- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 November 2018 16:35
- Hits: 7998
บล.บัวหลวง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
รอบด้านตลาดหุ้น
ภาพตลาดและแนวโน้ม
ดัชนีฯขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป
วันนี้คาด Sideways up กรอบ 1,630-1,648 จุด ปัจจัยหนุน คาดจะมาจาก แรงซื้อหุ้นพลังงานอย่าง PTT PTTEP ดักผลการประมูลแหล่งปิโตรฯ, การประกาศซื้อหุ้นคืนของ บจ.ไทย (ล่าสุด SIRI) ซึ่งเป็นอย่างที่เราคิด และ สะท้อนโอกาส จ่ายเงินปันผล ที่มากกว่าที่คาดหลังปิดงบ ในช่วงต้นปี (ดูเหตุผลในรายงาน Strategy Weekly)
ระยะสัปดาห์ คาดหุ้นไทยยังมีความหวังในการฟืนตัว เมื่อไม่หลุด 1,600 จุด แนวรับจิตวิทยาสำคัญ และ Fibonacci 50% (คลื่นใหญ่ของดัชนีฯ) กลยุทธ์แนะสะสมหุ้น NAV play (ดูชื่อหุ้นในรายงาน Daily รอบด้านฯ 20 พย.) และเลือกลงทุนรายตัวเน้นหุ้น ตามที่เราจัดพอร์ตตามธีมการลงทุน
What to watch:
(+) MS ออกรายงาน เพิ่มน้ำหนักลงทุน EM market ขึ้น 2 ขั้น จาก Underweight เป็น Overweight พร้อมทั้งลด น้ำหนักตลาดหุ้นสหรัฐฯ ลงเป็น Underweight
(+/-) 30 พย. MSCI รอบใหม่ จะมีผลบังคับใช้: GULF MTC ติด Standard index ส่วน Small Cap index เพิ่ม CBG MBK ถอด CCET DDD ICHI MONO VNG MTC
(+) US GDP 3Q คาดทบทวนเพิ่มขึ้นเป็น 3.6% q-q จาก 3.5% q-q
หุ้นแนะนำ
PTT PTTEP BBL
รายงานวันนี้
Our Cross-Sector Positioning Into 2019
ใน ASEAN หุ้น top pick ที่ MS เลือกคือ Transportation, Healthcare, Agriculture and Indonesia coal
ความไม่แน่นอนของปัจจัยมหาภาคเป็นปัจจัย overhand ของกลุ่ม cyclical เช่นสายการบินและท่าเรือ นอกจากนี้คาดว่าราคาน้ำมันและ commodity price น่าจะต่ำลง ช่วงนี้มองว่านักลงทุนน่าจะลงทุนในกลุ่ม Defensive เช่นกลุ่มโรงพยาบาลและสนามบิน MS ชอบ BDMS และ AOT คาดจะแกว่งในกรอบ
BGRIM Key takeaway from analyst meeting
แนวโน้มกำไรในไตรมาส 4Q18 อ่อนตัวลง แต่ปี 2019 น่าจะกลับมาเติบโตจากกำลังผลิตที่เพิ่มขึ้น การจ่ายไฟให้ลูกค้าอุตสาหกรรมของโรงไฟฟา ABPR3-5 และ ค่า Ft ที่เพิ่มขึ้น นอกจากนี้ BGRIM ยังมองหาการเติบโต จากการลงทุนในต่างประเทศ การเพิ่มประสิทธิภาพโรงไฟฟา และการรีไฟแนนซ์ สำหรับความคืบหน้าโครงการ BGPR1-2 คาดว่าจะได้รับการอนุมัติ EIA ภายในไตรมาส 2Q19 โดยคาดกำลังผลิตเบื้องต้น 140MW ต่อโรง เรายังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเปาหมายปี 2019 ที่ 33 บาท
D: Accumulating again
เราแนะนำให้นักลงทุนสะสมซื้อ D อีกครั้ง (หลังจากบทวิเคราะห์ฉบับวันที่ 27/9/18 ที่เราแนะให้รอราคาหุ้นอ่อนตัวหลังจากงบอ่อนแอ3Q18 รายงานออกมา) เราคาดพื้นฐานของบริษัทจะพลิกโฉมแข็งแกร่งอย่างเห็นได้ชัดในปีหน้า จากการเปิดโรงพยาบาลทันตกรรม (BIDH) รวมถึงการรวมธุรกิจเดนทัลวิชั่นเข้ามาคาดหนุนให้กำไรโตแรง ส่งผลให้ PE ลดลงเหลือเพียง 30 เท่า ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย Global healthcare ที่ราว 35 เท่า นอกจากนี้ ประมาณการของเรายังไม่ได้รวม การเพิ่มทุนซึ่งจะส่งผลให้เกิดการประหยัดดอกเบี้ยได้เพิ่มอีก เรายังคงคำแนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 12.50 บาท
FOOD (Sugar): Record 2018/19 global stocks despite lower production
ในรายงานล่าสุดของ USDA มีการปรับปริมาณผลผลิตลง 1.3% จากการคาดการณ์ก่อนหน้า จากผลผลิตที่คาดลดลงของบราซิล, ยุโรป, ไทย และรัสเซีย และมีการปรับ Surplus ลง 1.6 ล้านตันเป็น 9.05 ล้านตัน แต่เรามองว่ายังอยู่ในระดับสูง อย่างไรก็ตามมีการปรับ Ending stock ขึ้นทำสถิติใหม่ ซึ่งเรามองว่าจะยังคงเป็นปัจจัยกดดันราคาน้ำตาล ซึ่งเรามองว่าราคาผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว แต่การที่ราคาจะปรับขึ้นไปก็จำกัดในภาวะที่ Ending stock และ Surplus ยังสูง เรายังคงคำแนะนำ ถือ KSL และ BRR
หุ้นมีข่าว
(+) IRC รมต.คลัง ยืนยัน ช็อปช่วยชาติ หักลดหย่อนภาษี (ไม่เกิน 15000 บ.) สินค้า ได้ 3 อย่าง ยางรถยนต์ หนังสือ และ สินค้าโอท็อป ชง ครม. 4 ธค. (ที่มา โพสต์ทูเดย์)
(+) PTTEP เคาะประมูล ปิโตรเลียม 29 พย.นี้ ลือสะพัด ผู้ประกอบการกลุ่มเดียวกันกินรวบทั้ง 2 แหล่ง (ที่มา ฐานเศรษฐกิจ)
(+) BTS เดินรถไฟฟาส่วนต่อขยาย สีเขียวใต้ แบริ่ง-สมุทรปราการ 6 ธค.นี้ และรับโอนหนี้สีเขียวแสนล้านบาท (ที่มา ทันหุ้น)
วิกิจ ถิรวรรณรัตน์ Tel. (662) 618-1336
นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน/ปัจจัยทางเทคนิค
ธนัท พจน์เกษมสิน,นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์
นภนต์ ใจแสน, นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านตลาดทุน
Trend Forecasting
SET Index ปิด 1634.27 (+0.21%) มูลค่าการซื้อขาย 3.6 หมื่นล้านบาท
Topic: Leading Indicator...
ปัจจัยอะไรบ้างที่จะหนุนให้ดัชนีปรับตัวขึ้นได้...
แนวโน้มตลาด: ปัจจุบันดัชนีเริ่มฟืนตัว คำถาม:ปัจจัยอะไรบ้างที่จะหนุนให้ดัชนีปรับตัวสูงขึ้น?
1. Indicator บอกถึงภาวะขายมากเกินไปหรือ Oversold ในภาวะที่ตลาดปรับตัวลงเร็ว
2. Blue-chip stock หุ้นขนาดใหญ่เริ่มส่งสัญญาณการฟืนตัว ภายหลังจากการปรับตัวลงแรง
3. ดัชนีปรับตัวลงไปถึงจุดที่ปันผลของตลาดสูง ก็อาจเป็นสิ่งจูงใจหรือดึงดูดให้เม็ดเงินกลับเข้ามาลงทุนได้
4. Forward P/E ตลาดจะลงมาที่ 14.6x หรือค่า SD = 0.5 ไม่แพงมากและมองเป็นจุดที่น่าสนใจในการเข้าซื้อ
5. วอลุ่มซื้อจากสถาบันในประเทศรวมทั้งเม็ดเงินจาก LTF และ RMF
6. การแข็งค่าเงินสหรัฐฯอิ่มตัวก่อนที่จะกลับมาเป็นแนวโน้มเชิงลบ(กระตุ้นให้เงินทุนต่างชาติไหลกลับมาสู่ตลาดหุ้นเอเซีย)
7. ความผันผวนของตลาดหุ้นลดลง กลับเข้าสู่ภาวะปกติ และราคาหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ส่งสัญญาณเชิงบวกในวงกว้าง
สรุป: ทิศทางตลาดมีโอกาสฟื้นตัวและยังมองเป็นจุดน่าสนใจในการเข้าซื้อ
วิธีการเลือกหุ้น: เราแนะนำหุ้นที่มีสัญญาณแข็งแกร่งมากกว่าตลาดโดยใช้ parameter หลักได้แก่ 1.วอลุ่มสูงเพิ่มขึ้นมากกว่าค่าเฉลี่ยในรอบ 1 สัปดาห์ 2.ราคาปิดฟืนตัวจากแนวรับ 3.หุ้นที่เริ่มแสดงความแข็งแกร่งจากค่า RSI ฟืนตัว 4.สัญญาณซื้อจากเครื่องมือ Stochastic ,MACD ,Moving average
Technical screen Bull Signal:CENTEL,AAV, PSL (Seasonal plays)
Technical screen Bear Signal: Property sector
Port หุ้นคงเหลือ: CPALL, PTTEP, BDMS, TOP, CENTEL, KBANK, THAI, OSP, SAWAD
แนวโน้มระยะสั้นมอง SET Index แนวรับ 1,630 แนวต้าน 1,645 / SET100 รับ 2390 ต้าน 2415
BSET100 รับ 10.35 ต้าน 10.50 / BMSCITH รับ 12.20 ต้าน 12.35
ธนรัตน์ อิศรกุล นักวิเคราะห์การลงทุนปัจจัยพื้นฐานด้านหลักทรัพย์และปัจจัยทางเทคนิค
[email protected] +662-618-1334
Track with Technical
CENTEL
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:46.00
Stop loss <41.00
เหตุผล: โครงสร้างระยะกลางส่งสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้นจากการทะลุกรอบสามเหลี่ยม " Bull Triangle "
AAV
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:4.60
Stop loss <4.16
เหตุผล: ราคาหุ้นปรับตัวลงแรง 30% นับจากจากต้นปี 2018 ขณะที่เส้นค่าเฉลี่ย EMA บ่งชี้สัญญาณซื้อขายได้อย่างถูกต้องแม่นยำ ปัจจุบันเกิดสัญญาณกลับตัวเป็นขาขึ้น " Bull EMA "
PSL
แนะนำ:ซื้อ
เป้าหมาย:12.00
Stop loss <10.00
เหตุผล: หุ้นส่งสัญญาณฟืนตัวเป็นไปในทิศทางเดียวกับดัชนีค่าระวางเรือ Baltic dry index หนุนด้วยเครื่องมือวัดโมเมนตัม Bull Stochastic