้อที่พุ่งสูง แต่เป็นการขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงในอนาคตซึ่งเกิดจากการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงขึ้น (Search for yield) โดยที่คำนึงถึงความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควรจะเป็น โดยเบื้องต้นแบงก์กรุงศรีฯยังคาดการณ์ว่าการประชุมของแบงก์ชาติในวันที่ 19 ธ.ค.จะมีมติให้ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย 0.25% เป็น 1.75% นับเป็นการขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 8 ปี เป็นบวกต่อ Sentiment ของหุ้นในกลุ่มธนาคาร โดยเฉพาะธนาคารขนาดใหญ่ อาทิ BBL, KBANK, SCB และ KTB
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี