- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 12 December 2018 16:22
- Hits: 1600
บล.เออีซี : Daily Focus
AECS Daily Focus
Trading Idea: VGI
Market Outlook
• เมื่อวานนี้ SET Index ปิดที่ 1,633.62 จุด -16.37 จุด (-0.99%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.28 หมื่น ลบ. หลังนักลงทุนต่างชาติขายสุทธิติดต่อกันเป็นวันที่ 3 ด้วยมูลค่า 1,435 ลบ. สำหรับวันนี้เราคาด SET Index ปรับขึ้น โดยมีแนวรับ-แนวต้านที่ 1,625 และ 1,647 จุด ตามลำดับ ด้วยแรงหนุนหลังคสช.ปลดล็อกให้ ปชช.และนักการเมืองทำกิจกรรมการเมืองได้
Market Factors
• (+) เริ่มมีสัญญาณบวกเล็กน้อยต่อประเด็นสงครามการค้าสหรัฐฯ-จีน หลังมีรายงานว่าจีนเตรียมลดภาษีรถยนต์สหรัฐฯ จาก 40% เหลือ 15% พร้อมเพิ่มสัดส่วนการนำเข้าสินค้าเกษตรจากสหรัฐฯ มากขึ้น
• (-) นายโดนัลด์ ทรัมป์ และแกนนำของเดโมแครตในทำเนียบขาว มีความเห็นขัดแย้งกันต่อประเด็นการขอเพิ่มงบประมาณกว่า 5,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ เพื่อใช้สร้างกำแพงกั้นเขตแม็กซิโก โดยภายหลังทรัมป์ขู่ที่จะไม่ยอมอนุมิติร่างงบประมาณที่จะครบกำหนดวันที่ 21 ธ.ค. ซึ่งจะทำให้หน่วยงานภาครัฐฯ เข้าสู่ภาวะ Shut Down ทั้งนี้ล่าสุด (ข้อมูลเดือน เม.ย.- ก.ค.) สหรัฐฯ มีสัดส่วนหนี้สาธารณะต่อ GDP อยู่ที่ 104.1%
• (+) หัวหน้า คสช.ใช้ ม.44 ยกเลิกคำสั่ง-ประกาศ เพื่อปลดล็อกให้ ปชช.-พรรคการเมืองดำเนินกิจกรรมทางการเมือง (สำนักข่าวอินโฟเควสท์)
Investment Strategy
• เรามีมุมมองเชิงบวกต่อ SET Index จนถึงสิ้นปีนี้ โดยประเมินกรอบแนวรับ-แนวต้านที่ 1,622–1,707 จุด (Fwd PE Valuation 15.1x-15.9x) หนุนด้วยการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในเดือน ก.พ.62 ที่มีความชัดเจนยิ่งขึ้น บวกกับข้อมูลสถิติ พบว่า SET Index เดือน ธ.ค. 7 ใน 10 ปีย้อนหลัง ปรับตัวขึ้นราว 5% จากเงินลงทุน LTF ของนักลงทุนสถาบัน ขณะที่ปัจจัยลบจากต่างประเทศเริ่มมีผลต่อตลาดหุ้นไทยลดลง เราจึงแนะนำหุ้น Overweight ในหุ้น Domestic Play 4 กลุ่มหลักในการลงทุนในปลายปีนี้และต้นปีหน้า ที่คาดได้อานิสงส์จากมาตรการต่างๆจากภาครัฐ บวกกับคาดผลการดำเนินงานเติบโตดีในปีนี้ ได้แก่
1. กลุ่มOut of Home Mediaซึ่งมีฐานต่ำในปีก่อน จากได้รับผลกระทบจากการขึ้นป้ายไว้อาลัยบวกกับคาดเม็ดเงินโฆษณามีทิศทางสดใสขึ้นรับผลบวกในช่วงก่อนเลือกตั้ง แนะนำPLANB (แผนขยายMedia Capacity 15-20%YoY และสร้างจุดเด่นด้วยEngagement Marketing), VGI (รับรู้รายได้ป้ายโฆษณาบนสถานีBTS ที่เพิ่มขึ้นตามการเปิดให้บริการรถไฟฟ้าสายใหม่บวกกับแรงหนุนจากSynergy ในกลุ่มธุรกิจที่ชัดเจนขึ้น) และ MACO (ปรับปรุงจอโฆษณาจาก Static เป็น Digital ในเชิงรุกมากขึ้นหลังควบรวม Trans Ad. และRoctec รวมทั้งมีรายได้จาก VGM เพิ่มเข้ามาหลังรวมงบ)
2. กลุ่มค้าปลีก มองช่วง 4Q61 กำลังซื้อจะดีกว่าช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อนหน้าที่อยู่ในช่วงไว้อาลัยนอกจากนี้ปีหน้ายังมีอานิสงส์บวกจากมาตรการคืนVAT 5% ให้ประชาชนทุกคนที่ใช้จ่ายผ่านบัตรเดบิตผูกบัญชีพร้อมเพย์ ตั้งแต่ 1-15 ก.พ. 62 เพื่อกระตุ้นนโยบาย E-Payment เลือก ROBINS (คาดโตจากยอดขายที่เพิ่มขึ้นเพราะเปิดสาขาใหม่ และกลยุทธ์ปรับ Product Mixed มาเน้นขายสินค้าในกลุ่ม Private Brand มากขึ้น) CPN (คาดโตจากการเปิดศูนย์การค้าใหม่ และการปรับปรุงศูนย์การค้าที่เปิดดำเนินการอยู่แล้ว ควบคู่กับการบริหารต้นทุนการดำเนินงาน โดยปัจจุบัน CPN บริหารจัดการศูนย์การค้า 33 แห่ง มีพื้นที่ให้เช่าสุทธิรวม 1.7 ล้าน ตร.ม. เพิ่มจาก 1.6 ล้าน ตร.ม. ณ สิ้นช่วง 3Q60) และ COL (มีแผนขายสิทธิแฟรนไชส์เพื่อเปิดสาขาได้ราว 3-4 สาขาสำหรับปีนี้ และปีหน้าตั้งเป้าขยายอีก 15-20 สาขาและแผนเพิ่มกลุ่มสินค้าใหม่ เจาะลูกค้ากลุ่มโรงแรม ร้านกาแฟ และร้านอาหาร ซึ่งแผนงานนี้จะทำให้บริษัทมีรายการสินค้าเพิ่มเข้ามาอีก 4,000 SKU)
3. กลุ่มรับเหมาก่อสร้างคาดได้รับประโยชน์สูงสุดจากการเลือกตั้งรัฐบาลใหม่ในเดือน ก.พ.ปีหน้าซึ่งจะสะท้อนไปที่หลายโครงการภาครัฐที่จะเริ่มดำเนินการต่อบวกกับในช่วงเดือน ธ.ค.61-ก.พ.62 มีโครงการขนาดใหญ่ของภาครัฐที่อยู่ระหว่างการพิจารณาคุณสมบัติและยื่นซองประมูล ได้แก่ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม3สนามบินและโครงการพัฒนาท่าเรือแหลมฉบังเฟส3เป็นต้นแนะนำ CK STEC บริษัทรับเหมาก่อสร้างขนาดใหญ่ที่อยู่ระหว่างการยื่นซองประมูลโครงการดังกล่าวและมี Backlog 5.5 หมื่น ลบ.และ 1 แสน ลบ.ซึ่งคาดเพียงพอรับรู้รายได้ราว 2-3 ปี, UNIQ บริษัทรับเหมาก่อสร้างที่มี Backlog 3.4หมื่น ลบ. ซึ่งเป็นงานภาครัฐโดนเฉพาะงานรถไฟฟ้า และ SEAFCO บริษัทรับเหมาก่อสร้างเสาเข็มซึ่งได้งานจากทั้งภาครัฐทั้งรถไฟฟ้ารวมถึงงานภาคเอกชนโดยเฉพาะตึกสูงและมี Backlog ในมือราว 2.8 พัน ลบ.คาดเพียงพอต่อการรับรู้รายได้ 1-2 ปีข้างหน้า
4. กลุ่มนิคม มองได้อานิสงค์บวกจากการเลือกตั้งที่มีความคืบหน้าชัดเจนขึ้น คาดหนุนทั้งราคาขายและยอดขายพื้นที่ในเขต EEC โตเด่น แนะนำ AMATA (ปัจจุบันมีพื้นที่รอการขาย 2,777 ไร่ และพื้นที่รอการพัฒนาอีกราว 8,172 ไร่) ,WHA (ปี 62 ตั้งเป้าขายที่ดินในนิคมไม่ต่ำกว่า 1,000 ไร่ พร้อมคาดได้รับลูกค้าคลังสินค้าเพิ่มขึ้นอีกกว่า 1 แสนตารางเมตร)
11-Dec-18 Change (pts.) 7-Dec-18
SET Index 1,633.62 -16.37 1,649.99
SET50 Index 1,086.83 -12.74 1,099.57
SET100 Index 2,399.13 -28.66 2,427.79
High 1,647.88 Gainers 315
Low 1,633.11 Unchanged 358
Value (Bt m) 42,897.10 Losers 1,098
Volume (*000) 12,195,503
Market Valuation
SET Data 2018F 2019F Long Term
Fwd PER (x) 15.2 14.0 14.0
EPS Growth (%) 13.9 9.3 5.8
EV/EBITDA (x) 10.5 9.8 9.3
FWD PBV (x) 1.9 1.8 1.6
Dividend Yield (%) 3.2 3.4 3.7
ROE 13.1 12.3 12.3
Net Buy/Sell by Investor Types
Unit : M Bt 11-Dec-18 WTD MTD YTD
Institution (403.15) (403.15) 9,298.39 187,891.27
Proprietary (470.85) (470.85) (282.58) (7,642.29)
Foreign (1,435.37) (1,435.37) 4,654.85 (282,511.14)
Individual 2,309.38 2,309.38 (13,670.66) 102,262.16
AECS ( Fundamental and Strategic Team )
อิศรา เลิศสุดคนึง (ID.033432) [email protected]
ตฤณ สิทธิสวัสดิ์ (ID. 091364) [email protected]
จิรภัทร โบสุวรรณ (ID. 040051) [email protected]
ภัทรพล จันทร์อินทร์ (ID. 089932) [email protected]
ธีรยุทธ ฤทธิเผ่าพันธุ์ ผู้ช่วยนักวิเคราะห์
สุวรรณา อัศวเหล่าวรพงศ์ Data Support / Secretary