•    วานนี้ SET Index ปิดที่ 1,636.49 จุด -4.14จุด (-0.25%) ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.6 หมื่น ลบ. โดยนักลงทุนต่างชาติยังคงขายต่อเนื่องสุทธิ 579 ลบ.สวนทางกับนักลงทุนสถาบันที่  ซื้อสุทธิ 1,872 ลบ. ส่วนวันนี้คาด SET Index แกว่งในกรอบ 1,620-1,647 จุด โดยนักลงทุนบางส่วนชะลอการลงทุนเพื่อติดตามผลการประชุม G20 ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค.

•    (Alert) สุดสัปดาห์นี้เราแนะนำให้นักลงทุนติดตามข้อสรุปจากการประชุม G20 อย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะการพูดคุยนอกรอบระหว่างนายโดนัลด์ ทรัมป์ และสี จิ้น ผิ้ง เพื่อหาทางแก้ปัญหาด้านการค้า ทั้งนี้เรามองว่าการเจรจาดังกล่าวยังมีความไม่แน่นอนอยู่มากและอาจมีผลลัพธ์ออกมาแย่กว่าที่ตลาดคาด เนื่องจากล่าสุดสหรัฐฯ ยังกดดันจีนด้วยการขู่จะขึ้นภาษีสินค้าส่วนที่เหลืออีกกว่า 2.67 แสนล้านดอลลาร์ และการปรับอัตราภาษีที่เรียกเก็บจากสินค้า 2 แสนล้านดอลลาร์จาก 10% เป็น 25% ในช่วงปลายปี ซึ่งจะสร้างความเสียเปรียบทางการค้าให้กับจีนอย่างมาก เป็นปัจจัยกดดันแนวโน้มการเติบโตของ ศก. โลก

•    (+) ราคาน้ำมันดิบกลับมาปรับขึ้น 2.5%DoD หลังมีรายงานระบุว่ารัสเซียพร้อมที่จะให้ความร่วมมือในการลดกำลังการผลิตร่วมกับกลุ่ม OPEC ซึ่งเราคาดประเด็นดังกล่าวจะชัดเจนขึ้นหลังการพูดคุยนอกรอบระหว่างซาอุฯ และรัสเซียระหว่างการประชุม G20 

•    (Watch) วานนี้คณะกรรมการนโยบายปาล์มน้ำมันแห่งชาติ (กนป.) มีมติเห็นชอบมาตรการช่วยเหลือเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่มีการขึ้นทะเบียนกับกรมส่งเสริมการเกษตร 1.5 แสนรายให้ได้รับเงินช่วยเหลือ ไร่ละ 1,500 บาท/ไร่ ครัวเรือนละ 15 ไร่ ตามจำนวนที่ปลูกจริง วงเงินรวม 3.45 พัน ลบ. ลำดับต่อไป กระทรวงเกษตรและสหรกรณ์จะเร่งจัดทำรายละเอียดและเสนอที่ประชุมครม.โดยเร็วที่สุด คาดเริ่มจ่ายเงินให้กับเกษตรกรชาวสวนปาล์มที่เข้าร่วมโครงการตั้งแต่วันที่28 ธ.ค. (ที่มา: ประชาชาติธุรกิจ) 

•    (-) วานนี้มีงานสัมมนาส่องอสังหาฯ2019 ภายใต้หัวข้อ “Real Estate Outlook 2019” ผู้บริหารของ SENA และ SPALI แสดงความคิดเห็นว่า อสังหาฯใน ปี 62 จะเติบโตในอัตราที่น้อยลงโดยมีปัจจัยลบจากการขึ้นดอกเบี้ยและเกณฑ์ LTV ของธปท.ที่ออกมา แต่มีปัจจัยบวกจากการขยายตัวของ Mass Transit แต่ต้องระวังในเรื่อง Demand Supply ในพื้นที่นั้น 

•    สัปดาห์หน้าคาด SET Index ยังเคลื่อนไหวในกรอบ 1,615-1,658 จุด (Fwd PE 15.0-15.4x) โดยแม้ตลอดทั้งเดือนพ.ย. นักลงทุนต่างชาติจะยังคงขายสุทธิกว่า 1.46 หมื่น ลบ.แต่ดัชนีเริ่มกลับตัว โดยมีแรงซื้อสุทธิสวนทางจากนักลงทุนสถาบันรวมกว่า 1.37 หมื่น ลบ.ดังนั้นในช่วงนี้เราประเมินว่านักลงทุนกำลังจับตาการประชุม G20 (30 พ.ย.-1 ธ.ค.)และประชุม OPEC (6 ธ.ค.) ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อประเด็น Trade Wars และราคาน้ำมัน บวกกับมีแรงกดดันจากแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยของธปท.ซึ่งกระทบต้นทุนการทำธุรกิจ ดังนั้นเราแนะนำหุ้น Domestic Play ที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยค่อนข้างจำกัด ดังนี้ 1) หุ้นกลุ่มพลังงานทางเลือกและกลุ่มโรงแรมซึ่งโครงสร้างธุรกิจมีกระแสเงินสดแข็งแรง ได้แก่ SSP (S7.5,R7.9), BPP (S23,R23.5), GUNKUL(S3.06,R3.24), CENTEL(S41,R43)     2) หุ้นกลุ่มหนี้สินต่อทุนต่ำคาดได้รับผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยน้อย ได้แก่ TPIPP(S5.95,R6.30), HANA(S33,R35)3) บริษัทที่ Fixed Coupon Rate และมีสัดส่วนเงินกู้ระยะยาวสูง ได้แก่ KTC(S33,R35), MTC(S49,R51), SAWAD(S47.75,R51) และ 4) หุ้นกลุ่มที่ราคาหุ้นปรับลงแรง แต่มีโอกาสฟื้นตัวเร็วจากกำไรปี 62 ที่แข็งแกร่ง ได้แก่ BJC(S51.5,R53), BGRIM (S26.0,R27.5), MEGA(S32,R34)

*** (S,R) = (Support, Resistance) ใน 1 สัปดาห์ ***

•    ASK (BUY: Consensus [email protected]) กำไรช่วง 4Q61 มีคาดโตทั้ง QoQ และ YoY จากแผนเพิ่มความระมัดระวังในการปล่อยสินเชื่อ และการติดตามเจรจาหนี้กับลูกค้าที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำให้ค่าใช้จ่ายในการตั้งสำรองหนี้สงสัยจะสูญมีแนวโน้มต่ำลง อีกทั้งคาดปี 62 คาดกำไรโต 8%YoY หนุนด้วยยอดสินเชื่อรถบรรทุกที่โตขึ้นตามการลงทุนของภาครัฐฯ บวกกับการทยอยเปลี่ยนรถตู้อายุมากกว่า 10 ปีของผู้ประกอบการเพื่อรักษาสิทธิเดินรถ + Upside 16.2% และมีจุดเด่นที่ Div. Yield สูงราว 6.8% จึงแนะนำ “ซื้อ”

•    ROBINS (BUY: Consensus [email protected]) กำไรช่วง4Q61มีแนวโน้มโตQoQและYoYหนุนด้วยกำลังซื้อในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นบวกกับอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นหลังบริษัทปรับProduct Mixed มาเน้นขายสินค้าในกลุ่มPrivate Brand มากขึ้นขณะที่ปี62คาดกำไรโต12.2%YoY จากแผนขยายสาขาไซส์เล็กเจาะตลาดเมืองรองและเริ่มใช้ระบบOmni-Channel เพิ่มช่องทางขายและเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารต้นทุน + Upside 11.2% จึงแนะนำ“ซื้อ”

 

29-Nov-18    Change (pts.)    28-Nov-18

SET Index    1,636.49    -4.14    1,640.63

SET50 Index    1,087.85    -2.72    1,090.57

SET100 Index    2,401.14    -5.77    2,406.91

 

 

 

High    1,650.69    Gainers         56 

Low    1,635.19    Unchanged    59

Value (Bt m)    1,459.86    Losers   73 

Volume (*000)    510,454          

 

Market Valuation

SET Data    2018F    2019F    Long Term

Fwd PER (x)    15.2    14.0    14.0

EPS Growth (%)    13.9    9.3    6.0

EV/EBITDA (x)    10.4    9.6    9.2

FWD PBV (x)    1.9    1.7    1.6

Dividend Yield (%)    3.2    3.4    3.7

ROE    13.1    12.3    12.4

 

Net Buy/Sell by Investor Types

Unit : M Bt    29-Nov-18    WTD    MTD    YTD

Institution    1,872.29    10,763.76    13,704.34    177,620.64

Proprietary    (1,001.03)    (2,098.06)    1,730.20    (6,981.23)

Foreign     (579.66)    (4,486.27)    (14,620.72)    (287,793.74)

Individual    (291.60)    (4,179.43)    (813.81)    117,154.33