- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Thursday, 22 November 2018 15:26
- Hits: 7395
บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง : บทวิเคราะห์ตลาดหุ้นรายวัน At The Open
Market summary
เมื่อวานที่ผ่านมา SET ผันผวนสูง โดยเปิดตลาดติดลบตามภูมิภาค ก่อนเกิด Technical rebound ในช่วงบ่าย โดยมีแรงซื้อเก็งกำไรในกลุ่มการเงินอย่าง MTC, SAWAD และกลุ่มธนาคารอย่าง KBANK, BBL กลุ่มอสังหาอย่าง ORI, LPN, GOLD ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,617.3 จุด (+5.3 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 4.5 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 3.6 หมื่นล้านบาท
นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 2 ที่ 786 ล้านบาท พร้อมคงเปิดสถานะ Short SET50 index future สุทธิ 5,417 สัญญา
Investment theme
จับตาทิศทาง Dollar ภายหลังการเมืองในยุโรปไม่นิ่ง: แนะนักลงทุนติดตามอย่างใกล้ชิดนั่นคือการเคลื่อนไหวของ Dollar ภายหลังสถานการณ์การเมืองในยุโรปเริ่มส่งสัญญาณไม่ดี เริ่มต้นจากรัฐมนตรีอังกฤษ 4 คน นำโดย Dominic Raab, Esther Mcvey ต่างพร้อมใจกันลาออก และแสดงความไม่เห็นด้วยต่อนายกหญิง Theresa May ภายหลังเกิด Soft Brexit (คนที่ลาออกต้องการความชัดเจน และ Hard Brexit) จับตาการการยื่นไม่ไว้วางใจ อาจส่งผลถึงการถอดถอน May ลงจากตำแหน่งผู้นำ โดยการกระทำดังกล่าวจะต้องใช้เสียงมากกว่า 48 เสียง (ล่าสุดรวบรวมได้ 20 เสียงแล้ว ) ในขณะที่อีกปัจจัยที่สำคัญไม่แพ้กัน นั่นคือ การหารือระหว่างรัฐบาลอิตาลีกับ EC ประเด็นงบประมาณขาดดุลอีกครั้ง หลังจากเมื่อวานที่ผ่านมา EU ปฎิเสธการรับรอง โดยประเด็นสำคัญคือการที่รัฐบาลเพิ่มตัวเลขขาดดุลสูงกว่าประมาณการครั้งก่อน 0.8% และไม่มีแผนที่ชัดเจนต่อการแก้ไขปัญหาหนี้สินที่สูงกว่า 133% ทั้ง 2 ประเด็นสร้างความกดดันต่อค่าเงินปอนด์และยูโร ส่งผลให้เรามองว่าในระยะสั้น Dollar มีโอกาสที่จะกลับมาแข็งค่าอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นหนึ่งในปัจจัยกดดันการลงทุนในตลาดเกิดใหม่ (Emerging market)
Investment Theme: ประเมินกรอบการแกว่งตัวของ SET บริเวณ 1,590 - 1,620จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายเบาบาง ไปจนถึงช่วงปลายเดือนพ.ย.ที่จะมีการประชุม G20 ที่อาจเห็นการเจรจาการค้ากันระหว่าง 2 ผู้นำอย่าง Trump และ Xi Jinping
Big issue
เมื่อคืนที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์รายงานตัวเลขการส่งออกเดือนต.ค.สูงกว่าคาดที่ 8.7% (คาด 4.0%) ส่งผลให้ 8 เดือนแรกเติบโต 8.1% / ก.ท่องเที่ยวรายงานตัวเลขนักท่องเที่ยวเดือน ต.ค. -0.5% นักท่องเที่ยวจีนติดลบ 19%
Stock pick : -
Trading idea - ทยอยสะสม GOLD โดยเราประเมินเป็นบริษัทที่ได้รับผลจาก LTV จำกัด ในขณะที่ล่าสุดรายงานกำไรสุทธิปีนี้ทำสถิติสูงสุดต่อเนื่องเติบโตกว่า 93% YoY ที่ 2.1 พันล้านบาท โดยเราประเมินกำไรปีหน้าจะยังเติบโตทำสถิติสูงสุดต่อเนื่อง และมี Upside ต่อประมาณการจากการคลุม SG&A และค่าใช้จ่ายอื่นๆทำให้ Margin มีแนวโน้มดีกว่าคาด / ทยอยซื้อ กลุ่มค้าปลีก CPALL (63.0-65.0), BJC (48.0-50.0) ที่แนวรับ โดยเรามีมุมมองเชิงบวกต่อกลุ่มค้าปลีก
Technical View
Rebound จากแนวรับสำคัญที่ 1600 แต่แนวโน้มหลักเป็นขาลง: ในช่วงเช้าดัชนีเปิด Gap ลงและปรับตัวลงแรงจากแรงขายหุ้นกลุ่มพลังงาน ทำให้ดัชนีปรับตัวลงทดสอบแนวรับสำคัญที่ 1600 จากนั้นมีแรงซื้อกลับจากกลุ่มธนาคาร อสังหาริมทรัพย์และ Leasing ผลักดัชนีให้ปรับตัวขึ้นปิด Gap และแกว่ง Sideway Up ทดสอบแนวต้านโซน 1620 ระยะสั้นยังมองป็นเพียงการ Rebound ในระยะสั้นเนื่องจากแนวโน้มหลักยังเป็นขาลง ฉะนั้นยังแนะนำให้พิจารณาแรงขายตามแนวต้านเป็นระยะๆ เพื่อขายทำกำไรเล่นรอบสั้นๆ
กลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: จังหวะ Rebound ระหว่างวันมองเป็นโอกาสขายเพื่อเล่นรอบตามแนวต้านต่างๆ หรือหากหลุด 1610 แนะนำขายทำกำไร2) ไม่มีหุ้น: หากรับความเสี่ยงได้แนะนำให้เทรดในกรอบ 1610-1625/1630 หากหลุด 1610 แนะนำชะลอการเก็งกำไรและดูแนวโน้มที่แนวรับ 1600
แนวรับ : 1600, 1610 แนวต้าน : 1625, 1630
Keep an eye on…
ปัจจัยต่างประเทศ: -
ปัจจัยในประเทศ: จับตามาตรการ Shop ช่วยชาติ
หุ้นเทคนิค:
GULF (B 73.00-74.50, Tp 77.00//79.00, Cut 72.50)
STEC (B 23.50-24.00, Tp 25.00//27.00, Cut 23.30)
ข่าวเด่นเช้านี้
TU ส่งซิกผลงานไตรมาส 4 แจ่ม มั่นใจอัตรากำไรขั้นต้นปีนี้ 14-15% ตามเป้า (ข่าวหุ้น)
TU ลุ้นผลงานไตรมาส 4 สดใส มองราคาวัตถุดิบ-อัตราแลกเปลี่ยนค่าเงินบาททรงตัว มั่นใจปีนี้อัตรากำไรขั้นต้นได้ 14-15% ตามเป้าหมาย พร้อมเล็งปิดธุรกิจแซลมอนในอังกฤษ คาดชัดเจน ธ.ค.นี้
ความเห็น : คาดกำไร 4Q61 ชะลอเนื่องจากเป็นโลว์ซีซั่น แต่ภาพรวมค่อนข้างเป็นบวกโดยคาดกำไรปีหน้าเติบโตดีขึ้นจากต้นทุนราคาปลาทูน่ามีแนวโน้มลดลง ขณะที่ TU ยังเน้นการลดต้นทุนและค่าใช้จ่าย การปิดธุรกิจแซลมอนในสกอตแลนด์ที่ขาดทุนจะทำให้อัตรากำไรขั้นต้นในปีหน้าสูงกว่าปีนี้ แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 20.60 บาท เทคนิคแกว่ง sideway ในกรอบ 17.5-19.0 บาท
SQ ส่งซิกงบ Q4 พลิกกำไร แม่เมาะ 8 กลับมารันปกติ ตุนแบ็กล็อก 3.4 หมื่นล้าน (ข่าวหุ้น)
SQ มั่นใจผลงาน Q4 เทิร์นอะราวด์พลิกมีกำไร หลังเดินเครื่องจักรใหญ่โครงการแม่เมาะ 8 ครบไตรมาส และเหมืองแม่เมาะ-เหมืองหงสากลับมาทำงานได้เต็มที่ หลังหมดพายุฝน หนุนธุรกิจกลับมาเติบโตจากแบ็กล็อกในมือกว่า 34,000 ล้านบาท
ความเห็น : แนวโน้ม 4Q61 คาดจะพลิกมามีกำไร แต่คาดฐานกำไรจะยังต่ำ และเป็นระดับที่น่าผิดหวัง เนื่องจากเครื่องจักรโครงการแม่เมาะ 8 ยังใช้กำลังการผลิตเพียง 70% และ มีค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นปีละประมาณ 120 ล้านบาท ทำให้เราปรับประมาณการลดลง แนะนำ ถือ เพื่อรอดูสถานการณ์ โครงการแม่เมาะ 8 ให้เริ่มเดินเครื่องเต็มที่และราบรื่น เทคนิคยังคงเป็นขาลง แนวรับสั้น 2.0 ต้าน 2.2 บาท
TPIPL ประเมินดีมานด์ซีเมนต์ปี62 พุ่ง รับการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานภาครัฐ (ผู้จัดการรายวัน 360 องศา)
ทีพีไอ โพลีน ส่องแนวโน้มตลาดซีเมนต์ปี 62 สดใส หลังจากภาครัฐเดินหน้าลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ทั้งระบบราง ถนนและสนามบิน ส่งผลดีต่อความต้องการใช้ซีเมนต์ที่ขยายตัว คาดหากภาครัฐพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานได้ตามแผนงาน จะกระตุ้นการใช้ซีเมนต์เพื่อการก่อสร้างอีกประมาณ 15 -20 ล้านตัน
ความเห็น : ปี 2562 จะรับรู้กำลังการผลิตโรงไฟฟ้า 440MW เต็มปี จะเป็นธุรกิจหลักที่ช่วยผลักดันผลประกอบการของ TPIPL ส่วนธุรกิจวัสดุก่อสร้างจะได้แรงหนุนจากการก่อสร้างโครงการของรัฐบาลมากขึ้น ช่วยหนุนให้ธุรกิจวัสดุก่อสร้างค่อยๆฟื้นตัวดีขึ้น เราประเมินปีนี้จะมีกำไรเล็กน้อย 61 ล้านบาท เทียบกับปีก่อนที่ขาดทุน 1,260 ล้านบาท ส่วนปี 2562 คาดกำไรจะดีขึ้นสู่ระดับ 2,367 ล้านบาท แนะนำ ซื้อ เป้าหมาย 3 บาท เทคนิคสร้างฐานแนวรับ 1.8 ต้านสั้น 1.9/2.0 บาท
BGRIM กองทุนเวียดนามจ้องลุยจ่ายไฟฟ้าโซลาร์ 31 MW (ทันหุ้น)
BGRIM เผยกองทุนเวียดนาม ฮ่องกง สิงคโปร์ สนใจลงทุนในธุรกิจ ประเมินธุรกิจแข็งแกร่ง เติบโตต่อเนื่อง เดินหน้าจ่ายไฟฟ้าโครงการโซลาร์ฟาร์มราชการอีก 31 เมกะวัตต์ วางแผนปี 2562 ลุยขยายงานในลาว-เวียดนาม ดันกำลังการผลิตเพิ่ม โบรกเชียร์ "ซื้อสะสม" ส่องราคาหุ้น Under Value ค่อนข้างมาก
ความเห็น : ราคาหุ้นในช่วงที่ผ่านมาอ่อนตัวสะท้อนผลประกอบการ 3Q61 ที่ต่ำกว่าคาดเป็นผลจากแรงกดดันต้นทุนก๊าซฯ ที่ยังคงต่อเนื่องไปใน 4Q61 อาจเป็นปัจจัยกดดันราคาหุ้นต่อในระยะสั้น อย่างไรก็ตาม BGRIM เป็นหุ้นที่ยังคงน่าสนใจในระยะยาวจากการเติบโตตามแผน และโอกาสขยายฐานไปในเวียดนามเชิงกลยุทธ์แนะนำ รอสะสมเมื่ออ่อนตัว การปรับขึ้น Ft 4.3 สตางค์ต่อ kWh ในเดือน ม.ค.-เม.ย. 2562 จะช่วยบรรเทาผลกระทบจากต้นทุนก๊าซฯ ได้ 2.5 ล้านบาทต่อเดือน ราคาเป้าหมาย 29 บาท เทคนิคอยู่ในช่วงปรับฐาน แนวรับ 24.2/25.0 ต้าน 26 บาท
CKP กำไรโตเด่น เป้าใหม่ 6.20 บาท (ข่าวหุ้น)
CKP เด้งรับราคาเป้าหมายใหม่ 6.20 บาท โบรกฯอัพกำไรปี 2561-2562 เพิ่มขึ้นเกิน 100% ผลบวกโรงไฟฟ้าน้ำงึม 2 ผลิตไฟฟ้าได้ดีเกินคาด หนุนงบปี 2561 กำไรโต 739 ล้านบาท จับตา COD ไซยะบุรีปั๊มกำไรปี 2562 พุ่งทะลุ 1 พันล้านบาท
ความเห็น : เราแนะนำให้เพิ่มความระมัดระวังการลงทุนใน CKP เนื่องจากราคาที่พุ่งขึ้นมาแรงก่อนหน้าตอบรับผลประกอบการ 3Q61 ที่โดดเด่น อย่างไรก็ตามปริมาณน้ำไหลเข้าเขื่อนเริ่มลดลง ทำให้ผลประกอบการ 4Q61 จะอ่อนตัวลง ต่อเนื่องไปใน 1Q62 ที่เป็นช่วงแล้ง โครงการ XPCL จะเริ่มทดสอบการผลิตเร็วๆ นี้ อย่างไรก็ตามการเปิดดำเนินงานเชิงพาณิชย์ยังคงตามเดิมคือในเดือน ต.ค. 2562 เทคนิคแกว่ง sideway กรอบ 4.9-5.2 บาท
นักวิเคราะห์ : สรพล วีระเมธีกุล / วิจิตร อารยะพิศิษฐ / จรูญพันธ์ วัฒนวงศ์
Research Department Tel. 02-658-5000