เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา SET แกว่งตัวในกรอบแคบ โดยระหว่างชั่วโมงการซื้อขายมีแรงขายเด่นในหุ้นขนาดเล็ก-กลางหลายตัวนำโดย PTG, STA, ERW , ASAP และ BGC  ในขณะที่หุ้นการเงินมีแรงซื้อเด่นอย่าง JMT, SAWAD  ณ.สิ้นวัน SET ปิดที่ 1,635.0 จุด   (-3.8 จุด) ด้วยมูลค่าการซื้อขายราว 3.7 หมื่นลบ. ลดลงเมื่อเทียบกับวันก่อนหน้าที่ 4.4 หมื่นล้านบาท   

นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทยเป็นวันที่ 6 ที่ 303 ล้านบาท แต่กลับมาเปิดสถานะ Long SET50 index future สุทธิ 14,490 สัญญา   

 

          การประชุม APEC ไม่ได้ข้อสรุป ทำให้ G20 เครียด :  เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา การประชุมความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก (APEC) ที่ประเทศปาปัวนิวกินี โดยมีผู้นำหลายประเทศเข้าร่วมการประชุมนำโดย Xi Jinping, Abe ในขณะที่ Trump ส่ง Mike Pence เข้าร่วมประชุมแทน โดยประเด็นที่ทำให้นักลงทุนกังวลนั่นคือ เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2536 ของการจัดประชุม APEC ที่ท้ายสุดไม่มีการแถลงสรุปการประชุมในครั้งนี้ ทำให้ โดยประเด็นหลักที่ผู้นำหลายประเทศกล่าวถึงนั่นคือการเปลี่ยนรูปแบบขององค์กรการค้าโลก (WTO) ในขณะที่ประเด็นการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐ-จีน ยังไม่ได้ข้อสรุปเช่นกัน ทำให้เราประเมินว่าการประชุม G20 ที่ประเทศอาร์เจนติน่าในปลายเดือนนี้ จะเป็นโอกาสครั้งสุดท้ายที่ 2ผู้นำสหรัฐ-จีนจะหาทางออกร่วมกัน ในขณะที่ปัจจัยในประเทศที่ส่งผลต่อการลงทุนสัปดาห์นี้มุ่งไปที่ 1) การรายงาน GDP ไตรมาส 3 ของประเทศไทยในวันนี้ โดย Bloomberg คาดไว้ที่ 4.2% ลดลงจากก่อนหน้าที่ 4.6 และ 2) คสช.ใช้มาตรา 44 เลื่อนให้กกต.ขยายเวลาแบ่งเขตเลือกตั้ง (ติดตามพรรคการเมืองนักแถลงข่าวยื่นหนังสือถึง กกต. ในวันที่ 22 พ.ย.นี้ )

          Investment Theme:  สัปดาห์นี้ประเมินกรอบ SET 1,620-1,650 จุด คงคำแนะนำถือเงินสดไม่ต่ำกว่า 40% พร้อมเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มอสังหา, โรงกลั่น , TV-Digital และทยอยสะสมหุ้น Defensive และ Downside จำกัด นำโดย EGCO และทยอยสะสม BEM

 

เมื่อคืนที่ผ่านมา รัฐมนตรีอังกฤษหลายคน ทยอยลาออกภายหลังไม่พอใจ May กับการจัดการ Brexit 

          CMC เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์วันนี้

 

Stock pick :  JMT

          

JMT : แนะนำซื้อราคาเหมาะสม  15.30  บาท/หุ้น 

          เรามีมุมมองเชิงบวกต่อการประชุมนักวิเคราะห์เมื่อสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา โดยผู้บริหารมีมุมองเชิงบวกต่อพอร์ต Secured loan และระบุถึงการใช้ IFRS9 ที่จะเริ่มในปี 2563 จะส่งผลบวกทางอ้อมให้ธนาคารเร่งขายหนี่ในปีหน้า ในขณะที่คาดกำไร Q4 เติบโต QoQ  ประมาณ 140ลบ +/- 

          ราคาหุ้นปรับตัวลงจากต้นปีมากกว่า 45% บนความกังวล ผลประกอบการและธุรกิจ Secured loan อย่างไรก็ตามผลประกอบการไตรมาส 3 ที่ประกาศออกมาเติบโตกว่า 40% และจากการศึกษาในรายละเอียดเรากลับมองว่า ทิศทางนี้ถือเป็นโอกาส และความท้าทายครั้งใหม่ในการเติบโตของ JMT 

          เรามองเห็นโอกาสการเติบโตของ JMT แบบ Snowball ในไตรมาส-ไตรมาส บนหนี้เสียที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง ท่ามกลางภาวะที่สินเชื่อยังขยายตัวไม่หยุด และการรุกเข้าสู่ตลาดใหม่ที่หนุนศักยภาพเติบโตในระยะยาว เราแนะนำ "ซื้อ" ราคาเหมาะสมปี 62 ที่ 15.30 บ./หุ้น อิง P/E'62 ที่ 23X ให้เหมาะสมกับที่กำลังอยู่ใน growth stage แบบจับต้องได้ บนกำไรปี 2562 ที่ 590 ลบ. +25%YoY คิดเป็น PEG = 0.9X 

 

          Trading idea - ทยอยสะสม EGCO เราประเมิน Downside จำกัด ในขณะที่โครงการที่เกาหลีคิดเป็นมูลค่าเพิ่มอีกถึง 14.0บาท (จากระดับ 259.0บาท)

 

          Rebound ไม่ผ่าน 1645, ยังคงแนวโน้มขาลง มองแนวรับถัดไป 1620:  ดัชนีแกว่ง Sideway ในกรอบแคบโดยระหว่างวันสามารถปรับตัวขึ้นทดสอบแนวต้าน Gap ที่ 1645 แต่ไม่สามารถผ่านได้ จากนั้นแกว่งอ่อนตัวลงต่อ เนื่องจากขณะนี้ดัชนีแกว่งใต้ 1665 ประกอบกับเริ่มเกิดสัญญาณลบใน MACD จึงมองว่าดัชนีมีแนวโน้มปรับตัวลต่อ มองแนวรับถัดไปที่ 1620 และ 1600 ตามลำดับ สำหรับนักลงทุนที่ยังไม่มีหุ้นแนะนำให้ชะลอการเก็งกำไรจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือ Rebound อย่างมีนัยยะ หรือหากยังมีหุ้นจังหวะRebound ระหว่างวันยังมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ตการลงทุนกลยุทธ์การลงทุน 1) มีหุ้น: เนื่องจากดัชนีหลุด 1645 ฉะนั้นต้อง Lock Profit หรือ Stop Loss  โดยจังหวะ Rebound ระหว่างวันมองเป็นโอกาสขายเพื่อลดพอร์ต  2)  ไม่มีหุ้น: แนะนำรอดูแนวโน้มที่แนวรับถัดๆไปจนกว่าดัชนีจะเริ่มหยุดลงหรือ Rebound อย่างนัยยะ

          แนวรับ : 1600, 1620 แนวต้าน : 1645, 1650

 

Keep an eye on…          

          ปัจจัยต่างประเทศ:  จับตา EC พิจารณางบขาดดุลอิตาลี -

          ปัจจัยในประเทศ:   วันนี้ไทยรายงาน GDP ไตรมาส 3

 

          AMATA  (B 22.70-23.00, Tp 24.00//24.50, Cut 22.50)

          THANI (B 8.80-8.90, Tp 9.25//9.50, Cut 8.60)

 

 

ANAN  ตุนแบ็กล็อกรับรู้ 4 ปี เปิด 2 โครงการใหม่ 6.4 พันล. (ทันหุ้น)

          ANAN ตุนแบ็กล็อกในมือ 4.9 หมื่นล้านบาท รองรับรายได้ 4 ปี "ชานนท์ เรืองกฤตยา" ย้ำเป้ารายได้ปีนี้ตามนัด 3.8 หมื่นล้านบาท แย้ม Q4/2561 จ่อเปิด 2 โครงการใหม่มูลค่า 6.4 พันล้านบาท ส่งท้ายปีหวังโกยยอดเพิ่ม ด้านโบรกเกอร์ชูแววปันผลครึ่งหลัง 2.7% แนะ "ซื้อ" เป้าหมาย 5.20

          ความเห็น : เราคาดว่าปีนี้ ANAN จะมีกำไรสุทธิเติบโตเด่นอย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 60% จากการบันทึกรายได้ของทั้งโครงการของ ANAN เองและการบันทึกรายได้จาก JV อย่างไรก็ตามการเติบโตของปี 2562 จะไม่เด่นอย่างปีนี้ คาด EPS ปี 2562 เติบโตประมาณ 12% เราแนะนำ Trading Buy ราคาเป้าหมายปี 2562 ที่ 6.50 บาท/หุ้น แนะสำหรับการลงทุนใน 2H61 เทคนิคเข้าเขต Oversold ลุ้นการฟื้นตัว ต้าน 4.2 รับ 3.9 บาท

 

เมเจอร์เร่งรุกเทียร์ 2 รับตลาดหนังไทยโต (โพสต์ทูเดย์)

          เมเจอร์เดินหน้าขยายโรงหนังเทียร์ 2 รองรับภาพยนตร์ไทยแนวโน้มคึก หลังพบตลาดต่างจังหวัดยังมีช่องว่าง

          ความเห็น : การขยายโรงหนังทำให้มีโอกาสเพิ่มรายได้จากการฉายหนังไทย ในปี 2562 MAJOR จะเปิดโรงหนังไม่ต่ำกว่า 50 โรง เน้นที่ต่างจังหวัด โดยเปิดสาขาละ 1-3 โรง และลดต้นทุนคงที่โดยเปลี่ยนจากการเช่าพื้นที่เป็นการแบ่งรายได้ (Revenue sharing) กับผู้ให้เช่าพื้นที่ แนะนำ ซื้อ ราคาเป้าหมาย 30 บาท เทคนิคลุ้นรีบาวน์ ต้านสั้น 23 รับ 22 บาท

 

JMT ดีลซื้อหนี้เข้าพอร์ตลุ้นทั้งปีแตะ 1.7 แสนล้าน (ทันหุ้น)

          JMT ปักหมุดรายได้ปี 2562 โตไม่ต่ำ 30% มองภาพรวมหนี้ด้อยคุณภาพยังขยายตัวต่อเนื่อง เผยอยู่ระหว่างเจรจาซื้อหนี้ที่มีหลักประกัน-ไม่มีหลักประกัน 2-3 ดีล มูลค่าหลัก 1,000 ล้านบาท คาดได้ข้อสรุปต้นเดือนธันวาคมนี้ มั่นใจพอร์ตบริหารจัดการหนี้รวมแตะระดับ 1.7 แสนล้านบาท ด้านฟีนิกซ์ประกันภัย มั่นใจปีหน้าผลงานเทิร์นอะราวด์ ลุยต่างประเทศ

          ความเห็น :  การซื้อพอร์ตหนี้ใหม่คาดจะช่วยหนุนให้แนวโน้มกำไร 4Q61 ขยายตัวได้อย่างต่อเนื่อง อีกทั้งประสิทธิภาพในการเก็บหนี้ก็ปรับตัวสูงขึ้นด้วย ขณะที่ต้นทุนยังทรงตัว โดยแนวโน้มปีหน้า คาดยังคงสดใสจากมาตรฐานบัญชีใหม่ IFRS 9  ที่จะเริ่มใช้ในปี 2563 จะทำให้ธนาคารเร่งขายหนี้ออกมา เป็น Upside ให้พอร์ตหนี้และกำไรในปีหน้าอาจดีกว่าที่เราคาดไว้ที่ 25% แนะนำ ซื้อ ราคาเหมาสมปี 2562 เท่ากับ 15.30 บ./หุ้น เทคนิคสวยต้าน 13 รับ 11.3 บาท

 

PTT ส่งเงินรัฐ 5.6 หมื่นล. 'คลัง'เล็งรีดปันผลเพิ่ม (ข่าวหุ้น)

          9 เดือนแรกปีนี้ ปตท. (PTT) จ่ายเงินปันผลและภาษีให้รัฐกว่า 56,000 ล้านบาท และนับจากเข้าตลาดหลักทรัพย์ฯ ส่งให้รัฐรวม 8.4 แสนล้านบาท ด้าน สคร.ตั้งเป้ารีดรายได้รัฐวิสาหกิจปี 62 เพิ่มเป็น 1.68 แสนล้านบาท ปตท.รับไป 1.8 หมื่นล้านบาท ปันผลครั้งต่อไปเดือนมีนาคม คาดเพิ่มขึ้นมากกว่า 12 บาทต่อหุ้น จากที่คลังถือหุ้น 51.11%

          ความเห็น :  เราคาดปันผล FY2561 ของ PTT ไว้ที่ 2.18 บาทต่อหุ้นคิดเป็นผลตอบแทน 4.5% จ่ายไปแล้วสำหรับ 1H61 0.80 บาท คงเหลือสำหรับ 2H61 เท่ากับ 1.38 บาท ต่อหุ้น รวมปันผลทั้งปี 2561 เพิ่มขึ้นจาก 2.00 บาทในปี 2560 แนะนำ ซื้อสะสม เป้าหมาย 58 บาท เทคนิคลุ้นดีดขึ้น ต้าน 50/52 รับ 48 บาท

 

GPSC ลั่นปีหน้ารายได้โตกว่าปีนี้ จ่อ COD โรงไฟฟ้า 3 แห่ง กำลังผลิต 392 MW (ข่าวหุ้น)

          GPSC ชี้ หาก "กกพ." ยกคำร้องยื่นอุทธรณ์กรณี กกพ.มีมติเบรกเข้าซื้อหุ้น GLOW เล็งพิจารณายื่นคำร้องต่อศาลปกครองต่อไป ส่วนปี 2562 คาดรายได้โตกว่าปี 2561 เหตุจ่อ COD โรงไฟฟ้าเพิ่ม 3 โครงการ กำลังผลิตรวม 392 MW หนุนสิ้นปี 2562 มีกำลังผลิตรวม 1,922 MW เล็งลงทุนโรงไฟฟ้า SPP ในเมียนมาปี 2562 

          ความเห็น : กระบวนการอุทธรณ์ยังอยู่ในการพิจารณาของ กกพ. ส่วนการยื่นศาลปกครองเป็นเรื่องที่ผู้บริหารจะทำการพิจารณาต่อไป โครงการต่างๆ ทั้ง 3 โครงการ ได้แก่ XPCL NL1 และ CUP4 เป็นโครงการที่อยู่ในแผนและรวมไว้แล้วในประมาณการ สำหรับโครงการในพม่ายังไม่มีความชัดเจนว่าจะลงนามสัญญาเมื่อใด เราชอบ GPSC จากการเติบโตไปกับกลุ่ม PTT ซึ่งต้องรอการประกาศแผนต่อไปในอนาคต แนะนำ Trading Buy เป้าหมาย 66 บาท ในกลุ่มโรงไฟฟ้าเราเลือก EGCO เป็น Top pick