- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Monday, 26 November 2018 15:32
- Hits: 845
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
Daily Strategy
"ย่อตัวเป็นจังหวะสะสม"
ตลาดหุ้นเมื่อวานศุกร์ : SET Index เมื่อวานศุกร์ดีดตัวขึ้น +17.70 จุด (+1.10%) ปิดที่ 1,622 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.7 หมื่นล้านบาท ตอบรับสหรัฐ-จีนส่งสัญญาณพร้อมเจรจาการค้าก่อนเปิดฉากการประชุม G20 ที่จะเริ่มในช่วงปลายเดือนพ.ย. ประกอบกับแรงซื้อตามสัญญาณเทคนิคหลังดัชนีไม่หลุด 1,600 จุด ทั้งนี้เป็นแรงซื้อในกลุ่ม PETRO, ENERG และ TRANS โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ 575 ล้านบาท และ Net Short TFEX 694 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 855 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: มุมมองเป็นลบ - กลาง คาดดัชนีอ่อนตัวทดสอบ 1,615 จุด+/-ก่อนจะสลับรีบาวด์ เนื่องจากถูกแรงกดดันจากราคาน้ำมันที่ทรุดตัวลงต่ำสุดในรอบ 13 เดือนตามความกังวล Oversupply ซึ่งเป็นลบต่อกลุ่มพลังงาน อย่างไรก็ตามคาดว่าจะมีแรงซื้อในช่วงอ่อนตัวช่วยพยุงดัชนีจากความคาดหวังผลการเจรจานอกรอบการประชุม G20 ระหว่างสหรัฐ-จีนในสัปดาห์นี้ เพื่อหาข้อสรุปข้อพิพาททางการค้าซึ่งทั้ง 2 ประเทศให้โทนน้ำหนักการเจรจาไปในด้านบวกทั้งคู่ นอกจากนี้ความชัดเจนเกี่ยวกับภาวะการเมืองของไทยหลังคสช.และ กกต.จะนัดหารือกับพรรคการเมืองในวันที่ 7 ธ.ค.เพื่อเตรียมปลดล็อกพรรคการเมืองและยืนยันกรอบการเลือกตั้งในเดือน ก.พ.2562 ซึ่งจะช่วยหนุนต่อความเชื่อมั่นของนักลงทุนให้กลับเข้ามาในตลาดอีกครั้ง
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
- กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) รัฐบาลเตรียมออกมาตรการช็อปช่วยชาติในช่วงปลายปี
- กลุ่มสายการบิน (AAV, THAI, BA) ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงและครม.ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและผ่อนปรนวีซ่าเข้าประเทศ
- กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ
- หุ้นเข้าคำนวณ MSCI Global Standard (GULF, MTC) Small Cap (CBG, MBK, PRINC) มีผล 30 พ.ย.
หุ้นแนะนำวันนี้: TASCO (14.7 ซื้อเก็งกำไร/เป้าสูงสุด Consensus 18) เป็นอีกหนึ่งผู้ประกอบการที่คาดว่าจะได้ประโยชน์จากราคาน้ำมันดิบที่ลดลงเนื่องจากจะทำให้ต้นทุนในการผลิตยางมะตอยลดลงตามไปด้วยส่งผลบวกต่อมาร์จินและกำไรของ TASCO ให้กลับมาฟื้นตัว, BCH (ปิด 18.2 ซื้อ/เป้า 21) งบ 3Q18 ดีมาก มีกำไรสุทธิ 356 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 43%qoq และ 18%yoy แนวโน้ม 4Q18 ยังดีต่อ จากรายได้ที่เร่งตัวขึ้นของศูนย์ WMC แจ้งวัฒนะ (เคยเป็นตัวถ่วงจะกลับมาเป็นตัวหนุน)
Top picks ปีนี้ : ANAN, BBL, CPALL, MTC, ROBINS และ SPALI
KSS report วันนี้ : ROBINS (ปิด 66 ซื้อ/เป้า 76), Energy and Petrochemical Event
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(-) น้ำมันดิบ WTI ลดลงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 13 เดือน เนื่องจากกังวลซัพพลายล้นตลาด นักลงทุนแห่ปิดสถานะ Long position : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงอีก 4.21$ (-7.7%) ปิดที่ 50.42$/bbl จาก 1) ซาอุฯคาดการผลิตน้ำมันดิบเดือน พ.ย.จะเพิ่มขึ้นมากกว่าเดือน ต.ค.ที่ 10.6 ล้านบาร์เรลและคาดอุปสงส์น้ำมันในช่วงต้นปีหน้าจะลดลงอีก, 2) สต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้นต่อเนื่องเป็นสัปดาห์ที่ 9 โดย EIA คาดการผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในปีหน้า และ 3) IEA คาดปีหน้าอุปทานจะยังล้นตลาดต่อ เพราะกลุ่มประเทศนอกกลุ่มโอเปกจะเพิ่มกำลังการผลิตจาก 1.8 เป็น 1.9 ล้านบาร์เรล และ 4) นักลงทุนทยอยปิดสถานะ Long position อย่างต่อเนื่องล่าสุดคงเหลือสถานะ Long position เพียง 380,000 สัญญาเทียบกับช่วงต้นปีที่ 800,000 สัญญา
(-) การเมืองยุโรปยังวุ่น Brexit ยังไม่จบ ขณะที่ประชาชนในฝรั่งเศสเดินประท้วงกดดันให้ประธานาธิบดีลาออก : เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา 27 ชาติสมาชิกยุโรปลงมติอนุมัติให้อังกฤษออกจากสภาพยุโรป (Brexit) ได้ อย่างไรก็ตามการดำเนินการดังกล่าวยังไม่จบ เพราะต้องรอการลงมติจากรัฐสภาอังกฤษอีกครั้งในช่วงต้นเดือน ธ.ค.ซึ่งยังมีความเสี่ยงที่จะไม่ได้รับความเห็นชอบเนื่องจากรัฐมนตรีหลายคนไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขที่ เทเรซาร์ เมย์ ทำกับ EU นอกจากนี้ปัจจุบันฝรั่งเศสก็มีความเสี่ยงทางการเมืองเช่นกันหลังจากประชาชนในฝรั่งเศสออกมารวมตัวประท้วงขับไล่ประธานาธิบดี มาครอง เนื่องจากไม่พอใจต่อการดำเนินโนยบายเศรษฐกิจหลายโครงการ
(+) การเมืองไทยดูผ่อนคลาย ล่าสุดนายกฯ เรียกพรรคการเมืองเข้าหารือในวันที่ 7 ธ.ค.ประกาศปลดล็อกพรรคการเมืองให้เริ่มทำกิจกรรมการเมืองได้ : นักลงทุนมีความคาดหวังทางบวกต่อการเมืองในประเทศมากยิ่งขึ้นหลังจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา นายกรัฐมนตรีประกาศนัดหารือกับทุกพรรคการเมืองที่สโมสรทหารบกในวันที่ 7 ธ.ค.ซึ่งมีการคาดการณ์กันว่า นายกฯ จะใช้การหารือดังกล่าวในการประกาศกำหนดวันปลดล็อคพรรคการเมืองและกำหนดวันเลือกตั้ง
(+/-) สัปดาห์นี้ ทุกความสนใจจะมุ่งเป้าไปที่การประชุม G20 และ การประชุมนอกรอบของ 2 ผู้นำ จีนและสหรัฐ เพื่อเจรจาบรรลุข้อตกลงสงคามการค้า : ตลาดยังคาดหวังในเชิงบวกว่าการประชุมนอกรอบระหว่าง โดนัล ทรัมป์ และ สีจิ้นผิง ในช่วงวันที่ 30 พ.ย.-1 ธ.ค. จะบรรลุข้อตกลงเพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าได้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐยุติการประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่มูลค่า 2.65 แสนล้านเหรียญ ช่วยดึง Sentiment การลงทุนทั้งภาคการค้าและการลงทุนกลับมาเป็นบวก ตรงกันข้ามหากการเจรจาล้มเหลวจะทำให้สหรัฐจะเร่งเรียกเก็บภาษีจากจีนอีกรอบซึ่งจะกลายเป็นปัจจัยลบกดดันตลาดหุ้นทั่วโลกในเดือน ธ.ค.และต่อเนื่องถึงปีหน้า
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี