- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 27 November 2018 17:08
- Hits: 8978
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET เกิด Technical rebound ต่อเนื่องจากวันศุกร์ที่ผ่านมา โดยในช่วงบ่ายเกิดแรงกระจายในหุ้นใหญ่อย่าง SCC และกลุ่มการเงินการธนาคารอย่าง SAWAD, MTC, JMT, SCB ในขณะที่กลุ่มอสังหา เกิดมีแรงซื้อใน ORI, SIRI และกลุ่มที่ได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันลงได้แก่ TASCO, PTG ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,630.7 จุด (+8.6 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.3 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.6 หมื่นลบ.
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 5 ที่ 849 ล้านบาท พร้อมคงเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 6,786 สัญญา
Investment theme
เริ่มเห็นผลกระทบจากสงครามการค้า : หากนับตั้งแต่สหรัฐได้เริ่มขึ้นภาษีนำเข้าสินค้าครั้งที่ 2 รวม 2.5 แสนล้านเหรียญสหรัฐ จากประเทศจีนในช่วงเดือนกันยายนทีผ่านมา พบว่าประเทศเริ่มได้รับผลกระทบผ่านการส่งออกที่ลดลง โดยเฉพาะในผลิตภัณฑ์ชื้นส่วนรถยนต์, แผนวงจร และชิ้นส่วนอิเล็กทรอสิกส์ ในขณะที่อุตสาหกรรมเหล็ก ซึ่งเป็นสินค้าชนิดแรกที่ได้รับผลกระทบจากการขึ้นภาษี ล่าสุดเริ่มเห็นรัฐบาลจีนออกมาตรการสนับสนุนการส่งออกโดยการให้ Rebate ภาษีส่งออกขึ้นเป็น 16% ส่งผลให้เริ่มเห็นการ Dump เข้ามายังตลาดไทย โดยเหล็ก HRC ราคาปรับลด 13% เหลือ 570 เหรียญ/ตัน แนะนักลงทุนจับตาผลกระทบของสินค้าประเภทอื่นๆจากนี้ ซึ่งหากการประชุม G20 ที่จะมีขึ้นในสุดสัปดาห์นี้ยังไม่ได้ข้อสรุป เราประเมินผลกระทบการการกีดกันการค้าจะทวีความรุนแรงขึ้น โดยประเทศที่มีสัดส่วนการส่งออกสูงรวมทั้งประเทศไทย มีความเสี่ยงต่อการปรับประมาณการลง
Investment Theme: ประเมินกรอบการแกว่งตัวของ SET บริเวณ 1,590 - 1,620 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ไปจนถึงช่วงปลายเดือนพ.ย.ที่จะมีการประชุม G20 ที่อาจเห็นการเจรจาการค้ากันระหว่าง 2 ผู้นำอย่าง Trump และ Xi Jinping
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา ครม.เห็นชอบให้นำเงินบริจาคพรรคการเมืองหักลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาไม่เกิน 1 หมื่นบาท/ปี นายก เผย ครม.และคสช. หารือเตรียมปลดล็อคกิจกรรมพรรคการเมืองหลังการประชุมร่วม 7 ธ.ค. นี้ / Ukraine เตรียมประกาศกฎอัยการศึกหลักมีปัญหากับรัสเซีย
Stock pick : -
Trading idea - ทยอยสะสม BJC, CPALL, VGI (3 หุ้น Stock pick ในบทวิเคราะห์กลยุทธ์การลงทุนเดือนธันวาคม) /ทยอยสะสม TASCO เรามีมุมองเชิงบวกจากการประชุมนักวิคราะห์ คาดกำไร Q4 ฟื้นตัวเด่นประมาณ 500 ล้านบาท สนับสนุนจากปริมาณการขายสูงกว่า 5 แสนตัน โดยผู้บริหารคาด TASCO ประเมินปริมาณขายในปี 2562 จะเพิ่มเป็น 1.8 -1.9 ล้านตัน เติบโต 12-19% แนะซื้อราคาเหมาะสม 17.00 บาท
Technical View
ลุ้น Rebound ทดสอบแนวต้านกรอบ Downtrend ที่ 1645: ดัชนีแกว่งตัว Sideway Up ตลอดทั้งวัน แม้จะมีแรงขายสลับในหุ้นกลุ่มพลังงาน แต่หุ้นกลุ่ม Big Cap. อื่นๆ มีแรงซื้อที่ชัดเจน ทำให้สิ้นวันดัชนีปิดบริเวณแนวต้านระยะสั้นที่ 1630 จากสัญญาณบวกใน Modified Stochastic ที่เริ่มตัดขึ้นจากเขต Oversold มองว่าดัชนีมีโอกาส Rebound ทดสอบแนวต้านสำคัญบริเวณกรอบบน Downtrend ที่ 1645 ที่บริเวณแนวต้านดังกล่าวให้พิจาณณาแรงขาย หากยังมีมากแนะนำขายทำกำไรเพื่อเล่นรอบ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: หากหลุด 1620 แนะนำ Trading ในกรอบ 1620-1645 แต่หากหลุด 1620 แนะนำ Lock Profit หรือหากทดสอบ 1645 แนะนำพิจาณาแรงขายเพื่อทำกำไร 2) ไม่มีหุ้น: Trading ในกรอบ 1620-1645 แนะนำจังหวะอ่อนตัวเป็นโอกาสสะสมเพื่อเล่น Rebound ในกรอบดังกล่าว
แนวรับ : 1600, 1620 แนวต้าน : 1645, 1665
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: 28 พ.ย. จับตาคุณ Powell แถลงนโยบายธนาคารกลางสหรัฐ / สภาอังกฤษเตรียมลงมติ Brexit
ปัจจัยในประเทศ: จับตามาตรการ Shop ช่วยชาติ
หุ้นเทคนิค:
MTC (B 47.00-48.00, Tp 51.50//53.00, Cut 46.00)
GLOBAL (B 19.30-19.50, Tp 20.30//21.00, Cut 19.00)
ข่าวเด่นเช้านี้
5 หุ้นเด้งราคาน้ำมันดิ่ง TASCO ได้ผลบวกสูงสุด DCC-THAI-BA-AAV รับอานิสงส์ต้นทุนลดฮวบ (ข่าวหุ้น)
เปิดโผ 5 หุ้นรับผลบวกราคาน้ำมันโลกดิ่ง วงการเงินชู TASCO ได้ประโยชน์สูงสุด เพราะใช้น้ำมันดิบเป็นต้นทุนผลิตยางมะตอยถึง 90% หนุนมาร์จิ้นไตรมาส 4 โตเด่น ฟาก DCC-THAI-BA-AAV ร่วมรับอานิสงส์ต้นทุนขนส่งลดฮวบ
ความเห็น : TASCO มีน้ำมันดิบเป็นวัตถุดิบหลัก ในขณะที่ราคาขายยางมะตอยขึ้นกับอุปสงค์ และ อุปทาน โดยราคาขายปัจจุบันยังไม่ทรุดลงตามราคาน้ำมันดิบมากหนัก คือ ราคาขายยางตลาดส่งออกประมาณ 425-435 เหรียญต่อตัน จากราคาสูงสุด 440-450 เหรียญ/ตัน และ TASCO มีน้ำมันดิบเข้ามาป้อนอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ผลประกอบการฟื้นตัวดีขึ้น แนะนำ TRADING BUY ช่วงอ่อนตัว หลังราคาเมื่อวานปรับขึ้นแรง เป้าหมาย 17 บาท เทคนิครีบาวน์ ต้าน 16.6 รับ 15 บาท
บอร์ด MACO อนุมัติงบ 630 ล้าน ซื้อหุ้น GSG-ปรับสื่อตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอส (ข่าวหุ้น)
บอร์ด MACO อนุมัติแผนการลงทุน 630 ล้านบาท ต่อยอดแผนการขยายธุรกิจ โดยทุ่ม 240 ล้านบาท ซื้อหุ้น "โกลด์ สตาร์ กรุ๊ป" ยกระดับงานด้านการผลิต ส่วนอีก 390 ล้านบาท ลุยปรับสื่อตอม่อรถไฟฟ้าบีทีเอส เป็นจอ LED และสื่อโฆษณา Light Box คาดติดตั้งแล้วเสร็จต้นไตรมาส 2/2562
ความเห็น : MACO จะ upgrade ป้ายใต้ตอม่อสถานีรถไฟฟ้า 42 ป้าย จากป้ายพลิก/ป้ายนิ่ง เป็นป้าย LED ภายในเวลา 180 วัน งบลงทุน 390 ลบ. ซึ่งโดยปกติแล้ว ป้าย LED จะสร้างรายได้กว่าป้ายนิ่งทั่วไป 3-4 เท่าตัว ขณะที่อัตรากำไรอยู่ในระดับสูง ส่วนการซื้อ GSG 60% เป็นการเตรียมความพร้อมด้านการผลิตสื่อ คงคำแนะนำซื้อ เป้าหมาย 2.54 บาท เทคนิคลุ้นรีบาวน์ ต้านสั้น 1.65 รับ 1.50 บาท
คาร์กิลล์' เดินหน้าขยายลงทุนไทยรง.ไก่-อาหารสัตว์ (กรุงเทพธุรกิจ)
"คาร์กิลล์" ทุ่มลงทุนในไทย 2,310 ล้านบาท ขยายธุรกิจไก่ อาหารสัตว์ วางแผนใช้เทคโนโลยีพัฒนาระบบการผลิต-จำหน่าย ตั้งเป้าหมายให้ไทยเป็นฐานส่งออกหลังเศรษฐกิจเอเชียเติบโตสูง มั่นใจปีนี้รายได้ แตะ 33,000 ล้านบาท ตามเป้าหมายขยาย 3-5% ต่อปี มั่นใจสงครามการค้าไม่กระทบ
ความเห็น : คาร์กิลล์ในไทย (ภายใต้กลุ่มบริษัทคาร์กิลล์ ผู้ประกอบการธุรกิจอาหารจากสหรัฐฯ) เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและส่งออกไก่รายใหญ่ของไทย การขยายธุรกิจไก่จะทำให้การแข่งขันสูงขึ้นและปริมาณไก่เพิ่มขึ้น ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อราคาไก่ในไทย เป็นลบต่อ CPF, GFPT, TFG
SIRI ทุ่ม 3 พันล้านซื้อหุ้นคืน ย้ำพื้นฐานแกร่ง-ปันผลสูง (ข่าวหุ้น)
"แสนสิริ" ทุ่มงบ 3,000 ล้านบาท ลุยซื้อหุ้นคืน 1,486 ล้านหุ้น เริ่มวันที่ 11 ธ.ค. 61-10 มิ.ย. 62 หลังเชื่อมั่นพื้นฐานแกร่ง หวังดัน "ROE-EPS-รับปันผล" เพิ่มขึ้น ย้ำนโยบายจ่ายปันผลสูงกว่า 50% ยีลด์ 9% โชว์ยอดขายนิวไฮรอบ 34 ปี
ความเห็น : คาดว่าอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลจะเพิ่มขึ้นจากจำนวนหุ้นที่ลดลง เรามองการซื้อหุ้นคืนในครั้งนี้เป็นการบริหารด้านราคา momentum บวกราคาในช่วงสั้นและหากมองที่พื้นฐานทิศทางผลประกอบการของ SIRI นั้นใน 4Q61 ถือว่าโดดเด่นกว่า 3 ไตรมาสแรกของปี 2561 แต่ทั้งปีคาดว่ากำไรสุทธิอ่อนตัว 9.5% YoY คำแนะนำ พื้นฐาน เราให้ที่ HOLD ราคาเป้าหมาย 12 เดือนที่ 1.62 บาท/หุ้น เทคนิครีบาวน์สั้น ต้าน 1.45 รับ 1.35 บาท
IRPC ไฮซีซันดันดีเซลเล็งเป้าซื้อกิจการเพิ่ม (ทันหุ้น)
IRPC ลุ้นไฮซีซันของการใช้หนุนราคาดีเซลทรงตัวในระดับที่ดี พร้อมคงเป้า EBITDA ปี 2563 ที่ระดับ 2.9 หมื่นล้านบาท เดินหน้าโครงการกาแล็คซี่อัดฉีด 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แย้มอยู่ระหว่าง M&A กิจการเกี่ยวเนื่องต่างแดน 2-3 ราย ส่วนประเด็น IMO เปลี่ยนมาตรฐานสัดส่วนกำมะถันในน้ำมันเตาในปี 2563 หนุนปริมาณขายดีเซลพุ่ง
ความเห็น : ในระยะสั้น ฝั่งของธุรกิจปิโตรเคมี ในช่วง 4Q61 คาดได้รับอานิสงส์บวกจากส่วนต่างปิโตรเคมี ของ HDPE กับแนฟทา ที่ขยายตัวขึ้น หลังราคาน้ำมันดิบโลกปรับตัวลดลงแรง (ราคาแนฟทาลดลงแรงกว่าราคา HDPE) อาจเพิ่มแรงเก็งกำไรในระยะสั้นได้ คำแนะนำเชิงพื้นฐาน ซื้อ ราคาเป้าหมาย 7.3 บาท สัญญาณเทคนิครีบาวน์แกร่ง ต้าน 6.5 บาท รับ 5.8 บาท
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000