- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 11 December 2018 15:43
- Hits: 1943
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
Market summary
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ตลาดหุ้นแกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงขายในกลุ่มพลังงานอย่าง PTT, PTTEP และกลุ่ม ICT อย่าง ADVANC, INTUCH อย่างไรก็ตามกลุ่มค้าปลีกยังคงมีแรงซื้ออย่างต่อเนื่องนำโดย BJC, CPALL, GLOBAL สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,649.9 จุด (-3.74 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.5 หมื่นลบ.ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.8หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ที่ 1,159 ล้านบาท พร้อมเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 5,037 สัญญา
Investment theme
การเมือง/การค้าสหรัฐและจีนกลับมาน่ากังวลอีกครั้ง : ภายหลังการประชุม G20 เมื่อ 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นโลกปรับขึ้นเด่นจากข้อสรุปการเลื่อนการขึ้นภาษี 25% บนวงเงิน 2.0 แสนล้านเหรียญสหรัฐออกไป 90 วัน อย่างไรก็ตามความกังวลกลับมาอีกครั้งภายหลัง 1) แคนาดาประกาศจับกุมผู้บริหาร Huawei พร้อมเตรียมส่งตัวให้สหรัฐ และ 2) สหรัฐรายงานยอดขาดดุลการค้าเดือนต.ค.สูงสุดในรอบ 10 ปีที่ระดับ 5.5 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ โดยขาดดุลจีนเพิ่มขึ้น 7.1% ที่ 4.3 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐ ทั้ง 2 เรื่องสร้างความกดดันให้กับตลาดหุ้นอีกครั้ง โดยนักลงทุนเริ่มกังวลว่าจีนจะยกเลิกการเจรจาการค้ากับสหรัฐหากไม่ยอมปล่อยตัวผู้บริหาร Huawei ในขณะที่ตัวเลขขาดดุลสหรัฐยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องทั้งๆที่เริ่มให้นโยบายกำแพงภาษี นั่นแสดงถึงนโยบายการบริหารของ Trump ที่เริ่มไม่เห็นผล ประกอบกับนโยบาย FED ล่าสุดที่เริ่ม Hawkish ลดลง ในระยะสั้นภาพดังกล่าวอาจส่งผลให้ Dollar กลับมาอ่อนค่า เป็นบวกอ่อนๆต่อการลงทุนในตลาดหุ้นเอเชีย
Investment Theme: ภาพรวมการลงุนเดือนธ.ค. จากสถิติย้อนหลัง 10 ปี เราพบว่า SET มักปรับตัวขึ้นเฉลี่ย 1.80% เมื่อเทียบกับเดือนพ.ย. ภาพรวมเราแนะลงทุนกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL) และ สื่อ Out of home media อย่าง VGI, MACO คงมุมมองกรอบ SET เดือนธ.ค.ที่บริเวณ 1,630-1,720 จุด พร้อมถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40%
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา : ดร.วิษณุแถลงวันเลือกตั้ง 24 ก.พ. พร้อมปลดล็อคให้นักการเมืองเริ่มหาเสียงได้วันที่ 2 ม.ค. / บัตรสวัสดิการสามารถกดเงินสด 500 บาทได้แล้ว / ศาลจีนรับตัดสินให้ Apple หยุดจำหน่าย Iphone บางรุ่นในประเทศจีน
Stock pick : -
Trading idea - ทยอยสะสมกลุ่ม Defensive Plays เช่น EGCO, BEM / ทยอยสะสม BJC, CPALL, VGI (3 หุ้น Stock pick ในบทวิเคราะห์ กลยุทธ์การลงทุนเดือนธันวาคม)
Technical View
หลุด 1645 Downside แนวโน้มกลับเป็นขาลง แนะนำพิจารณาแนวรับถัด 1620: ในช่วงเช้าดัชนีแกว่งทรงตัว ก่อนที่ช่วงบ่ายดัชนีปรับตัวลงจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ธนาคารและสื่อสาร แม้มีแรงซื้อกลุ่มค้าปลีกช่วยประคองไว้ แต่ก็ทำให้ดัชนีปรับตัวลงและปิดที่เกือบ Low ของวัน ประกอบกับ Modified Stochastic ที่เริ่มตัดตัวลงจากเขต Overbought จึงมองว่าดัชนีมีโอกาสปรับตัวลงหลุดแนวรับ 1645 ซึ่งจะทำให้ดัชนีเปลี่ยนจาก Sideway เป็นขาลงอีกครั้ง แนะนำพิจารณาการหยุดลงที่แนวรับถัดๆไปที่ 1630 และ 1620 ตามลำดับ กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากหลุด 1645 แนะนำ Stop Loss เนื่องจากแนวโน้มจะเปลี่ยนเป็นขาลง หรือหากเกิดแรง Rebound มองเป็นโอกาสลดพอร์ตการลงทุน และพิจารณาการหยุดลงที่แนวรับ 2) ไม่มีหุ้น: แนะนำชะลอการลงทุน และพิจารณาจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงและ Rebound ที่แนวรับ
แนวรับ : 1620, 1630 แนวต้าน : 1660, 1670
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: 11 ธ.ค. สภาอังกฤษพิจารณา Brexit
ปัจจัยในประเทศ: 11 ธ.ค. ครบกำหนดพ.ร.ป.การเลือกตั้งส.ส. 90 วัน
หุ้นเทคนิค:
MTC (B 47.00-48.50, Tp 51.00//53.00, Cut 46.50)
SEAFCO (B 9.60-9.70, Tp 10.00//10.50, Cut 9.50)
ข่าวเด่นเช้านี้
TRC ข่าวดีฮุบงานกฟน. มูลค่ากว่า 267.29 ล้าน จ่อประมูลอีกหมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)
TRC คว้างาน กฟน.มูลค่า 267.29 ล้านบาท ตั้งเป้าปี 62 รายได้แตะ 3,500-3,800 ล้านบาท ตุนแบ็กล็อก 5,800 ล้านบาท จ่อประมูลอีกกว่า 10,000 ล้านบาท แย้มเจรจาซื้อกิจการธุรกิจ ASRS คาดได้ข้อสรุปไตรมาส 1/62
ความเห็น : งาน กฟน. 267 ล้านบาท ไม่สูงนัก เมื่อเทียบกับ Backlog 5.8 พันล้านบาท แนวโน้มไตรมาส 4Q61 และ ปี 2562 จะฟื้นตัวดีขึ้น จากการรับรู้งานในมือ 5.6 พันล้านบาท นอกจากนี้ TRC มีแผนที่จะเข้าประมูลงานมากกว่า 1 หมื่นล้านบาท อย่างไรก็ตามโครงการโปแตซ ซึ่ง TRC ถือหุ้น 25% มีเงินลงทุน 1,222 ล้านบาท ผู้สอบบัญชีเริ่มมีการรับรองงบแบบมีเงื่อนไข ทำให้เรากังวลจะมีความเสี่ยงที่จะตั้งสำรองในอนาคต ช่วงนี้ชะลอการลงทุน
TASCO มั่นใจปี 62 ธุรกิจปรับสู่ไฮซีซั่น (ดอกเบี้ยธุรกิจ)
หลังผลงานโค้งสุดท้ายของปี 2561 ฟื้นตัวสร้างความมั่นใจให้ผู้บริหาร TASCO ประกาศตลาดในประเทศเข้าสู่ช่วงไฮซีซั่นและตลาดต่างประเทศปริมาณขายดีมาก โดยเฉพาะอินโดนีเซีย เวียดนาม และมาเลเซีย มีความต้องการยางมะตอยสูง รวมทั้งโรงกลั่นยางมะตอยที่มาเลเซีย มีอุปทานน้ำมันดับเข้ามาป้อนอย่างสม่ำเสมอ
ความเห็น : TASCO เริ่มมีน้ำมันดิบเข้ามาป้อนอย่างสม่ำเสมอ คาดจะหนุนให้ผลประกอบการ 4Q61 และ ปี 2562 จะฟื้นตัวดีขึ้น และ ยังมีอัพไซด์เพิ่มจากเงินประกันที่จะทยอยชำระเป็นงวดๆ การทยอยอัพเกรดโรงกลั่นน้ำมันชั้นนำในภูมิภาคนี้ ทำให้ชัพพลายยางมะตอยหายไปรวมเกือบ 2 ล้านตัน จะส่งผลบวกต่อ TASCO เราแนะนำ TRADING BUY ประเมินเป้าหมาย 17 บาท เทคนิครีบาวน์ ต้าน 16.6 รับ 15.7 บาท
WICE ปี62 ปั้นรายได้ 2.2 พันล้าน แย้มงบไตรมาส 4/61 โตดี หนุนปี 61 รายได้พุ่ง 30% (ข่าวหุ้น)
WICE แย้มงบไตรมาส 4/61 ขยายตัวต่อเนื่อง ดันรายได้ปี 61 เข้าเป้าโตไม่ต่ำกว่า 30% แตะ 1,800 ล้านบาท ตั้งเป้ารายได้ปี 62 โต 25-30% แตะ 2,200 ล้านบาท รับฐานลูกค้าส่งสินค้าทางอากาศขยายตัวดี-ธุรกิจขนส่งข้ามชายแดนหนุน
ความเห็น : คาดกำไรปี 2562 เติบโต 29.6% โดยแรงขับเคลื่อนที่สำคัญอย่างหนึ่งคือ การขยายกิจการด้วยการทำ Logistic Network ผ่าน ETL โดยจะเริ่มต้นในช่วง 4Q61 ส่วนประเด็นความเสี่ยงจากภายนอกเราได้ปรับเข้าไปในประมาณการผ่าน GPM ในแบบอนุรักษ์นิยม จึงประเมินราคาเป้าหมายปี 2562 ที่ระดับ 5.45 บาท อิง PE 24.6 เท่า (PEG0.8) จากเดิมที่ 26.3 เท่า (PEG1.0) เทคนิคแกว่ง sideway กรอบ 4.0-4.32 บาท
BGRIM คาดปีหน้าโต 16% โชว์รายได้ 4.2 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)
"BGRIM" กางแผนปี 62 ปั๊มรายได้ 42,000 ล้านบาท โต 16% จากปี 61 เตรียม COD เพิ่มอีก 5 โครงการ กำลังการผลิตรวม 863 MW หนุนกำลังการผลิตพุ่ง 2,939 MW ส่วนไตรมาส 4/61 แจ่ม! หลัง COD เพิ่มอีก 164 MW ดันปีนี้กำลังการผลิตแตะ 2,076 MW ล่าสุดวันนี้เซ็นสัญญาออกหุ้นกู้ Green Bond มูลค่า 5,000 ล้านบาท
ความเห็น : เราแนะนำ Trading Buy BGRIM จากแนวโน้มผลประกอบการ 4Q61 ที่คาดจะยังคงถูกกดดันจากต้นทุนก๊าซฯ ที่สูงขึ้น แต่คาดจะทยอยปรับตัวดีขึ้นในปี 2562 ตามค่า Ft ที่เริ่มขยับขึ้นสะท้อนต้นทุนเชื้อเพลิง กำลังการผลิตในมือ เติบโตเด่น Valuation เหมาะสม ราคาเป้าหมาย 30 บาท ด้านเทคนิคกำลังทดสอบแนวรับเส้น EMA200 วัน ที่ 26 บาท
RATCH ทุ่มงบ 2.69 พันล้าน ซื้อหุ้นโรงไฟฟ้าพลังน้ำอินโดฯ (ข่าวหุ้น)
RATCH เดินหน้าขยายธุรกิจ ทุ่มงบ 2,690 ล้านบาท ซื้อหุ้น 50% ใน FRD รุกพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังน้ำอาซาฮาน-1 ขนาด 180 MW ในอินโดนีเซีย โบรกฯ มองส่งผลดีระยะยาว เพิ่มโอกาสทางธุรกิจในอินโดนีเซีย
ความเห็น : การเข้าซื้อสัดส่วน 50% ใน Fareast Renewable Development (FRD) โดย FRD ถือสัดส่วน 53.21% ในโรงไฟฟ้าพลังน้ำ อาซาฮาน-1 (Asahan-1) ในประเทศอินโดนีเซีย เราประเมินเบื้องต้นคาดส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ Asahan-1 จะช่วยเพิ่มผลประกอบการให้ RATCH ไม่มาก (ประมาณ 1-2% ของคาดการณ์ของเรา) แต่ผลบวกจะมาจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำที่อยู่ระหว่างก่อสร้าง 2 โครงการ ของ FEGE ที่ RATCH มีความสนใจในการเข้าร่วมลงทุนเพิ่มเติม ซึ่งถือเป็น Upside ที่ยังไม่รวมในประมาณการ ดังนั้นยังคงแนะนำ ถือ ราคาเป้าหมาย 58 บาท เทคนิครีบาวน์ต้าน 51.5 รับ 49.5 บาท
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000