- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Tuesday, 27 November 2018 17:05
- Hits: 8931
บล.ดีบีเอสวิคเคอร์ส : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน
“เน้นซื้อตามค่าบวก...ค่าลบ Wait & See”
• หุ้นที่เปลี่ยนคำแนะนำทางปัจจัยพื้นฐานวันนี้ : --
ภาวะตลาดและปัจจัย : SET เมื่อวานนี้ปรับขึ้นต่อ แม้ว่าราคาหุ้นพลังงานจะอ่อนลง แต่การปรับขึ้นของหุ้นแบงค์ และหุ้น Big Cap อื่นๆ ก็ช่วยหนุนตลาดให้ปิดบวกได้ 8.67 จุด มาอยู่ที่ 1630.77 จุด นักลงทุนสถาบันในประเทศซื้อสุทธิต่อ 2.5 พันล้านบาท
เราเห็นเศรษฐกิจภูมิภาคต่างๆ เติบโตน้อยลงจากดัชนี PMI ภาคผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนพ.ย.61 ที่อ่อนตัวทั้งในโซนยุโรปและสหรัฐเพราะคำสั่งซื้อ & การส่งออกชะลอตัว
แต่...ในระยะสั้นมากตลาดมีปัจจัยบวกกระตุ้นจากการเด้งขึ้นของราคาน้ำมันดิบที่บวกขึ้นเกือบๆ 3% เมื่อคืนนี้ เพราะคาดว่ากลุ่มโอเปกจะมีมติลดการผลิตในการประชุม 6 ธ.ค.นี้ที่เวียนนา และพรรครัฐบาลอิตาลีมีแนวโน้มลดขาดดุลงบประมาณลงเป็น 2% ของจีดีพีปี 62 เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษปรับของ EU ส่วนการประชุมนอกรอบระหว่างผู้นำสหรัฐ vs จีน ใน G20 ช่วงปลายพ.ย.-ต้นธ.ค.นี้ เรายังไม่คาดหวังผลการเจรจาข้อขัดแย้งทางการค้าของ 2 ประเทศนี้เท่าใดนัก ส่วนหุ้นไทยที่จะเข้าคำนวณใน MSCI Global Standard Index มีผล 30 พ.ย.นี้คือGULF และ MTC และหุ้นที่เข้า MSCI Global Small Cap Index คือ CBG, MBK, PRINC (ที่มา : The Bangkok Insight)Update หุ้นเด่น : 1. MTC – ธุรกิจเติบโตแข็งแกร่งจากการขยายสาขาต่อเนื่อง คาดกำไรสุทธิปี 61/62/63 โต 50%/30%/31% แนะนำซื้อ ให้ราคาพื้นฐาน 63 บาท ราคาปิด 49 บาท มี Upside 28% ส่วนราคาเป้าหมายใน IAA Consensus อยู่ที่ 59 บาท (Median) มี Upside 20%
2. PTTEP – การเด้งขึ้นของราคาน้ำมันดิบหนุนราคาหุ้น คาด Core Profit (ไม่รวมกำไร/ขาดทุนจากสต็อก & รายการพิเศษ) 3Q61 ดีขึ้นQoQ ในทางเทคนิคเน้นซื้อค่าบวก แนวต้าน 135-140 บาท หลุด 125 Stop Loss ส่วนราคาพื้นฐาน 1 ปีอยู่ที่ 160 บาท
3. TISCO & KKP – คาดสินเชื่อเช่าซื้อ 4Q61 จะเติบโตได้ดีขึ้น เพราะเป็นฤดูกาลใช้จ่ายและได้ประโยชน์จากงานมอเตอร์โชว์ ธนาคารจ่ายปันผลสูง คาด Dividend Yield TISCO ปีนี้ 6% (จ่ายปีละ 1 ครั้ง) และของ KKP 7% (จ่ายปีละ 2 ครั้ง)
การวิเคราะห์ทางเทคนิค : ระยะสั้นตลาดเป็นบวกเล็กๆ ซื้อใหม่เน้นค่าบวกราคาหุ้นและดัชนี แนวต้านระยะสั้น 1640-1650 จุด, SET หลุด1620 จุดดูไม่ค่อยดี ให้ Stop loss หรือ Wait & see แนวเด้ง (แนวรับย่อย) อยู่ที่ 1600, 1590-1580 จุด
สำหรับการ Scan หุ้นที่มีโอกาสทำ New high ที่เข้ามาใหม่เป็น TISCO, SAWAD, DTAC, CENTEL, CBG หุ้นที่ยังคงอยู่ใน List ได้แก่ HMPRO, EASTW หุ้นที่หลุด List คือ PTTGC และที่ให้หาจังหวะ Take profit เป็น PTG, M, GULF, JMT
นักกลยุทธ์ & นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]
Key Drivers TODAY
ปัจจัยต่างประเทศ
- สหรัฐ : ดัชนี PMI ภาคผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนพ.ย.อ่อนตัวลงต่อเป็นเดือนที่ 2-3
# ไอเอชเอส มาร์กิต เปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) รวมภาคการผลิตและภาคบริการเบื้องต้นของสหรัฐ ปรับตัวลงสู่ระดับ 54.4 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน หลังจากแตะระดับ 54.9 ในเดือนต.ค.
# ทั้งนี้ดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นอยู่ที่ 55.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 3 เดือน จากระดับ 55.7 ในเดือนต.ค. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้น อยู่ที่ 54.4 ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน จากระดับ 54.8 ในเดือนต.ค.
- สหภาพยุโรป : ดัชนี PMI ภาคผลิตและบริการเบื้องต้นเดือนพ.ย.61 ร่วงลงสู่ระดับต่ำสุดในรอบ 47 เดือน
# ดัชนี PMI รวมภาคการผลิตและบริการเบื้องต้นของยูโรโซนลดลงสู่ระดับ 52.4 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับตํ่าสุดในรอบ47 เดือน จากระดับ 53.1 ในเดือนต.ค.
# โดยดัชนี PMI ภาคการผลิตเบื้องต้นปรับตัวลงสู่ระดับ 51.5 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 30 เดือน จากระดับ52.0 ในเดือนต.ค. ส่วนดัชนี PMI ภาคบริการเบื้องต้นลดลงสู่ระดับ 53.1 ในเดือนพ.ย. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 25 เดือนจากระดับ 53.7 ในเดือนต.ค.
+ อิตาลี : ส่งสัญญาณลดเป้าหมายขาดดุลงบประมาณ
# แหล่งข่าวจากรัฐบาลอิตาลีระบุว่าพรรครัฐบาลกำลังพิจารณาปรับลดตัวเลขเป้าหมายขาดดุลงบประมาณสู่ระดับ 2%ของจีดีพีปี 62 จากเดิมที่ระดับ 2.4% เพื่อหลีกเลี่ยงการลงโทษปรับของ EU
• จับตาการประชุม G20 ปลายสัปดาห์นี้
# จับตาการประชุมผู้นำกลุ่ม G20 ในวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. ที่กรุงบัวโนส ไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา โดยประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และประธานาธิบดีสี จิ้นผิง มีกำหนดพบปะกันนอกรอบการประชุมดังกล่าว ขณะที่โกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า ปธน.ทรัมป์ และปธน.สี จิ้นผิง จะมีโอกาสเจรจาแก้ไขความขัดแย้งทางการค้าในการประชุม G20 ครั้งนี้
+ ภาวะตลาดหุ้นสหรัฐ : ดัชนีพุ่งขึ้น 1.5-2.1% รับราคาน้ำมันเด้งและยอดค้าปลีกสดใส
# ดัชนี DJIA ปิดที่ 24,640.24 จุด +354.29 จุด หรือ +1.46% ดัชนี Nasdaq ปิด +142.87 จุด หรือ +2.06% และดัชนีS&P500 ปิด +40.89 จุด หรือ +1.55% ปัจจัยหนุน คือ ราคาน้ำมันดิบรีบาวด์ และอะโดบี อนาลิติค คาดการณ์ว่ายอดขายออนไลน์ในช่วงวันไซเบอร์มันเดย์ปีนี้จะพุ่งขึ้นเกือบ 18%YoY แตะระดับ 7.8 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (ยอดขายทางออนไลน์ในช่วงวันขอบคุณพระเจ้าในสหรัฐพุ่งขึ้น 28%YoY แตะ 3.7 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์)
+ ภาวะตลาดน้ำมัน : ราคาน้ำมันปรับขึ้น 2% กว่าเมื่อคืนนี้
# สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนม.ค. พุ่งขึ้น 1.21 ดอลลาร์ หรือ +2.4% ปิดที่ 51.63 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นแข็งแกร่งสุดนับตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ปีนี้ ส่วน BRENT ส่งมอบเดือนม.ค. เพิ่มขึ้น 1.68 ดอลลาร์ หรือ +2.9% ปิดที่60.48 ดอลลาร์/บาร์เรล
# ตลาดคาดการณ์ว่ากลุ่มโอเปกจะลงมติปรับลดกำลังการผลิต 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในการประชุมซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงเวียนนา ประเทศออสเตรีย ในวันที่ 6 ธ.ค.นี้ โดยการประชุมครั้งนี้มีเป้าหมายเพื่อกำหนดนโยบายการผลิตน้ำมันในปีหน้า
• ภาวะตลาดทองคำนิวยอร์ก : ราคาปิดทรงตัว
# สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนธ.ค. ลดลง 80 เซนต์ หรือ 0.09% ปิดที่ 1,222.40ดอลลาร์/ออนซ์
ปัจจัยในประเทศ
+ หุ้น GULF และ MTC จะถูกนำเข้าไปคำนวณในดัชนี MSCI มีผล 30 พ.ย.นี้
# Morgan Stanly Capital International (MSCI) ประกาศนำหุ้นไทย 2 บริษัทเข้าคำนวณในดัชนี MSCI GlobalStandard Index มีผล 30 พ.ย.61 ประกอบด้วย 1. GULF และ 2. MTC และรอบนี้ไม่มีรายชื่อที่ถูกตัดออก สำหรับหุ้นที่ถูกนำไปคำนวณใน MSCI Global Small Cap คือ CBG, MBK, PRINC ส่วนหุ้นที่ถูกปรับออกเป็น ICHI, MONO, VNG,MTC (ออกจาก Global Small Cap Index เพื่อเข้าไปอยู่ใน Global Standard Index แทน) – ที่มา : The BangkokInsight
# ทาง DBSVTH แนะนำซื้อ MTC เนื่องจากมองว่าธุรกิจยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่งจากการขยายสาขาต่อเนื่อง (ณ สิ้นก.ย.61 มีสาขาทั้งสิ้น 3,178 แห่ง คาดว่าสิ้นปี 61 จะไม่น้อยกว่า 3,300 แห่ง) ด้านสินเชื่อ 9M61 เติบโต 26%YTD (+39%YoY) คุณภาพสินทรัพย์ดี มี NPL ratio สิ้นก.ย.61 เท่ากับ 1.26% และมี Coverage ratio สูง 259% คาดการณ์กำไรสุทธิปี 61/62/63 เติบโต 50%/30%/31% ตามลำดับ เราให้ราคาพื้นฐานปี 62 เท่ากับ 63 บาท ณ ราคาปิดวานนี้49 บาท มี Upside 28% สำหรับราคาเป้าหมายใน IAA Consensus อยู่ที่ 59 บาท (Median) มี Upside 20%ส่วน GULF เป็น Not Rated เพราะทาง DBSVTH ไม่ได้วิเคราะห์ทางปัจจัยพื้นฐาน ส่วนราคาเป้าหมายใน IAAConsensus อยู่ที่ 80 บาท (Median) ณ ราคาปิดวานนี้ 76.50 บาท มี Upside เท่ากับ 4.6%
- TMB หั่นเป้าจีดีพีรับส่งออกหดตัว แนะรับมือค่าบาท-เงินทุนผันผวน
# TMB ปรับประมาณการจีดีพีเติบโตปีนี้เป็น 4% จาก 4.5% และปีหน้าเติบโต 3.8% จากการส่งออก-การบริโภคที่โตชะลอลง พร้อมคงมุมมองกนง.ขึ้นดอกเบี้ยปลายปี 61 และปี 62 เตือนเตรียมรับมือฟันด์โฟลว์กระทบเงินบาทผันผวนหนัก
นักกลยุทธ์ & นักวิเคราะห์ : อาภาภรณ์ แสวงพรรค : [email protected]