ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้ทรุดตัวลง -12.93 จุด (-0.80%) ปิดที่ 1,604 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.52 หมื่นล้านบาท จากความกังวลงบประมาณของอิตาลีปี 2562 ถูก EU ปฏิเสธเนื่องจากขัดต่อกฏหมายทางการเงินของ EU รวมถึงภาระหนี้ภาครัฐจำนวนมาก ประกอบกับแนวโน้ม Fund Flow ต่างชาติที่ไหลออกต่อเนื่องซึ่งเป็นแรงกดดันดัชนี โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ 1,275 ล้านบาท และขายสุทธิในตลาดพันธบัตร 610 ล้านบาท แต่ Net Long TFEX 2,608 สัญญา 

          แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: มุมมองเป็นกลาง คาดดัชนีแกว่งตัว 1,595 - 1,615 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่กระตุ้นการลงทุน โดยแม้ว่าจะได้ข่าวบวกจากอังกฤษและ EU บรรลุข้อตกลงกรอบความสัมพันธ์ในอนาคตระหว่างสหราชอาณาจักรและ EU ภายหลัง BREXIT จะมีผลวันที่ 29 มี.ค.ปีหน้า รวมถึงจะมีการประชุมผู้นำ EU พิจารณา BREXIT เพิ่มเติมในช่วงสุดสัปดาห์นี้ด้วย  อย่างไรก็ตามแรงกดดันจากประเด็นเจพีมอร์แกนปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ในปีหน้าลงเหลือ 73 US/Barrel (เดิม 83.5 US/Barrel) จาก Supply ที่เพิ่มขึ้นแต่ Demand หดตัวลง ซึ่งเป็นลบต่อคาดการณ์ผลประกอบการกลุ่มพลังงานในอนาคตรวมถึง EPS ของ SET โดยรวม เนื่องจากกลุ่มพลังงานมีน้ำหนักต่อดัชนีค่อนข้างสูงราว 23% นอกจากนี้กระแส Fund Flow ต่างชาติที่ยังคงไหลออกต่อเนื่องก็จะเป็นตัวถ่วงต่อภาวะตลาดในช่วงนี้ด้วยเช่นกัน

          - กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) รัฐบาลเตรียมออกมาตรการช็อปช่วยชาติในช่วงปลายปี  

          - กลุ่มสายการบิน(AAV, THAI, BA)  ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงและครม.ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและผ่อนปรนวีซ่าเข้าประเทศ 

          - กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ 

          หุ้นแนะนำวันนี้: KTB (19.9 ซื้อ/เป้า 23) เราเลือก KTB เป็นหนึ่งใน top pick กลุ่มธนาคารเนื่องจากคาดว่าจะมีผลกำไรเติบโตโดดเด่นที่สุดในปีนี้และปีหน้าประมาณ 30%yoy และ 11%yoy ตามลำดับ เป็นผลจากสินเชื่อภาครัฐที่คาดว่าจะเร่งตัวขึ้นและได้ผลบวกจากแนวโน้มดอกเบี้ยขาขึ้น, BCH (ปิด 18 ซื้อ/เป้า 21) งบ 3Q18 ดีมาก มีกำไรสุทธิ 356 ล้านบาทเพิ่มขึ้น 43%qoq และ 18%yoy แนวโน้ม 4Q18 ยังดีต่อ จากรายได้ที่เร่งตัวขึ้นของศูนย์ WMC แจ้งวัฒนะ (เคยเป็นตัวถ่วงจะกลับมาเป็นตัวหนุน)

          Top picks ปีนี้ : ANAN, BBL, CPALL, MTC, ROBINS และ SPALI  

          KSS report วันนี้ : BEM (ปิด 8.5 ถือ/เป้า 8.6), BTS (ปิด 9.4 ซื้อ/เป้า 10.5), SAWAD (ปิด 45.75 ซื้อ/เป้า 55), Transport sector- Masstransit (Top pick : BTS)

 

ประเด็นสำคัญวันนี้ :  

          (-) กลุ่มธุรกิจน้ำมันยังมี downside ล่าสุด เจพีมอร์แกน ออกรายงานปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ในปีหน้าเป็น 73$/bbl จากเดิม 83.5$/bbl : วานนี้ เจพีมอร์แกน ออกบทวิเคราะห์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ โดยปรับลดคาดการณ์ราคาน้ำมันดิบ Brent ในปีหน้าลงเป็น 73 $/bbl จากเดิม 83.5$/bbl และคาดราคาเฉลี่ยของน้ำมันดิบ Brent ในปี 2021 จะลดลงเป็น 64$/bbl เนื่องจากกังวลอุปสงส์ที่ชะลอตัวตามทิศทางเศรษฐกิจโลกและยังถูกกดดันจากซัพพลายที่สูงขึ้นจากการเพิ่มกำลังการผลิตของ OPEC ในปีนี้ และกลุ่มประเทศอเมริกาเหนือจะปรับเพิ่มกำลังการผลิตในช่วงครึ่งหลังของปีหน้า 

          (+/-) แบงก์ชาติส่งสัญญาณขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นบวกต่อกลุ่มธนาคารหลังจากก่อนหน้าถูกเทขายเพราะกังวลสินเชื่อชะลอตัวหลัง GDP ไทยโตต่ำกว่าคาด : ผู้ว่าแบงก์ชาติส่งสัญญาณอาจจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งถัดไปในวันที่ 19 ธ.ค. เนื่องจากการคงอัตราดอกเบี้ยในระดับต่ำเป็นเวลานานจะส่งผลลบต่อระบบเศรษฐกิจจากการแสวงหาผลตอบแทนที่สูงกว่า (search for yield) และมักจะประเมินความเสี่ยงต่ำกว่าที่ควรจะเป็น และเชื่อมั่นว่าการปรับขึ้นดอกเบี้ยจะไม่สงผลลบต่อระบบเศรษฐกิจโดยคาด GDP ปีหน้าจะยังขยายตัวในระดับ 3-4% ได้ ปัจจัยนี้คาดว่าจะส่งผลบวกต่อ Sentiment การลงทุนในหุ้นกลุ่มธนาคาร หลังจากช่วงที่ผ่านมาถูกเทขายอย่างมากเพราะกังวลสินเชื่อจะชะลอตัวหลังจากที่ GDP 3Q18 โตเพียง 3.3% ต่ำกว่าที่ตลาดคาดว่าจะขยายตัว 4.2% 

          (+/-) สัปดาห์หน้าติดตามการประชุม G20 และ การประชุมนอกรอบของประธานาธิบดีสหรัฐและจีนเพื่อทำข้อตกลงคลี่คลายการค้า : ตลาดยังคาดหวังในเชิงบวกว่าการประชุมนอกรอบระหว่าง โดนัล ทรัมป์ และ สีจิ้นผิง จะบรรลุข้อตกลงเพื่อคลี่คลายข้อพิพาททางการค้าได้ ซึ่งจะทำให้สหรัฐยุติการประกาศเรียกเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนรอบใหม่มูลค่า 2.65 แสนล้านเหรียญซึ่งจะทำให้ Sentiment การลงทุนทั้งภาคการค้าและการลงทุนกลับมาเป็นบวก ส่วนปัจจัยอื่นๆที่จะมีขึ้นในสัปดาห์หน้าคือ การประชุมพิจารณาของสหภาพยุโรปต่อการดำเนินการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ และ การคำนวณดัชนี MSCI รอบใหม่จะเริ่มมีผลบังคับใช้ในวันที่ 30 พ.ย.โดย MTC และ GULF ถูกปรับเข้าคำนวณดัชนี MSCI Global standard