- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 28 November 2018 16:29
- Hits: 7691
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“แกว่งรอข่าวใหม่”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET เมื่อวานนี้แกว่งในกรอบแคบ ปิดตลาดที่ 1634.27 (+3.5 จุด) มูลค่าซื้อขายเบาบางเพียง 3.7 หมื่นล้านบาทเนื่องจากนักลงทุนรอปัจจัย/ข่าวใหม่เข้ามากระตุ้น รวมถึงผลประชุมนอกรอบของผู้นำสหรัฐกับจีนในการประชุม G20 ปลายสัปดาห์นี้ด้วย นักลงทุนสถาบันในประเทศเดินหน้าซื้อสุทธิต่อ 4.2 พันล้านบาท ส่วนอีก 3 กลุ่มที่เหลือขายสุทธิ
# ความกังวลผลกระทบสงครามการค้ายังคงกดดันตลาดเป็นระยะ ล่าสุดปธน.ทรัมป์กล่าวว่า “แทบเป็นไปไม่ได้ที่สหรัฐจะยกเลิกการปรับขึ้นอัตราภาษีนำเข้า 2 แสนล้านUS$ กับจีนจาก 10% ในปัจจุบันเป็น 25% ในเดือนม.ค.62”
# ราคาน้ำมันดิบยังคงอ่อนแอ ทั้งนี้แม้ว่ากลุ่มโอเปกจะลดการผลิตลงในปี 62 แต่อุปทานก็ยังจะสูงมาก เพราะฐานปริมาณผลิตหลายประเทศสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีนี้ เช่น สหรัฐ, ซาอุฯ เป็นต้น...หุ้นกลุ่มพลังงานจึงอยู่ในบรรยากาศรีบาวด์น้อยและมีสิทธิลงต่อ เน้นซื้ออ่อนตัวส่วนหุ้นไทยที่ได้ประโยชน์จากน้ำมันลง คือ TASCO, สายการบิน (หุ้นเด่น BA), เดินเรือประจำเส้นทาง (RCL) เป็นต้น
# Brexit ยังไม่จบต้องรอรัฐสภาอังกฤษอนุมัติก่อน ซึ่งจะมีประชุมต้นธ.ค.นี้ ส่วน EU ออกมาย้ำว่าจะยุติ QE สิ้นปี 61 แม้เศรษฐกิจโตชะลอลง
# เศรษฐกิจไทยเติบโตชะลอตัวลงใน 3Q-4Q61 โดยเฉพาะภาคส่งออกและท่องเที่ยว ส่วนอุปสงค์และลงทุนในประเทศเติบโตปานกลาง
# การเมืองไทย คาด 7 ธ.ค.รู้วันปลดล็อค & ออกพ.ร.ฎ.เลือกตั้งส.ส. วันเลือกตั้งยังเป็น 24 ก.พ.62 ค.เสี่ยงคือสูญญากาศก่อน&หลังเลือกตั้งUpdate หุ้นเด่น : HANA – ยอดขายรูปดอลลาร์เติบโตแกร่งใน 2H61 (งวด 3Q61 เติบโต 17%YoY ถ้าไม่รวมรายการซื้อครั้งเดียวใน 3Q60)อัตรากำไรขั้นต้นดีขึ้นจากบาทอ่อนและการปรับ Product mixed ในระยะยาวมีโอกาสได้คำสั่งซื้อเพิ่มจากลูกค้าที่ย้ายฐานการผลิตออกจากจีนเพื่อเลี่ยงผลกระทบสงครามการค้า ฐานะเป็นเงินสดสุทธิ จ่ายปันผลสูง คาด Yield ราว 6% ต่อปี แนะซื้อ ราคาพื้นฐาน 43.50 บาทการวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นตลาดเป็นบวกเล็กๆ ซื้อใหม่เน้นค่าบวกราคาหุ้นและดัชนี แนวต้านระยะสั้น 1640-1650 จุด, SET หลุด1630 จุดดูไม่ค่อยดี ควร Stop loss หรือ Wait & see แนวเด้ง (แนวรับย่อย) อยู่ที่ 1620-1600, 1580 จุด
สำหรับการ Scan หุ้นที่มีโอกาสทำ New high ที่เข้ามาใหม่เป็น BCP, TCAP, AAV, ROBINS, GLAND หุ้นที่ยังคงอยู่ใน List ได้แก่ EASTW, TISCO, CBG หุ้นที่หลุด List -ไม่มี- และที่ให้หาจังหวะ Take profit เป็น HMPRO, SAWAD, DTAC, CENTEL
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
+ สหรัฐ : ยอดขายออนไลน์ในวันไซเบอร์มันเดย์พุ่งขึ้น 19.3%YoY
# ยอดขายทางออนไลน์ในวันไซเบอร์มันเดย์ปีนี้พุ่งขึ้น 19.3% จากปีที่ผ่านมา แตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 7.9พันล้านดอลลาร์ หนุนหุ้นเมซีส์ อิงค์ พุ่งขึ้น 4.1% หุ้นทาร์เก็ต ทะยานขึ้น 3.08% หุ้นนอร์ดสตรอม เพิ่มขึ้น 1.3% หุ้นโคห์ล คอร์ป พุ่งขึ้น 3.7% หุ้นโลว์ส พุ่งขึ้น 2.6% หุ้นเบสท์ บาย เพิ่มขึ้น 0.5% และหุ้นอเมริกัน อีเกิล เอาท์ฟิทเทอร์สเพิ่มขึ้น 0.5%
- สหรัฐ : ดัชนีราคาบ้านก.ย.เพิ่มเพียง 5.5%YoY & ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคลดลงในเดือนพ.ย.
# ดัชนีราคาบ้านทั่วประเทศในสหรัฐเพิ่มขึ้นเพียง 5.5% ในเดือนก.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนม.ค.ปีที่แล้ว และชะลอตัวลงจากระดับ 5.7% ของเดือนส.ค.
# Conference Board เปิดเผยผลสำรวจ ซึ่งพบวว่าดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 135.7 ในเดือนพ.ย. จากระดับ 137.9 ในเดือนต.ค. และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 135.9
• สหภาพยุโรป : ECB ยืนยันยุติ QE ในสิ้นปี 61 นี้
# ประธานธนาคารกลางยุโรป (ECB) ได้ออกมากล่าวย้ำว่า ECB จะไม่เปลี่ยนแปลงแผนการยุติการซื้อพันธบัตรตามมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) วงเงิน 2.5 ล้านล้านยูโรในช่วงสิ้นปีนี้ แม้มีผู้คัดค้านว่า ECB ดำเนินการเร็วเกินไปเพราะขณะนี้เศรษฐกิจยูโรโซนยังชะลอตัว
• Brexit : ติดตามว่าที่ประชุมรัฐสภาอังกฤษต้นธ.ค.61 จะมีมติเห็นชอบหรือไม่
- นักลงทุนจับตาการประชุมรัฐสภาอังกฤษในต้นเดือนธ.ค.61 ซึ่งจะตัดสินชี้ชะตาร่างข้อตกลงในการถอนตัวของอังกฤษจากการเป็นสมาชิกสหภาพยุโรป ทางยูเรเซีย กรุ๊ป ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านความเสี่ยง ระบุว่ามีความเป็นไปได้มากถึง75% ที่รัฐสภาอังกฤษจะไม่ให้การอนุมัติร่างข้อตกลง Brexit
• จับตาการประชุม G20 ปลายสัปดาห์นี้
# จับตาการประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. ที่กรุงบัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีกำหนดพบปะกันนอกรอบการประชุมดังกล่าว
# ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขู่ว่าจะเก็บภาษีสินค้าจีนในวงเงินเพิ่มอีก 2.67 แสนล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันในวงเงิน 2.5แสนล้านดอลลาร์ หากเขาไม่สามารถบรรลุข้อตกลงทางการค้ากับประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ในการหารือนอกรอบการประชุม G20
#เราไม่ได้คาดหวังกับผลการเจรจาของผู้นำสหรัฐและจีนในรอบนี้มากนัก เพราะเชื่อว่าการเจรจาการค้าระหว่างสองประเทศจะเป็นหนังซีรีย์ยาว และมาตรการกีดกันการค้าต่างๆจะทำให้โครงสร้างการผลิตและการขนส่งของโลกค่อยๆเปลี่ยนแปลงไป
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดาวโจนส์ปิดพุ่ง 108.49 จุด
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 24,748.73 จุด +108.49 จุด หรือ +0.44% ดัชนี Nasdaq ปิด +0.85 จุด หรือ +0.01% และดัชนีS&P500 ปิด +8.72 จุด หรือ +0.33% นักลงทุนเข้าซื้อหุ้น defensive ซึ่งเป็นหุ้นกลุ่มปลอดภัยและมีปัจจัยพื้นฐานดี
• ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาอ่อนลงเล็กน้อย
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. ลดลง 7 เซนต์ หรือ -0.1% ปิดที่ 51.56 ดอลลาร์/บาร์เรล และ BRENT ลดลง27 เซนต์ หรือ -0.5% ปิดที่ 60.21 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากกังวลผลกระทบสงครามการค้าจะกระทบเศรษฐกิจโลกและอุปสงค์น้ำมัน
- ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาทองปิดลบ 0.74%
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 9 ดอลลาร์ หรือ 0.74% ปิดที่1,213.4 ดอลลาร์/ออนซ์ เนื่องจากดอลลาร์แข็งค่าและขาดปัจจัยกระตุ้น
ปัจจัยในประเทศ
+ ไทย : ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรมต.ค.61 โต 4.08%YoY และเพิ่มขึ้น 1.55%MoM
# สำนักงานเศรษฐกิจอุตสาหกรรม (สศอ.) เปิดเผยดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) เดือนต.ค.61 ที่ 112.79 ขยายตัว4.08%YoY และเพิ่มขึ้น 1.55%MoM ส่งผล 10 เดือนแรกของปี 61 (ม.ค.-ต.ค.) MPI ขยายตัว 3.04%YoY อัตราการใช้กำลังการผลิต อยู่ที่ 67.75%
# สอท.ประมาณการดัชนีผลผลิตอุตสาหกรรม (MPI) ในปี 2561 ไว้ที่ 2.5% และการประมาณการ GDP ภาคอุตสาหกรรมปี 2561 ว่าจะเติบโต 2.5%
• โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน : 2 กลุ่มยักษ์ใหญ่ผ่านคุณสมบัติรอบแรก
# วานนี้ (27 พ.ย.61) คณะกรรมการมาตรา 35 ในโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินได้เปิดซองประมูลซองที่ 1เป็นซองคุณสมบัติ โดยทั้งสองกลุ่มที่ยื่นข้อเสนอเข้ามาทั้งกิจการร่วมค้า BSR (BTS & STEC & RATCH) และกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัท เจริญโภคภัณฑ์ โฮลดิ้ง จำกัดและพันธมิตร (CPH & BEM & CK & China Railway) ผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติแล้ว และจะเริ่มเปิดซองที่ 2 คือ ซองเทคนิค คาดว่าใช้เวลาพิจารณาประมาณ 3 สัปดาห์ จากนั้นจะพิจารณาซองที่ 3 คือซองราคาในเดือน ธ.ค.61
นักกลยุทธ์&นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]