- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 29 November 2018 16:16
- Hits: 6705
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
เฟดส่งสัญญาณไม่เร่งรีบปรับขึ้นดอกเบี้ย
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : ไม่มี
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET เมื่อวานนี้ปรับขึ้นต่อ ปิดตลาดที่ 1640.63 (+6.36 จุด) นำโดยหุ้นกลุ่มพลังงาน และ Big Cap เช่น AOT,SCC, ADVANC, INTUCH, EGCO, VGI, BEM เป็นต้น สถาบันในประเทศซื้อสุทธิต่อ 2.06 พันล้านบาท ส่วน 3 กลุ่มที่เหลือขายสุทธิต่อ
# ระยะสั้นมากตลาดมีปัจจัยหนุนจากการที่เฟดจะไม่เร่งรีบปรับขึ้นดอกเบี้ย หลังปธ.เฟดระบุว่า “ดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐอยู่ต่ำกว่าระดับที่เป็นกลางเพียงเล็กน้อย” ด้านการเติบโตศก.สหรัฐปี 61 ขยายตัวดีกว่า 3% อัตราเงินเฟ้ออยู่ในเป้าหมายที่ 2%
# ดัชนีค่าเงิน US$ อ่อนลงเป็น 96.833 จาก 97.365 จากวันก่อนหน้า ดัชนี VIX ลดลงเป็น 18.49 จาก 19.02 ในวันก่อนหน้า ซึ่งเป็นสัญญาณบวกของตลาดหุ้น
# ติดตามผลประชุมผู้นำสหรัฐกับจีนในอีก 1-2 วันข้างหน้านี้ ประเทศต่างๆจะต้องปรับตัวรับมาตรการการค้าโลกที่เปลี่ยนแปลงไป...การดื่มไวน์ด้วยกันครั้งเดียวคงไม่สามารถจบความขัดแย้งทางการค้าทั้งหมดได้ เชื่อว่าการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนจะเป็นหนังซีรีย์ยาว
# ราคาน้ำมันดิบยังร่วงต่ออีกราว 2.5% เพราะสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 10 แล้ว ซึ่งเป็นลบต่อหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่เป็นบวกกับธุรกิจแอสฟัลท์ ธุรกิจขนส่ง (สายการบิน, เดินเรือประจำเส้นทาง) ติดตามผลประชุมโอเปก 6 ธ.ค.นี้ว่าจะลดการผลิตปีหน้าหรือไม่Update
หุ้นเด่น : BEM – ธุรกิจได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงภายนอกจำกัด อุปสงค์ทางด่วนและรถไฟฟ้าโตต่อเนื่อง มีโอกาสได้งานบริหารเดินรถเส้นใหม่เข้ามา เราเชื่อว่าจะได้ต่ออายุสัมปทานทางด่วนขั้นที่ 1 และ 2 ที่จะหมดอายุปี 63 แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 9.60 บาทการวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นตลาดเป็นบวกเล็กๆ ซื้อใหม่เน้นค่าบวกราคาหุ้นและดัชนี แนวต้านระยะสั้น 1650-1660 จุด, SET หลุด1630 จุดดูไม่ค่อยดี ให้ Stop loss หรือ Wait & see แนวเด้ง (แนวรับย่อย) อยู่ในพื้นที่ 1620-1600 จุด
สำหรับหุ้นที่มีสัญญาณเทคนิคดี แนะนำซื้อตามด้วยค่าบวกวันนี้เป็น TASCO (แนวต้าน 16.50, 17 บาท, ต่ำกว่า 15.5 Stop loss) และ BEM(แนวต้าน 9, 9.20 บาท, ต่ำกว่า 8.6 Stop Loss), PTTGC (แนวต้าน 79, 80 บาท, ต่ำกว่า 77 Stop Loss)
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ปธ.เฟดส่งสัญญาณไม่เร่งรีบปรับขึ้นดอกเบี้ย
# นายพาวเวลกล่าวสุนทรพจน์ที่สมาคมเศรษฐกิจแห่งนิวยอร์กว่า "อัตราดอกเบี้ยยังคงอยู่ในระดับต่ำเมื่อเทียบตามมาตรฐานในช่วงที่ผ่านมา และอยู่ต่ำกว่าเพียงเล็กน้อยจากระดับที่เป็นกลางต่อเศรษฐกิจ ซึ่งเป็นระดับที่ไม่ได้กระตุ้น หรือชะลอการขยายตัวของเศรษฐกิจ"
# และระบุว่าคณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ไม่ได้มีการกำหนดนโยบายล่วงหน้าว่าอัตราดอกเบี้ยควรอยู่ในระดับใด และจะทำการตัดสินใจด้านนโยบายการเงินตามพัฒนาการทางเศรษฐกิจ และสภาวะทางการเงิน
# รวมทั้งกล่าวว่าเศรษฐกิจสหรัฐว่าได้ปรับตัวอย่างดี โดยมีการขยายตัวสูงกว่า 3% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อถูกควบคุมอยู่ภายในเป้าหมายของเฟดที่ 2% ส่วนตลาดหุ้น มองว่าราคาหุ้นในขณะนี้อยู่ในระดับปกติ และเฟดไม่ได้เห็นความอันตรายที่เกิดจากราคาหุ้นที่พุ่งขึ้นมากเกินไป
# ความเสี่ยง คือ การก่อหนี้ในระดับสูงของบริษัทอสังหาริมทรัพย์และภาคเอกชนที่มีความเสี่ยงสูง
• สหรัฐ : จีดีพีงวด 3Q61 เติบโต 3.5%YoY เป็นไปตามที่ตลาดคาดการณ์ไว้
# ตัวเลขผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ไตรมาส 3 ของสหรัฐที่ขยายตัว 3.5% ซึ่งแม้ว่าต่ำกว่าระดับ 4.2% ในไตรมาส 2 แต่ก็ออกมาสอดคล้องกับการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ในวอลล์สตรีท และถือเป็นสัญญาณบ่งชี้ถึงความแข็งแกร่งของเศรษฐกิจสหรัฐ
+ ภาวะตลาดหุ้นนิวยอร์ก : ดัชนีดาวโจนส์ปิดพุ่ง 617.70 จุด
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 25,366.43 จุด พุ่งขึ้น 617.70 จุด หรือ +2.50% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,743.79 จุด เพิ่มขึ้น61.62 จุด หรือ +2.30% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,291.59 จุด พุ่งขึ้น 208.89 จุด หรือ +2.95% ปัจจัยหนุน คือ การที่เฟดจะไม่เร่งปรับขึ้นดอกเบี้ย
- ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาร่วงลงต่อราว 2.5%
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ร่วงลง 1.27 ดอลลาร์ หรือ 2.5% ปิดที่ 50.29 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENTส่งมอบเดือนม.ค. ดิ่งลง 1.45 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 58.76 ดอลลาร์/บาร์เรล
# EIA เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐเพิ่มขึ้น 3.6 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่แล้ว ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่10 และสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 769,000 บาร์เรล
# ติดตามผลประชุมกลุ่มโอเปก 6 ธ.ค.นี้ที่เวียนนา ว่าจะมีมติปรับลดปริมาณการผลิตในปี 62 ลงหรือไม่
+ ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาทองปิดเพิ่มขึ้น 1.7%
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. พุ่งขึ้น 10.20 ดอลลาร์ หรือ 0.8% ปิดที่1,223.60 ดอลลาร์/ออนซ์ หนุนโดยค่าเงินดอลลาร์ที่อ่อนตัวลง
ปัจจัยในประเทศ
- ไทย : สศค.เตรียมปรับคาดการณ์ GDP ปี 61 ใหม่ในเดือนม.ค.62
# โฆษกสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่าสศค. เตรียมปรับประมาณการตัวเลขเศรษฐกิจไทยปี 2561 อีกครั้งในเดือน ม.ค.62 จากทั้งปีตั้งเป้าหมายขยายตัว 4.5%
# ด้านผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ทางสศค.ยืนยันว่าภาพรวมตอนนี้ไทยยังไม่ได้รับผลกระทบจากปัจจัยเสี่ยงดังกล่าว ทั้งนี้แม้ว่าจะมีสินค้าบางรายการที่ได้รับผลกระทบบ้างจากการที่สหรัฐปรับขึ้นภาษีกับไทย อาทิ เหล็ก อลูมิเนียม โซล่าเซลล์ และเครื่องซักผ้า แต่ก็ยังมีสินค้าประเภทอื่นที่เข้ามาทดแทนได้ เช่นเดียวกับการส่งออกไปจีน ซึ่งมีหลายอุตสาหกรรมที่ขยายตัวได้ดีขึ้น อาทิ กลุ่มสินค้าเกษตร อาหารสัตว์ เนื้อหมู ในส่วนนี้ก็ชดเชยที่ติดลบได้
# ภาพรวมการท่องเที่ยวเชื่อว่าจะมีทิศทางที่ดีขึ้น หลังจากกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาได้ออกมาตรการต่าง ๆ เพื่อกระตุ้นความเชื่อมั่น โดยเฉพาะการแก้ปัญหานักท่องเที่ยวจีนที่ชะลอตัวลง
• กลต.จี้รื้อค่าธรรมเนียมกองทุน
# ก.ล.ต.สั่ง"บล.-บลจ."คิดค่าธรรมเนียมซื้อขายกองทุนให้เป็นธรรม เนื่องจากบางกองทุนยังคิดค่าธรรมเนียมสูง แต่บริหารได้อัตราผลตอบแทนใกล้เคียงกับกองทุนอื่นๆ แนะนำให้ผู้ประกอบการให้ความสำคัญกับลูกค้ามากกว่าบริษัท หวังเร่งพัฒนาบริการให้ดีขึ้น
• ก.ล.ต.-ตลท.ยันโรงเรียนเข้า SET ได้ "เอสไอเอสบี"เดินหน้าเทรด 29 พ.ย.นี้
# "ก.ล.ต.-ตลท." ยืนยันสถาบันการศึกษาเข้าจดทะเบียนในตลาดหุ้นได้ไม่มีข้อห้าม มองข้อดีนำเสนอธุรกิจใหม่ต่อผู้ลงทุนและเมื่อทุกธุรกิจเข้ามาจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ก็จะต้องเปิดเผยข้อมูลอย่างโปร่งใสและอยู่ภายใต้กฎเกณฑ์
# ผู้บริหาร SISB พร้อมเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ mai 29 พฤศจิกายนนี้ มั่นใจว่าเป็นหุ้นที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งผลประกอบการเติบโตต่อเนื่องทุกปี และระดมทุนเพื่อนำเงินไปชำระคืนหนี้ลดภาระดอกเบี้ย
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]