- Details
- Category: บทวิเคราะห์
- Published: Wednesday, 21 November 2018 15:16
- Hits: 5462
บล.กรุงศรี : Money Wizard
Money Wizard
ตลาดหุ้นวานนี้ : SET Index ปรับตัวลงแรง -24.45 จุด (-1.49%) ปิดที่ 1,612 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.64 หมื่นล้านบาท จากความกังวล Trade war ยืดเยื้อหลังสหรัฐไม่เปลี่ยนแปลงมาตรการเรียกเก็บภาษีต่อสินค้านำเข้าจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ หากจีนไม่เปลี่ยนพฤติกรรมทำการค้ากับสหรัฐ ทั้งนี้เป็นแรงขายในกลุ่ม FIN, MEDIA, PROP และ BANK โดยนักลงทุนต่างชาติเป็นฝั่งขายสุทธิ 2,182 ล้านบาท และ Net Short TFEX 11,177 สัญญา แต่ซื้อสุทธิในตลาดพันธบัตร 4,809 ล้านบาท
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้ : มุมมองเป็นลบ คาดดัชนีอ่อนตัวลงทดสอบ 1,600 จุด +/- จากแรงกดดันปัจจัยภายนอกตามความกังวลปัญหา Trade war ที่ยืดเยื้อหลังสหรัฐจะยังคงเก็บภาษีสินค้านำเข้าจากจีนวงเงิน 2.5 แสนล้านดอลลาร์ หากจีนไม่เปลี่ยนพฤติกรรมการทำการค้ากับสหรัฐ ประกอบกับราคาน้ำมันดิบที่ทรุดตัวลงแรงกว่า 6% ทำ low ในรอบปีหลังลิเบียผลิตน้ำมันเพิ่ม 2 เท่าเป็น 1.3 ล้านบาร์เรล รวมถึง sentiment เชิงลบจากตลาดหุ้นสหรัฐที่ปรับตัวลงต่อเนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีส่งผลให้ภาวะการลงทุนทั่วโลกและไทยเป็นลบ อย่างไรก็ตามคาดว่าดัชนีจะมีสลับเด้งรีบาวด์ในระหว่างวันได้หลัง Valuation ลงมาที่ระดับน่าสนใจ (P/E 15 เท่า Div 3%) รวมถึงเป็นแนวรับตามเทคนิค
กลยุทธ์การลงทุนวันนี้ : Selective Buy
• กลุ่มค้าปลีก (HMPRO, ROBINS, CPALL) คาดหวังรัฐบาลออกมาตรการช็อปช่วยชาติในช่วงปลายปี
• กลุ่มสายการบิน (AAV, THAI, BA) ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบปรับตัวลงแรงและครม.ออกมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวและผ่อนปรนวีซ่าเข้าประเทศ
• กลุ่มรับเหมา (STEC, SEAFCO) นิคมฯ (AMATA) รับผลบวกจากการเลือกตั้ง และโครงการขนาดใหญ่ภาครัฐ
หุ้นแนะนำวันนี้ : AAV (ปิด 3.94 ซื้อเก็งกำไร/เป้า Consensus 4.83) ได้อานิสงส์ราคาน้ำมันดิบร่วงแรงส่งผลบวกต่อต้นทุนการดำเนินงานลดลง (น้ำมันคิดเป็น 30% ของต้นทุนรวม) ธุรกิจสายการบินมอง AAV ได้ผลบวกมากสุด เนื่องจากเป็นสายการบินที่ทำสัญญาซื้อขายล่วงหน้าราคาน้ำมันไว้น้อยที่สุด (4% ของปริมาณที่ต้องการใช้), ROBINS (ปิด 65.50 ซื้อ/เป้า 76) เก็งกำไรข่าวภาครัฐเตรียมออกมาตรการช็อปช่วยชาติกระตุ้นการใช้จ่ายช่วงปลายปี มองเป็นบวกกับ ROBINS มากสุด
Top picks ปีนี้ : ANAN, BBL, CPALL, MTC, ROBINS และ SPALI
KSS report วันนี้ : ASAP (ปิด 3.72 ถือ/เป้าใหม่ 3.9 เดิม 6.3) , CBG (ปิด 45 ถือ/เป้า 43)
ประเด็นสำคัญวันนี้ :
• (-) น้ำมันดิบร่วงแรงแรง(WTI -77$/bbl) จากปัจจัยเดิม (ดีมานด์หด, ซัพพลายล้น) และล่าสุดมีปัจจัยใหม่สหรัฐส่งสัญญาณไม่ลงโทษซาอุฯ : ราคาน้ำมันดิบ WTI ลดลงทำจุดต่ำสุดในรอบ 1 ปีที่ระดับ 53.4$/bbl ลดลง 3.77$ หรือลดลง 6.6% ซึ่งมาจากหลายปัจจัยลบ 1)กังวลดีมานด์ชะลอตัว จากปัญหา trade war 2) กังวลซัพพลายล้นตลาด หลังผู้ผลิตน้ำมันดิบรายใหญ่ทั้งสหรัฐและซาอุฯยังผลิตน้ำมันเพิ่มขึ้น ขณะที่ล่าสุดมีปัจจัยใหม่ คือสหรัฐส่งสัญญาณอาจจะไม่ลงโทษซาอุฯต่อกรณีการเสียชีวิตของนักข่าวหนังสือพิมพ์วอร์ชิงตันโพส ทำให้โอกาสที่ซัพพลายจะตึงตัวจากการคว่ำบาตรซาอุฯจะไม่เกิดขึ้น
• (-) ดาวโจนส์ร่วงต่อ แรงขายหุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังไม่หยุด และถูกซ้ำด้วยแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงาน : ดัชนีดาวโจนส์ลดลง 552 จุด (-2.2%) ปิดที่ 24,466 จุด นักลงทุนยังไม่คลายกังวลจากการปรับลดคำสั่งผลิต iPhone ของ Apple ส่งผลให้นักลงทุนยังเทขายหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ยังมีปัจจัยลบใหม่มาซ้ำเติมจากแรงขายหุ้นในกลุ่มพลังงานหลังจากที่ราคาน้ำมันดิบ WTI ร่วงหนักกว่า 3.77 $/bbl ปิดที่ระดับ 53.43 S/bbl ทำสถิติต่ำสุดในรอบ 1 ปี
• (+/-) วันนี้ติดตามรายงานตัวเลขส่งออก/นำเข้า เดือน ต.ค.ของไทยจับสัญญาณ GDP ไตรมาส 4/18 ของไทยจะฟื้นตัวได้หรือไม่ (คาดยอดส่งออกขยายตัว 4%จาก -5.2%yoy ในเดือนก่อนหน้า) : เราและตลาดยังมีมุมมองเป็นบวกโดยคาดยอดส่งออกเดือน ต.ค.จะพลิกมาเป็นบวกประมาณ 4% จากที่หดตัว 5.2% ในเดือนก่อนหน้า ปัจจัยหนุนน่าจะมาจากการส่งออกรถยนต์ที่หดตัวน้อยลง โดยวานนี้ ส.อ.ท.รายงานยอดส่งออกรถยนต์เดือน ต.ค.ลดลงเพียง 2.65% เทียบกับเดือนก่อนหน้าที่หดตัวแรงกว่า 13.6%yoy
นักวิเคราะห์ ปัจจัยพื้นฐาน :
อาทิตย์ จันทร์สว่าง Registration No.16475
นักวิเคราะห์ เทคนิค และ นักกลยุทธ์:
ชัยยศ จิวางกูร Registration No. 15942
ผู้ช่วยนักวิเคราะห์:
ยุภาวณี เล้าตระกูลชัย
ณัฐกานต์ โพธิ์ศรี