- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 November 2018 15:31
- Hits: 7722
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Daily Strategy
"อย่าเพิ่งวางใจ"
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index วานนี้รีบาวด์ขึ้น +5.30 จุด (+0.33%) ปิดที่ 1,617 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 4.69 หมื่นล้านบาท แม้ว่าตลาดจะถูกกดดันจากราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวแรง แต่ยังมีแรงหนุนจากปัจจัยภายใน คือตัวเลขส่งออกของไทยเดือน ต.ค.ขยายตัวมากกว่าคาด โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ 787 ล้านบาท และ Net Short TFEX 5,417 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 7,278 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้: มุมมองเป็นกลาง คาดดัชนีรีบาวด์ในกรอบจำกัด 1,625 - 1,630 จุดก่อนจะสลับอ่อนตัว โดยภาวะตลาดได้ปัจจัยบวกจากตัวเลขการส่งออกของไทยเดือนต.ค.ขยายตัวขึ้นมากกว่าที่คาดการณ์ไว้โดย +8.7% และ 10 เดือนแรก +8.2% ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ดีดตัวขึ้นตอบรับคาดการณ์การประชุมกลุ่มโอเปกในวันที่ 6 ธ.ค.จะปรับลดกำลังการผลิตลง 1.4 ล้านบาร์เรล/วันในปี อย่างไรก็ตามปัจจัยลบจากความกังวล EU ปฏิเสธรับรองงบประมาณปี 2562 ของอิตาลีเนื่องจากขัดต่อกฏหมายทางการเงินของ EU รวมถึงมีภาระหนี้ภาครัฐจำนวนมากซึ่งจะเป็นแรงกดดันต่อภาพรวมเศรษฐกิจยูโรโซน
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
- กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) คาดหวังรัฐบาลออกมาตรการช็อปช่วยชาติในช่วงปลายปี
- กลุ่มสายการบิน (AAV, THAI, BA) ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงและครม.ออกมาตรการกระตุ้น การท่องเที่ยวและผ่อนปรนวีซ่าเข้าประเทศ
- กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ
หุ้นแนะนำวันนี้: BDMS (ปิด 25.5 ซื้อ/เป้า 30) ผลกำไรที่ออกมาดีใน 3Q18 (2.88 พันล้านบาท 41%qoq และ 19%yoy) ตอกย้ำมุมมองเดิมของเราที่เชื่อว่า BDMS ผ่านพ้นช่วงของการลงทุนมาแล้ว(ซื้อโรงแรมปาร์คนายเลิศ) และจะเริ่มเข้าสู่ช่วงเก็บเกี่ยวผลกำไร, SAWAD (ปิด 46.25 ซื้อ/เป้า 55) วันนี้มี Analyst meeting คาดตลาดจะทยอยปรับประมาณการณ์กำไรและราคาเป้าหมายขึ้นหลังจากที่ผลประกอบการ 3Q18 เพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่นและดีกว่าที่ตลาดคาดไว้ จากแรงหนุนของยอดสินเชื่อที่ยังเติบโต และ NPLs ลดลง
Top picks ปีนี้ : ANAN, BBL, CPALL, MTC, ROBINS และ SPALI
KSS report วันนี้ : SGP (ปิด 9.4 ถือ/เป้า 9.5), WORK (ปิด 26.5 ถือ/เป้าใหม่ 30 จาก 36)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
(+/-) น้ำมันดิบบวก 1.2$/bbl แต่เป็นแค่ Technical rebound เนื่องจากปัจจัยพื้นฐานยังไม่ดีโดยเฉพาะสต๊อกน้ำมันดิบของสหรัฐยังเพิ่มขึ้นไม่หยุด : ราคาน้ำมันดิบ WTI กลับมาฟื้นตัวเป็นบวก 1.2 $/bbl (+2.25%) ปิดที่ 54.63 $/bbl จาก 1)เกิด Technical rebound หลังจากที่ร่วงแรงกว่า 6.6% ในวันก่อนหน้า, 2)ยังคาดหวังกลุ่ม OPEC จะลดกำลังการผลิตลง 1.4 ล้านบาร์เรลในการประชุมของกลุ่ม OPEC ในวันที่ 6 ธ.ค. อย่างไรก็ตามการฟื้นตัวของราคาเป็นไปอย่างจำกัด เพราะยังมีปัจจัยกดดันจากข่าวตัวเลขสต๊อกน้ำมันดิบรายสัปดาห์ของสหรัฐเพิ่มขึ้นอีก 4.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน มากกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ 1.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน และเป็นการเพิ่มขึ้นติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9
(-) สหภาพยุโรปลงมติคว่ำร่างงบประมาณอิตาลีเป็นครั้งที่ 2 เนื่องจากดำเนินนโยบายขัดกับข้องตกลงของ EU และอาจจะต้องถูกปรับจากการผิดข้อตกลงดังกล่าว : ปัญญาการเมืองและเศรษฐกิจของอิตาลียังไม่คลี่คลาย หลังจากล่าสุด คณะกรรมาธิการยุโรป (EC) ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของ EU ลงมติคว่ำร่างงบประมาณที่รัฐบาลอิตาลีเสนอเป็นครั้งที่ 2 เพราะตัวเลขขาดดุลงบประมาณยังอยู่ที่ระดับ 2.4% ของ GDP ซึ่งขัดกับข้อตกลงของ EU ที่ให้การขาดดุลงบประมาณต้องไม่เกิน 3% ของ GDP การคว่ำร่างดังกล่าวอาจทำให้อิตาลีถูกปรับและขาดแคลนงบประมาณในการบริหารประเทศกลายเป็นความเสี่ยงต่อเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของอิตาลีและยูโรโซน
(+) ส่งออกเดือน ต.ค.พลิกเป็นขยายตัว 8.7%yoy (ก.ย.-5.2%yoy) แต่เมื่อหักน้ำมันและทองคำจะโตเพียง 4.7% ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ : กระทรวงพาณิชย์รายงานยอดส่งออกของไทยเดือน ต.ค.พลิกเป็นขยายตัว 8.7%yoy เทียบกับเดือน ก.ย.ที่หดตัว 5.2%yoy อย่างไรก็ตามการเพิ่มขึ้นส่วนหนึ่งมาจากสินค้าที่เกี่ยวกับทองคำและน้ำมันหากหักทั้งสองรายการจะทำให้ยอดโตเพียง 4.7%yoy ใกล้เคียงกับที่ตลาดคาดไว้ที่ 4%yoy ยอดส่งออกที่ขยายตัวได้ไม่มากเป็นเพราะกลุ่มสินค้าหลักที่เคยเป็นพระเอกยังไม่ฟื้นอาทิ ยอดส่งออกรถยนต์ -8.9%yoy, คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ -4.9%yoy
(+/-) นักท่องเที่ยวจีนเดือน ต.ค. ยังไม่ฟื้นส่วนเดือน พ.ย. ยังมี downside แต่คาดว่าจะฟื้นตัวเร็วในเดือน ธ.ค.จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยว : กระทรวงท่องเที่ยวฯ รายงานจำนวนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติเดือน ต.ค.มีทั้งสิ้น 2.7 ล้านคน เพิ่มขึ้น 2.1%mom แต่ลดลง 0.51%yoy เป็นผลจากนักท่องเที่ยวจีนยังไม่ฟื้นโดยนักท่องเที่ยวจีนเดือน ต.ค.มีทั้งสิ้น 6.46 แสนคน ลดลง 0.2%mom และ 19.8%yoy คาดแนวโน้มนักท่องเที่ยวจีนเดือน พ.ย.ยังมี downside เนื่องจากไม่มีช่วง Golden week เหมือนเดือน ต.ค. อย่างไรก็ตามเราคาดว่านักท่องเที่ยวจีนจะฟื้นตัวในอัตราเร่งในเดือน ธ.ค.จากมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐที่เริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่เดือน ธ.ค.-ม.ค.ปีหน้า
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี